ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
---|
สถานการณ์เดือนกุมภาพันธ์ 2561 หากนำไปเปรียบเทียบกับสถานการณ์เดือนกุมภาพันธ์ 2557 เมื่อ 4 ปีก่อนมีความแตกต่าง
แตกต่างอย่างชนิด “ขาว” กับ “ดำ”
คงจำกันได้ว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 เป็นการเคลื่อนไหวของ “กปปส.” สะท้อนออกอย่างเด่นชัดว่า ไม่ต้องการ “การเลือกตั้ง”
ไม่ว่าใน กทม. ไม่ว่าในหลายพื้นที่ภาคใต้
พวกเขาไม่ต้องการให้มี “การเลือกตั้ง” ถึงกับไม่ยอมให้ผู้สมัคร ส.ส.เดินทางไปสมัคร บางแห่งถึงกับต้องนำกำลังตำรวจ ทหารมาคุ้มกัน
มีคนบาดเจ็บ มีคนตาย
นั่นเป็นสถานการณ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 4 ปีก่อน แต่เมื่อมาถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2561 สถานการณ์กลับปรากฏ “คนอยากเลือกตั้ง” อย่างเด่นชัด
ถึงกับกล้าขัดคำสั่งหัวหน้า คสช.
ปรากฏการณ์ “คนอยากเลือกตั้ง” หากมองจากความเป็นจริงนังแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา ก็สามารถเข้าใจได้
เพราะบ้านเมืองว่างเว้น “การเลือกตั้ง” มาถึง 4 ปี
หลังสถานการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 หลังการเกิดขึ้นของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 สังคมการเมืองไทยได้เข้าสู่บรรยากาศแห่ง “การเลือกตั้ง”
ทำให้ได้ “รัฐบาล” ที่อยู่ได้ครบ 4 ปีตามวาระเป็นครั้งแรก
การเลือกตั้งจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2544 ไปยังเมื่อเดือนมกราคม 2548 คือปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในสังคมการเมืองของประเทศไทย
เมื่อการเลือกตั้งว่างเว้นผู้คนจึงถวิลหา
ยิ่งอยู่ในบรรยากาศแห่ง คสช.ซึ่งมาโดยกระบวนการรัฐประหารจากเดือนพฤษภาคม 2557 โดยใกล้จะถึงเดือนพฤษภาคม 2561 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ยิ่งทำให้เกิดปรากฏการณ์ “คนอยากเลือกตั้ง”
ปรากฏการณ์ “คนอยากเลือกตั้ง” ปะทุขึ้นอย่างเงียบๆ ท่ามกลางความขัดแย้งที่มีฝ่ายซึ่ง “ไม่อยาก” ให้มีการเลือกตั้งดำรงอยู่
เด่นชัดยิ่งว่า แสดงออกโดย “คสช.”
รูปธรรมก็คือ การเลื่อนแล้วเลื่อนอีกของ “โรดแมป” ที่เมื่อเดือนมิถุนายน 2557 ประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2558
แต่พอไปญี่ปุ่นก็บอกว่าจะมีในปี 2559
และเมื่อไปประกาศต่อหน้าประมุขและผู้นำนานาชาติที่สหประชาชาติกรุงนิวยอร์ก ก็บอกว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2560
แล้วก็เลื่อนอีกเป็นปี 2561 เมื่อพบกับประธานาธิบดีสหรัฐ
ขณะที่ประชาชนมีความมั่นใจว่าจะได้เลือกตั้งอย่างค่อนข้างแน่นอนภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 แต่ก็มีวี่แววมาจาก คสช.อีกนั่นแหละว่าอาจต้องเลื่อนไปเป็นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
หรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้
สะท้อนให้เห็นว่า คน “ไม่อยาก” เลือกตั้งที่เคยแสดงออกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ยังตามมาแสดงออกและตอกย้ำอีกคำรบ 1 โดยผ่าน “คสช.”
สภาพที่คนไทยและชาวโลกเห็นอยู่ในขณะนี้ก็คือ 1 มี “คนอยากเลือกตั้ง” และออกมาแสดงออกอย่างเปิดเผยในที่สาธารณะ
แล้วคนเหล่านั้นก็กลายเป็นคนทำความผิด
นั่นเท่ากับ 1 ยืนยันว่ามีคนเห็นต่างอันอยู่ในปีกของคน “ไม่อยาก” ให้มีการเลือกตั้งตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ดำรงอยู่และอยู่อย่างมีอำนาจ
นี่คือ 2 ลักษณะที่สวนทางและแตกต่างกัน