มรสุม โลหิต ประวิตร วงษ์สุวรรณ หนักหนา สาหัส

ต้องยอมรับว่า สถานการณ์ก่อนปรับ ครม.ประยุทธ์ 5 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อยู่ในสภาพเป็นเหมือนกับ “ตำบลกระสุนตก”

ถูก “เขย่า” อย่างเป็น “ระบบ”

รุนแรงถึงขนาดอุปมาฉันใดว่าเป็น “ตัวอับเฉา” ติดมากับสำเภาจากเมืองจีน อันเท่ากับเป็นอุปไมยฉันนั้นว่าเป็น “ตัวถ่วง”

ตัวถ่วงต่อ “ภาพลักษณ์” ของ คสช.และของรัฐบาล

Advertisement

การรุกในประเด็นต้องตัดรัฐมนตรี “สายทหาร” ออกไป จึงมิได้หมายเพียง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ เท่านั้น

หากเด่นชัดว่า เป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

การยืนหยัดคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไว้ที่ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจสะท้อนความแน่วแน่ มั่นคงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ผลก็คือ แรงกระทบยิ่งหนักหนา

มีความแจ่มชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับว่า ปัจจัยบ่อนเซาะต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่กระหน่ำเข้ามา จากองค์ประกอบ 2 ส่วน

ส่วน 1 มาจาก “ภายนอก” แน่นอน

ขณะเดียวกัน ส่วน 1 อันหวาดเสียวเป็นอย่างมากมาจากปัจจัย “ภายใน” ซึ่งมากด้วยความละเอียดอ่อนอย่างเป็นพิเศษ

เพราะว่าตัว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็มี “ส่วน”

อย่างเช่นกรณีที่หลุดปากให้ความเห็นต่อกรณีการเสียชีวิตอย่างมากด้วยเงื่อนปมของ “น้องเมย” จะไปโทษใครก็ไม่ได้

ต้องโทษ “ปาก” ของตัวเอง

อย่างเช่นกรณีที่นำนาฬิกายี่ห้อหรู

ริชาร์ด มิลล์ ไปเผยแสดงระหว่างถ่ายรูป ครม. “ประยุทธ์ 5” เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม

เด่นชัดว่าต้องโทษ “คนที่บ้าน” ว่าไม่ติง-เตือน

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็สะสมความรับรู้มาเป็นลำดับ ตั้งแต่ที่ปรากฏผ่านกรรมาธิการกิจการตำรวจของ สปช. กระทั่ง การใช้คำว่า “ตัวอับเฉา” เปรียบเปรย

รากที่มาของ “ปรากฏการณ์” นี้มาอย่างไร

แน่นอน มิได้มาจากพรรคเพื่อไทย มิได้มาจาก นปช.คนเสื้อแดง ตรงกันข้าม มาจากบางคนบางส่วนอันเคยเคลื่อนไหวตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 และต่อเนื่องมายังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

ไม่อย่างนั้นจะได้ไปนั่งอยู่ใน “สปช.” ละหรือ

คนเหล่านี้บางคนแนบแน่นอยู่กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และบางคนก็แนบแน่นอยู่กับขบวนการชัตดาวน์ของ กปปส.

ก่อนนี้ก็เคยเป็น “คนใน” แต่ในวันนี้กลายเป็น “คนนอก”

คนนอกซึ่งมาจากคนในอย่างนี้แหละที่กำลังสาดน้ำร้อน น้ำเย็น เข้าใส่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ถามว่าเป้าหมายในการแซะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อย่างเป็นระบบ อย่างเป็นกระบวนการ ต้องการอะไร

คำตอบ คือ ต้องการ “ด้อยค่า”

คำตอบ คือ ต้องการแยก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกไป โดดเดี่ยว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เหมือนกับ “หวังดี” แต่ก็คลุมเครือ เลือนจาง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image