นาม ท่าน “ประวิตร” ภาวะ ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน ครม. “ประยุทธ์ 5”

สถานการณ์ปรับ ครม.อันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน เพิ่มความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับทั้งจากปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก

เริ่มต้นจากการลาออกของ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล

แต่เพียงเวลาผ่านไปไม่นานนักก็เกิดกระแสและความต้องการให้ “ปรับใหญ่” มากกว่ากระทรวงแรงงานเพียงกระทรวงเดียว

แม้กระทั่ง “ฤๅษีเกวาลัน” ก็ระบุว่า 10 ตำแหน่ง

Advertisement

แรกๆ ความเห็นพุ่งไปยังกระทรวงทางด้านเศรษฐกิจเน้นไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกระทรวงพาณิชย์ เป็นด้านหลัก

เพราะว่าไม่สามารถแก้ปัญหาราคาสินค้า “เกษตร” ให้ดีขึ้นได้

แต่เมื่อผ่านมา 2 สัปดาห์เริ่มปรากฏรายชื่อเป็น 1 พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ 1 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ 1 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

Advertisement

ทำไมจึงมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ด้วย

หากมองผ่านชื่อของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ก็พอเข้าใจได้เพราะผ่านกระทรวงพาณิชย์ มาอยู่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ก็แทบไม่มี “ผลงาน” อะไรเลย

เมื่อราคาสินค้าเกษตรมีแต่เสื่อมทรุดตกต่ำ ไม่ว่าราคายางพารา ไม่ว่าราคาข้าว ไม่ว่าราคาปาล์มน้ำมัน พลันที่เกิดปัญหาและความต่อเนื่องจาก “น้ำท่วม”

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ก็กลายเป็น “ตำบลกระสุนตก”

ไม่ว่าผลสำรวจจากโพลด้านหลัก (กรุงเทพโพลล์ นิด้าโพล สวนดุสิตโพล) ไปในทางเดียวกันไม่ว่าเสียงจากนักการเมืองไปในทางเดียวกัน

เช่นเดียวกับชื่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พอจะเข้าใจ

เข้าใจตั้งแต่เรื่องทีจี 200 รถถังยูเครน เรือเหาะ และเมื่อประสบเข้ากับการลงนามอนุมัติป่าที่ขอนแก่น ก็เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง

แต่เมื่อมีนามของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงต้องทำความเข้าใจ

น่าสังเกตว่าข้อเสนอให้มีการปรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ได้มาจากนักการเมือง ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์

หากแต่มาจาก “กลุ่ม” และฝ่ายในทางการเมือง

เสียงที่ดังและมีความต่อเนื่องมาในห้วง 2 ปีหลังมาจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และบางส่วนอยู่ใน กปปส.

เน้นอย่างเจาะจงไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

อย่าได้แปลกใจที่เมื่อมีชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป.ป.ช.กระแสวิพากษ์วิจารณ์ยิ่งดังกระหึ่ม

กระทั่ง สรุปได้ว่าเป็นเพราะ “วงษ์สุวรรณ”

ไม่ว่ากระแสกดดัน ผลักรุนในกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะมีการเล็งผลเลิศมากน้อยเพียงใดแต่ก็สร้างความหนักใจให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นอย่างมาก

เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เป็น “พี่”

ขณะเดียวกัน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ อันตกอยู่ในสภาพ “ตำบลกระสุนตก” ก็เป็นเพื่อน หอบหิ้วกันมาตั้งแต่หลังรัฐประหาร

พลันที่มีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประสานเข้ากับชื่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ประสานเข้ากับชื่อ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ

ก็ตระหนักในความหนักใจ

ทั้งๆ ที่ คสช.มีความรู้สึกว่ากำลังอยู่ในสถานะ “ขาขึ้น” ทางการเมือง ประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจแล้วเหตุใดจึงกลายเป็น “ตำบลกระสุนตก”

เป็นแรงกดดันจาก “พันธมิตร” ใน “แนวร่วม”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image