ที่มา | คอลัมน์สยามประเทศไทย มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
วิพากษ์วิจารณ์สืบเนื่องมานานมาก เรื่องคุณภาพไม่ได้มาตรฐานสากลของหนังและละครไทย ไม่น้อยกว่า 50 ปีมาแล้ว ตั้งแต่แรกมีคำว่า “น้ำเน่า” ในวรรณกรรม
ถ้าไม่มีสิ่งนี้ ก็ไม่มีสิ่งนั้น ล่าสุดโดยไม่ฟังอีร้าค้าอีรม ผู้ถืออำนาจเผด็จการทหารก็เม้าธ์ไปกับเขาด้วย คงจะลืมไปหรือไม่รู้มาก่อนว่าทุกอย่างเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันหมด
เสรีภาพอย่างเสมอภาคในความคิดทางเศรษฐกิจการเมืองและวัฒนธรรมในไทย ต้องมีอย่างกว้างขวางเป็นพื้นฐานของสังคมเสียก่อน
จากนั้น หนัง, ละคร, เพลงดนตรี ฯลฯ ของไทยถึงจะมีพัฒนาการในแนวทางสร้างสรรค์สู่คุณภาพ แล้วประสบความสำเร็จตามต้องการสู่มาตรฐานสากล
ยกตัวอย่าง ประวัติศาสตร์แห่งชาติของไทยเป็นนิยายยกย่องวีรบุรุษ ที่ตัดตอนจากพระราชพงศาวดารซึ่งไม่มีวิถีชีวิตจริงทางสังคมเศรษฐกิจการเมืองของคนชนชั้นต่างๆ ทั้งระดับสูงและระดับล่างสามัญชนชาวบ้าน
แต่ถ้าใครคิดต่างจากนี้เอาไปทำหนังละครหรือเพลงดนตรี จะถูกกล่าวหาทันทีว่าล้มเจ้า และมีสิทธิ์ติดคุก (ถ้าอย่างเบาๆคือถูกห้ามเผยแพร่สู่สาธารณะ คนทำงานก็เจ๊ง)
พลังของหนังละครและเพลงดนตรีของไทยตั้งแต่เริ่มแรกจนทุกวันนี้ จึงถูกแช่แข็งไว้ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ประวัติศาสตร์ขาดอนาคต
แล้วจะมาเรียกร้องอะไรกันนักหนา?
การศึกษาไทยแบบเจ้าขุนมูลนาย
ในทางสากล ส่วนมากหรือเกือบหมดจัดการศึกษาเพื่ออนาคตข้างหน้าด้านต่างๆ เช่น ธุรกิจการค้า, อุตสาหกรรม, เกษตรกรรม, การเมืองการปกครอง, วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ฯลฯ
จึงเน้นความแตกต่างหลากหลายทางศิลปวิทยาการ ที่อยู่ร่วมกันอย่างเสมอภาคและเสมอหน้าระนาบเดียวกันในสังคมแนวราบ ที่มีความเท่าเทียมทางกฎหมาย และการเข้าถึงทรัพยากร
แต่ไทยจัดการศึกษาแห่งชาติทั่วประเทศด้วยมาตรฐานเดียวกัน แล้วกำหนดให้แต่งเครื่องแบบเหมือนกันทั้งประเทศ เพื่อป้อนระบบราชการแบบเจ้าขุนมูลนาย
เมื่อสำเร็จการศึกษาออกมาจึงยอมจำนนต่ออำนาจไม่เป็นธรรม แล้วฟูมฟายถึงอดีตอันรุ่งเรืองของบรรดาเจ้าขุนมูลนายที่คอยชี้นิ้วเหนือไพร่บ้านพลเมือง ดังที่เห็นและเป็นอยู่ขณะนี้
เช่น ข้าราชการไทยแต่งเครื่องแบบสีกากีชี้นิ้วสั่งขี้ข้าคืออาณาประชาราษฎร แต่สีกากีเป็นสีขี้ข้าอาณานิคมอังกฤษ จะพบทั่วไปเป็นเครื่องแบบของข้าราชการกลุ่มเมืองขึ้นอังกฤษ เท่ากับราชการไทยยอมรับการเป็นขี้ข้าอีกทอดหนึ่ง
นักปราชญ์แต่ก่อนเคยบอกว่า คนดูแค่ไหน หนังไทยก็แค่นั้น
ขออนุญาตปรับเป็น การศึกษาไทยแค่ไหน หนังไทยละครไทยก็แค่นั้น