ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
---|
มาตรการ “เข้ม” อันมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณี Start Up People บริเวณสกายวอล์กสี่แยกปทุมวัน
ด้วยการเพิ่ม ”หมายเรียก”
จาก 7 ในเบื้องต้นเป็นอีก 36 ในเบื้องกลางรวมแล้วเท่ากับ 43 และทำท่าจะเพิ่มอีก 60 กลายเป็น 109 คน
ถือได้ว่าเป็นการตัดไม้ข่มนาม
ไม่เพียงแต่เป็นการสยบการชุมนุมเมื่อตอนเย็นของวันที่ 27 มกราคมเท่านั้น หากแต่ยังเท่ากับเป็นการกำราบไปยังการประกาศจะชุมนุมในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ถือได้ว่าเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม
แต่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ควรลืมและมองข้ามเป็นอันขาดก็คือ คดีนี้เป็น ”คดีการชุมนุมเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง”
ตรง ”การเลือกตั้ง” ต่างหากที่ละเอียดอ่อน
การชุมนุมที่บริเวณสกายวอล์กสี่แยกปทุมวัน อาจมีจุดอ่อนอย่างน้อย 3 จุด อย่างที่เจ้าพนักงานสอบสวนของ สน.ปทุมวัน มองเห็น
1 เป็นการขัดคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 3/2558
1 เป็นการผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 มาตรา 7 วรรคแรก ฐานร่วมกันชุมนุมในที่สาธารณะในรัศมี 150 เมตร จากวังของพระรัชทายาทหรือของพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าขึ้นไป
1 ทั้งยังผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116
แต่ในเมื่อการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมอย่างที่ระบุเป็นชื่อคดีว่า ”การชุมนุมของกลุ่มเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง”
ความเข้มจากข้อหาอาจก่อให้เกิดการแปรเปลี่ยนได้
เพราะการชุมนุมในลักษณะเดียวกันนี้มิได้เป็นหนแรก ตรงกันข้าม เมื่อเดือนมกราคม 2557 ก็เคยมีการชุมนุม ณ แยกปทุมวันมาแล้ว และมีจำนวนมากกว่านี้หลายเท่า
ยิ่งกว่านั้นการเรียกร้อง เลือกตั้ง ก็ยิ่งสอดรับกับ โรดแมป มิใช่หรือ
หากศึกษาการเคลื่อนไหวของ คสช.นับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา สิ่งที่ซึมซ่านอยู่โดยตลอดผ่านบทเพลงสุดฮิต คือ เราจะทำตาม “สัญญา” ขอ ”เวลา” อีกไม่นาน
เห็นได้จาก เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางไปพบ นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ก็เคยให้คำมั่นว่าจะเลือกตั้งอย่างเร็วปี 2558 อย่างช้าต้นปี 2559
กลายมาเป็น ”ปฏิญญา โตเกียว”
เห็นได้จาก เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางไปร่วมประชุม ณ สหประชาชาติ กรุงนิวยอร์ก ก็เคยให้คำมั่นต่อผู้นำนานาชาติว่าจะเลือกตั้งในปี 2560
กลายมาเป็น ”ปฏิญญา นิวยอร์ก”
เห็นได้จาก เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางไปเยือนสหรัฐก็ได้ให้คำมั่นต่อ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐว่าจะเลือกตั้งภายในเดือนพฤศจิกายน 2561
กลายมาเป็น ”ปฏิญญา ทำเนียบขาว”
การเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ว่าจะที่สกายวอล์กแยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 27 มกราคม หรือที่จะเกิดขึ้น ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันที่ 10 กุมภาพันธ์
เนื้อแท้แล้วก็คือ การขานรับต่อ ”คำมั่น” ที่เคยให้สัญญา มิใช่หรือ
ข้อเรียกร้องของกลุ่มนักศึกษา ประชาชนที่อยากให้มี ”การเลือกตั้ง” ตามคำประกาศและตามที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญกลายเป็นความผิดได้อย่างไร
เท่ากับความต้องการ ”เลือกตั้ง” ได้กลายเป็น ”อาชญากรรม” อย่างนั้นหรือ
เราจึงต้องดูว่า ความเข้มของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม หรือเป็นการสาดน้ำมันเข้าใส่กองไฟกันแน่
ไม่นานคงได้ ”คำตอบ”