ลึกแต่ไม่ลับ โดยจรัญ พงษ์จีน : ไฮไลต์ “ข้อ16”

 

เหลือเวลาอีกไม่เท่าไหร่ “ร่างแรก” แห่งรัฐธรรมนูญฉบับ “มีชัย ฤชุพันธุ์” จะแล้วเสร็จ ตามโปรแกรมวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2559 “คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ” (กรธ.) เต็มคณะ จำนวน 21 คน จะยกพลขึ้นบก นำข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนไปทำการขัดเกลาที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อแก้ไข ปรับปรุง ถ้อยคำ เนื้อหา แล้วจะต้องแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบ ภายในวันที่ 29 มีนาคม

เรื่องที่ว่าแน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง ทำท่าว่าจะไม่แน่ไม่นอนเสียแล้ว คือข้อเสนอแนะของ “คณะรัฐมนตรี” ที่ขว้างก้อนหินถามทางตามาตรา 39/1 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557

เพื่อประกอบการพิจารณาของ “กรธ.” ในการปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ อันเป็นข้อเสนอที่รวบรวมมาจากกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ลงนามโดย “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการแทนนายกรัฐมนตรี เนื่องจาก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เดินทางไปร่วมประชุมสุดยอด “สหรัฐอเมริกา-ผู้นำอาเซียน” ตามคำเชิญของ “บารัค โอบามา” ที่แคลิฟอร์เนียพอดีนั้น

Advertisement

“คณะรัฐมนตรี” ขอเสนอความคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณา จำนวน 16 ประเด็น

“ไฮไลต์” อยู่ที่ “ข้อ 16” ซึ่งคณะรัฐมนตรี มองว่า ขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญจำนวนมาก เป็นความไม่ไว้วางใจและไม่แน่ใจในระบบ ตัวบุคคลที่จะเข้าสู่ระบบ อาจจะทำให้บ้านเมืองเกิดความโกลาหล ขัดแย้ง ไม่สงบเรียบร้อย เข้าสู่ภาวะรัฐที่ล้มเหลวดังเช่นก่อนพฤษภาคม 2557 ย้อนกลับมาเกิดขึ้นอีก ภายหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้

“ครม. จึงเห็นว่า หากบัญญัติเนื้อหาและบังคับใช้รัฐธรรมนูญเป็น 2 ช่วง คือช่วงเฉพาะกิจเฉพาะกาลในระยะแรก ซึ่งอาจไม่ยาวนานนัก โดยใช้หลักเกณฑ์อย่างหนึ่งเสมือนข้อยกเว้น ตามความจำเป็นแห่งสถานการณ์เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง แต่อยู่บนพื้นฐานการปกครองของระบอบประชาธิปไตย ที่มีการเลือกตั้ง ส.ส. ในระดับหนึ่ง อย่างมีดุลยภาพในช่วงเปลี่ยนผ่าน”

Advertisement

ซึ่งในลำดับต่อมา “ขบวนการหัวใส” หยิบข้อ16 ของ “ครม.” มาทำการแปลงสาร เนื้อหาสรุปโดยสังเขปว่า “จะต้องมีการเลือกตั้ง 2 ขยัก 2 ภาคส่วน”

กล่าวคือ หลังการทำ “ประชามติ” ในเดือนกรกฎาคมนี้ จะขยับโรดแม็ปเลือกตั้งให้เร็วขึ้นภายในปลายปี 2559 เป็นการเลือกตั้ง “ครึ่งเดียว” เฉพาะ ส.ส.เขตเลือกตั้ง จำนวน 350 ที่นั่ง

อีก 200 ที่นั่งมาจากการแต่งตั้ง หรือ “ลากตั้ง” บนสมมุติฐานว่า เป็น “วุฒิสมาชิก” เพื่อทำหน้าที่เสมือน “พี่เลี้ยง” ช่วงบ้านเมืองเปลี่ยนผ่าน มีอายุราชการ 5 ปี

ข้อเสนอแนะของ “ครม.” ลำพัง “นักลากตั้งอาชีพ” ที่มือตุ๊กแกเป็น “ไอ้ห้อย-ไอ้โหน” อยู่ใน “แม่น้ำ 5 สาย” ขานรับ เพราะฝันหวานว่าตัวเองอาจจะถูกหวยตีนบวม ได้รับนิมนต์กลับชาติมาเกิด เป็น “ส.ว.ลากตั้ง” แน่นอน ไม่มีน้ำหนักเท่าไหร่

แต่พลันที่ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หัวหน้า คสช.-นายกฯ ขานรับแนวคิด สูตร ส.ว. แต่งตั้ง 5 ปี

“ผมเคยพูดมาตั้งนานแล้วว่า มันมีปัญหา จึงต้องมาคิดว่า ทำอย่างไรให้เกิดความสมดุลในช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนผ่าน ถึงได้พูดตลอดว่ารัฐธรรมนูญก็ว่ากันไป บทเฉพาะกาลก็แยกออกมาว่าจะทำอย่างไร คำว่า 5 ปีนั้น เขาอยู่ได้ 5 ปีจริง เขาก็ทำหน้าที่ของเขาในฐานะ ส.ว. เขามีหน้าที่พิจารณาร่วมกับ ส.ส. ทั้ง 2 สภา เพราะฉะนั้น ถ้ามีอะไรเป็นประเด็นปัญหา เขาก็แค่ขอเปิดประชุมสภา เพื่อพิจารณาโดยอภิปราย ซึ่งไม่ใช่อภิปรายเรื่องทุจริตเพียงอย่างเดียว ก็ต้องมาพูดคุยด้วยว่าแผนปฏิรูปที่ทำมาทำไปแค่ไหนแล้วอย่างไร”

“บิ๊กตู่” กล่าวและว่า พล.อ.ประวิตร เข้าใจเหมือนกับตน แต่ พล.อ.ประวิตร มีความคาดหวังว่าไม่ต้องการให้ปัญหาลุกลามบานปลาย ถ้าปล่อยให้เป็นแบบเดิม ส.ว. และ ส.ส. ต่างก็เลือกเข้ามา มีญาติพี่น้อง มีลูกเมีย มันเยอะไปหมด ประเทศชาติมันก็แกว่ง มันไปไม่ได้

น้ำเสียงอันคมเข้มของ “พล.อ.ประยุทธ์” ต่างหากเล่าเป็นตัวชงข้อเสนอแนะของ ครม. เวิร์ก น้ำหนัก และมีความเป็นไปได้สูงขึ้น

แต่ “ของตาย” ทำท่าจะไม่ “ล้านเปอร์เซ็นต์” เมื่อ “พล.อ.ประยุทธ์” ในฐานะหัวหน้า คสช. เชิญชวน “แม่น้ำ 5 สาย” ไปร่วมประชุมที่ห้องเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อสายๆ ของวันที่ 7 มีนาคม

ทั้ง “คสช.-ครม.-สนช.-สปท.” ระดับคีย์แมน มาสมทบกันครบครัน ขาดแต่ “สาย กรธ.”

ซึ่งทาง “มีชัย ฤชุพันธุ์” แจ้งต่อ 21 อรหันต์ทองคำก่อนล่วงหน้า ว่า “กรธ. เป็นผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ หากเข้าไปร่วมประชุมจะทำให้สังคมมองภาพพจน์ออกมาไม่ดี ถูกพรรคการเมือง ประชาชนโจมตี และเกิดข้อครหาได้”

ประธานยกร่างฯ ระบุเหตุผลที่หลบฉากไม่เข้าประชุมแม่น้ำ 5 สาย ว่า “เพราะหากเข้าร่วม กลัวว่าจะถูกผูกมัด”

ผู้สื่อข่าวถามถึงปมเลือกตั้ง 2 ขยัก เพื่อเปิดทางสะดวกให้มีการแต่งตั้ง ส.ว. 200 คน มาประคับประคองสถานการณ์บ้านเมือง 5 ปี

“กูรูมีชัย” ยันหัวเด็ดตีนขาดว่า ประเด็นที่มา ส.ว. ทาง “กรธ.” ได้พิจารณาเสร็จแล้ว หลักการยังคงเดิม ซึ่งก็หมายถึง วุฒิสมาชิกมาจากการเลือกตั้งทางอ้อม จาก 20 กลุ่มสาขาอาชีพ เลือกไขว้กันเองข้ามกลุ่ม

จับอาการของประธานยกร่างที่ชื่อ “มีชัย ฤชุพันธุ์” ดูแล้ว เชื่อขนมกินล่วงหน้าได้ว่า เรื่องที่คิดว่าง่าย ก็อาจจะไม่ง่าย

ที่หมายมั่นกันว่า “ข้อ 16” ของ “คณะรัฐมนตรี” ซึ่งในไม่ช้าไม่นานอาจจะนำไปมัดข้าวต้ม เป็น “แพ็กเกจรวม” ให้เป็นข้อเสนอแนะของ “ครม.-สนช.-สปท.” เพื่อให้มีน้ำหนักมากยิ่งๆ ขึ้น ก็อาจจะไม่แน่นอนเสมอไปเสียแล้ว

รอดูใจการประชุม “กรธ.” ที่หัวหิน ในวันที่ 23 มีนาคม ว่าหวยจะออกหน้าไหน อย่างไร

รู้แต่ว่า หากหยิบเอาข่าว กระบวนการยกร่าง รธน. ซึ่งคนอีกฝ่ายเชื่อว่า ท้ายที่สุดแล้ว “กรธ.” จะต้องบัญญัติ “แผนยุทธศาสตร์ชาติ” ไว้ใน “บทเฉพาะกาล” วันยังค่ำ นำไปมิกซ์กับข่าวคราว เหยียบตาปลากัน ระหว่าง “พล.อ.” กับ “พล.ร.อ.” บอกคำเดียวว่า

“ประมาทไม่ได้”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image