| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีบทสัมภาษณ์น่าสนใจชิ้นหนึ่งเผยแพร่ลงในเว็บไซต์มติชนออนไลน์ โดยวรวิทย์ ไชยทอง ผู้สื่อข่าวของมติชน ไปพูดคุยกับ กษิต ภิรมย์ อดีต รมว.ต่างประเทศ รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, อดีต สปท. รวมถึงเป็นผู้เคยเข้าร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งกับกลุ่มพันธมิตรฯ และ กปปส.
ประเด็นหลักของบทสัมภาษณ์ชิ้นดังกล่าว ก็คือ “การเมืองไทยยุคทหารนำ”
ใครๆ ที่ได้อ่านแล้ว คงพบว่าคำตอบของกษิตกลายเป็นอีกหนึ่งเสียงของคน (น่าจะ) คุ้นเคย/ผู้เคยสนับสนุน ที่แสดงความผิดหวังต่อรัฐบาล คสช.
อดีต รมว.ต่างประเทศของรัฐบาลประชาธิปัตย์ เริ่มต้นด้วยการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทหารที่ไม่สามารถดำเนินการปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องการกระจายอำนาจและการลดความเหลื่อมล้ำ
ตรงกันข้าม ตลอดช่วงเวลา 2 ปีที่เขาเข้าไปเป็น สปท. กษิตกลับเห็นแนวโน้มของการเพิ่มอำนาจให้ส่วนกลาง และการริเริ่มโครงการเมกกะโปรเจ็กต์ต่างๆ ที่รัฐบาลร่วมมือกับกลุ่มทุนใหญ่ๆ
ยิ่งกว่านั้น กษิตยังแสดงอาการอึดอัดคับข้องใจต่อบรรยากาศ “ปลอดประชาธิปไตย” ที่ยืดเยื้อยาวนานมาร่วมสี่ปี ซึ่งสัมผัสได้จากคำพูดคำตอบเหล่านี้
“…ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างน้อยยังมีเวทีให้พูดในรัฐสภา ประชาชนก็ยังทราบว่ารัฐบาลทำอะไรอยู่ แต่นี่ประชาชนถูกปิดหูปิดตา รู้อีกที ก็ออกเป็นมติ ครม. แล้วไม่มีกระบวนการวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ จะอ้างทำประชาพิจารณ์ ก็ทำโดยรัฐ การปฏิรูปทั้งหมดรัฐบาลไม่ได้ทำ เพราะคิดว่าจะอยู่ในอำนาจต่อไป ต่างกับยุคพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ที่หมดภารกิจก็จากไป
“ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์บอกจะมาจัดโต๊ะ แต่ตอนนี้เหมือนจะนั่งกินเองไปตลอด กลายเป็นทหารมีอำนาจการเมือง ข้าราชการประจำยุ่งกับการเมือง ซึ่งขัดกับระบอบเสรีประชาธิปไตย และการแยกอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ”
หรือ
“มันก็จะมีแม่ยกและชนชั้นกลาง 4-5 ล้านคน รวมถึงนักธุรกิจ สื่อ นักวิชาการ ชอบความมีเสถียรภาพของระบบเผด็จการ แต่อย่าลืม เรายังไม่ได้ถามคนทั้ง 62 ล้านคน และอย่าลืมว่ายังไม่ได้ถามผมเลย เพราะถามผม ผมก็จะตอบว่าไม่ชอบ ผมต้องการสังคมที่มีการพูดจากัน สามารถที่จะแสดงออก สามารถที่จะชุมนุมได้ สามารถที่จะด่าทอกันได้บ้างก็ไม่เป็นไร
“ไม่ใช่อยู่กันแบบกดๆ แบบนี้ ผมถามต่อว่าการใช้อำนาจตามมาตรา 44 มันโปร่งใสไหม ชอบด้วยธรรมะหรือไม่ นี่มันคือการใช้อำนาจดิบอย่างเดียวนะ อยากรีเซตพรรคการเมืองก็สั่ง ทั้งที่กฎหมายพรรคการเมืองที่ตัวเองร่างก็บังคับใช้อยู่”
นี่อาจเป็นเสียงสะท้อน, อารมณ์ และความรู้สึกทางการเมืองแบบหนึ่ง ที่คงเริ่มปรากฏชัดเจนแพร่หลายยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ตลอดช่วงปีนี้
น่าสนใจว่ารัฐบาล คสช. จะมีปฏิกิริยาตอบกลับอย่างไร ต่อกระแสความคิด-ความเคลื่อนไหวระลอกล่าสุดดังกล่าว
คลิกอ่านที่นี่… “กษิต ภิรมย์” การเมืองไทยยุคทหารนำ” “4ปีเหลว ปฎิรูปไม่สำเร็จ-วางเกมอยู่ในอำนาจต่อ”
…………..
ปราปต์ บุนปาน
