สกู๊ปหน้า 1-มท.ส่ง7,663ทีม ปรับ Mindset สู่ ‘ไทยนิยม ยั่งยืน’

บิ๊กตู่Ž พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ควงรองนายกฯทั้ง 4 คน มาร่วมให้แนวทางให้กับคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมของทุกหน่วยราชการ

ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในส่วนภูมิภาคที่เกี่ยวข้อง นายอำเภอทุกอำเภอ และบุคลากรที่เป็นวิทยากรระดับจังหวัด เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่วนทิศทางและกลไกในการขับเคลื่อนคณะกรรมการอำนวยการโครงการไทยนิยมนั้นจะใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทย (มท.) เป็นแม่งานหลักในการบูรณาการความร่วมมือของทุกหน่วยงานเพื่อลงพื้นที่ไปพูดคุยกับประชาชนในทุกตำบล

ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ระดับชาติ เล่าถึงภาพรวมการขับเคลื่อนคณะกรรมการโครงการไทยนิยมว่า คณะกรรมการอำนวยการโครงการไทยนิยมจะแบ่งเป็น 4 ระดับ ได้แก่ ระดับประเทศ มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ระดับอำเภอ มีนายอำเภอเป็นประธาน และทีมระดับตำบล มีจำนวน 7-12 คน ที่นายอำเภอแต่งตั้งให้ขับเคลื่อน ซึ่งต้องมีการบูรณาการงานร่วมกัน

โดยกลไกการบูรณาการขับเคลื่อนงานและการติดตามงานของทุกส่วนราชการในโครงการ ไทยนิยม ยั่งยืนŽ กลไกไทยนิยม ยั่งยืน อาศัยการขับเคลื่อนผ่าน พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 ตามมาตรา 54 ที่ระบุว่า ให้มีผู้ว่าราชการจังหวัดคนหนึ่งเป็นผู้รับนโยบายและคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม มาปฏิบัติการให้เหมาะสมกับท้องที่และประชาชนŽ

Advertisement

ขณะที่มาตรา 65(2) ระบุว่า ให้นายอำเภอบริหารราชการตามที่คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม มอบหมายหรือตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการในฐานะหัวหน้ารัฐบาลŽ

สาระสำคัญที่คณะกรรมการไทยนิยมจะต้องนำไปขับเคลื่อนให้กับประชาชนในพื้นที่นั้น พล.อ.อนุพงษ์ให้รายละเอียดว่า สาระสำคัญการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมจะประกอบด้วยสาระสำคัญ 10 เรื่อง ได้แก่

1.สัญญาประชาคมผูกใจเป็นหนึ่ง 2.คนไทยไม่ทิ้งกัน 3.ชุมชนอยู่ดีมีสุข 4.วิถีไทยวิถีพอเพียง 5.รู้สิทธิ รู้หน้าที่รู้กฎหมาย 6.รู้กลไกการบริหารราชการ 7.รู้รักประชาธิปไตยไทยนิยม 8.รู้เท่าทันเทคโนโลยี 9.ร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติด และ 10.งบตามภารกิจของทุกหน่วยงาน

Advertisement

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวด้วยว่า สำหรับสาระสำคัญทั้ง 10 เรื่อง จะมีโครงสร้างและกลไกการขับเคลื่อนจากคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ที่จะแบ่งประกอบด้วยคณะกรรมการขับเคลื่อนระดับจังหวัด ระดับ กทม. และระดับอำเภอ

โดยหัวใจของการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน จะอยู่ที่ทีมขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมระดับตำบล จำนวน 7,663 ทีม ที่จะลงพื้นที่ในทุกตำบล เทศบาล และทุกเขตใน กทม. โดยจะแบ่งเป็น 7,255 ทีมตำบล ลงไปขับเคลื่อนในพื้นที่ 75,032 หมู่บ้าน 208 ทีมเทศบาล ลงไปขับเคลื่อนในพื้นที่ 6,052 ชุมชน และ 200 ทีมใน กทม. ลงไปขับเคลื่อนในพื้นที่ 2,067 ชุมชน

ทีมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในระดับตำบลจะมีนายอำเภอทุกอำเภอเป็นผู้กำกับดูแล มีอำนาจแต่งตั้งทีมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมในระดับตำบลจำนวน 7-12 คน ซึ่งจะประกอบด้วย อาทิ ข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่ ปราชญ์ชาวบ้าน จิตอาสาในพื้นที่ รวมทั้งเจ้าที่ทหาร 1 คนที่จะรับผิดชอบในด้านมิติความมั่นคง

โดยทีมขับเคลื่อนทั้ง 7-12 คน มีอำนาจหน้าที่เป็นชุดปฏิบัติงานในพื้นที่การแก้ไขปัญหาในมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง ตามสาระสำคัญ 10 เรื่อง รวมทั้งเป็นชุดปฏิบัติงานในพื้นที่ในการสร้างความตระหนักรู้ถึงบทบาทหน้าที่ของประชาชนในการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยŽ พล.อนุพงษ์ ให้รายละเอียด

ขณะที่ นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ให้รายละเอียดถึงการขับเคลื่อนของทีมขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมจากนโยบายไปสู่การปฏิบัติว่า โรดแมป การปฏิบัติงานของทีมขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมจะแบ่งเป็น 4 ครั้ง ครั้งที่ 1 จะเริ่มระหว่างวันที่ 21 กุมภาพันธ์ – 20 มีนาคม

โดยวันที่ 21 กุมภาพันธ์ จะคิกออฟพร้อมกันทุกตำบล เพื่อสอบถามชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ รวมทั้งวิเคราะห์ปัญหาความเดือดร้อน เยี่ยมเยียนรายครัวเรือน รายบุคคล และค้นหาความต้องการของประชาชนในหมู่บ้าน ชุมชน เพื่อจัดทำโครงการเสนอตามกรอบการพัฒนาคุณภาพชีวิต

ครั้งที่ 2 จะเริ่มระหว่างวันที่ 21 มีนาคม – 10 เมษายน จะเป็นการติดตามขับเคลื่อนการพัฒนาและแก้ไขปัญหา สร้างการรับรู้และปฏิบัติตามสัญญาประชาคม ให้รู้ถึงสิทธิ รู้หน้าที่ รู้กฎหมาย รู้รักประชาธิปไตย และรู้กลไกการบริหาร

ครั้งที่ 3 จะเริ่มระหว่างวันที่ 11-30 เมษายน จะเป็นการติดตามขับเคลื่อนการพัฒนาและแก้ไขปัญหา สร้างการรับรู้ปรับความคิด (mindset) เพื่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนา วิถีไทยวิถีพอเพียงŽ และครั้งที่ 4 จะเริ่่มระหว่างวันที่ 1-20 พฤษภาคม จะเป็นการติดตามขับเคลื่อนการพัฒนาและแก้ไขปัญหา สร้างการรับรู้ ปรับความคิด (mindset) เพื่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนา รู้เท่าทันเทคโนโลยี ร่วมแก้ไขปัญหายาเสพติด

หัวใจของทีมขับเคลื่อนระดับตำบลที่มี 7-12 คน จะไปบูรณาการกันที่นายอำเภอ นายอำเภอต้องคัดคนที่สามารถสื่อสารสร้างความเข้าใจ เอาเรื่องยากๆ ไปพูดให้ง่าย ให้ชาวบ้านเข้าใจ อันนี้เป็นเรื่องใหม่ เพราะเดิมการทำงานตามฟังก์ชั่น 20 กระทรวง ไม่สามารถลงไปถึงตำบล ลงได้แค่อำเภอ

แต่ครั้งนี้จะสื่อสารลงไปถึงตำบล นำงานราชการทั้งหมดลงไปอธิบายกับชาวบ้าน ประกอบด้วย 2 ขา คือขาแรก นำงานลงไปชี้แจง ขาที่ 2 สะท้อนปัญหาความต้องการของชาวบ้านกลับขึ้นมา ส่วนที่มีทหารเข้าร่วมทีมด้วย เพราะมีกรอบสัญญาประชาคมที่ทหารเคยทำไว้จากการรวบรวมมา

เพราะฉะนั้นถ้าจะให้ทหารสื่อสารลงไปทั้งเรื่องความสามัคคีปรองดองแบบเดี่ยวๆ ก็จะไม่มีคนฟัง จึงต้องลงพื้นที่เป็นทีม แต่ส่วนนี้ไม่ได้เน้น ที่เน้นคือเรื่องเศรษฐกิจฐานรากที่ต้องการให้ชาวบ้านนำปัญหาความต้องการขึ้นมา เพื่อจัดสรรเงินงบประมาณลงไปช่วยเหลือได้ตรงจุดŽ

นายอภิชาติชี้แจงบทบาทของทีมขับเคลื่อนระดับตำบล ขณะที่งบประมาณที่ใช้ในการขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมนั้น อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน อธิบายว่า ใช้งบประมาณจาก พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติมกลางปี พ.ศ.2560 จำนวน 150,000 ล้านบาท

แม้ที่ผ่านมา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ได้คิดและผลักดันโครงการต่างๆ ไปมากมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เสียงสะท้อนจากข้างล่างก็ยังบอกว่าไม่ดี นายกฯจึงต้องลงไปแก้ ดูว่าชาวบ้านต้องการอะไร มีปัญหาอะไร โดยใช้ทีมตำบลที่คล้ายๆ ทีมแก้จน คือเอาข้าราชการคนที่พูดเก่งๆ ไปสื่อสาร รับปัญหาของชาวบ้านขึ้นมา

ส่วนบทสรุปสุดท้ายทีมขับเคลื่อนโครงการไทยนิยม ยั่งยืน จะตอบโจทย์ได้ตรงตามความต้องการของประชาชนได้หรือไม่นั้น คงต้องติดตาม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image