ผู้เขียน | คอลัมน์หน้า 3 มติชน |
---|
เมื่อท่านสมุหนายก ตัดสินใจกรีฑาทัพจากแคว้นวุ่ยเข้าสู่แคว้นฮันต๋ง
เพื่อปราบปรามเล่าปี่ที่ตั้งตัวเป็นใหญ่ในแคว้นจ๊ก
แต่ต้องมาติดหล่มสงครามอยู่ในฮันต๋ง อันเป็นปากทาง
รหัสขานเข้าออกสำหรับกองทัพในคืนหนึ่งก็คือ “ขาไก่”
ซึ่งเอียวสิ้ว-ปลัดทัพ ตีความทะลุทะลวงกระจ่างแจ้ง
ว่าหมายถึงอาการละล้าละลัง จะรุกต่อก็ไม่ได้ จะถอยกลับก็ใช่ที่
และนำไปสู่การสั่งให้ทหารในสังกัดจัดข้าวของเตรียมถอนทัพ
จนถูกจับตัดหัวข้อหา “รู้ดี”-รู้ใจเจ้านายเกินไป
ก่อนที่สุดท้าย โจโฉจะตัดสินใจเลิกทัพกลับเมืองหลวงในที่สุด
ภาวะ “ขาไก่” โด่งดังทั้งในประวัติศาสตร์-นวนิยาย “สามก๊ก” มาเนิ่นนาน
แต่ถึงสถานการณ์จะผ่านไปแล้วร่วม 2,000 ปี
ก็ยังมีภาวะที่คล้ายคลึงกันเกิดแล้วเกิดอีก
…
ขาไก่ท่อนล่าสุด อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล
27 กุมภาพันธ์
หลังการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. แถลงว่า
หลัง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส และที่มา สว. ผ่านความเห็นชอบและนำความขึ้นกราบบังคมทูลในราวเดือนมิถุนายนนี้
ตนจะได้เรียกแม่น้ำ 5 สาย และพรรคการเมืองหารือกำหนดวันเลือกตั้ง
ซึ่งจะมีขึ้นไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ 2562
แต่ทั้งนี้อยู่ในสถานการณ์ของบ้านเมืองในขณะนั้นด้วย
“ขอร้องให้เลิกถามเรื่องนี้ได้แล้ว รวมถึงเรื่อง กกต.ด้วย”
คำถามคือ-ทำไมต้องถาม
คำตอบก็คือ เพราะหมาดๆ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
1 ในแม่น้ำ 5 สายอย่าง สนช. เพิ่งลงมติคว่ำรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเป็น กกต.ชุดใหม่ 7 คน
แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ซึ่งถ้าจะต้องมีกระบวนการสรรหาใหม่ อาจต้องใช้เวลาล่าออกไปอีก 6 เดือน
อันหมายถึงการเลือกตั้งก็ต้องเลื่อนตามไปด้วย
แล้วจะไม่ให้ใครสงสัยหรือตั้งคำถามได้หรือ?
…
ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ไม่ใช่แต่เฉพาะกรณีกำหนดวันเลือกตั้ง
แต่ยังรวมไปถึงอนาคตทางการเมืองของ คสช. และ พล.อ.ประยุทธ์ เองอีกด้วย
เมื่อยังไม่แสดงตัวให้ชัดเจนต่อสาธารณชนว่า จะเดินหน้าบนเส้นทางการเมืองต่อไปหรือไม่
แม้จะมีเสียงลือเสียงเล่าอ้าง เรื่องคนใกล้ชิดในรัฐบาล ออกเดินสาย “กวาดต้อน-ชักชวน” นักการเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่นอย่างถี่ยิบ
แม้จะมี “ผู้ปรารถนาดี” พร้อมจะตั้งพรรคการเมืองรองรับเส้นทางอนาคตให้อย่างคึกคัก
ไม่ว่าจะเป็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้พร้อมแตกหักกับต้นสังกัดเดิมอย่างพรรคประชาธิปัตย์
จนกระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ยังต้องออกปากกล่าวขอบคุณ
หรือจะเป็นขาประจำอย่างนายไพบูลย์ นิติตะวัน
ฯลฯ
ก็ล้วนมาในอีหรอบเดียวกัน
…
27 กุมภาพันธ์ เช่นกัน
นายสมชาย แสวงการ โฆษกคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ น.พ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกวิป สนช. ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า
การพิจารณาทบทวนร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เสร็จแล้ว
อาจมีการปรับปรุงแก้ไขบางส่วน
แต่ยืนยันว่า ทั้งกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการเลือกตั้ง ส.ว. ในวันที่ 8 มีนาคม
จะผ่านไปอย่างราบรื่น
อันหมายถึงถ้าไม่มีเหตุขัดข้องใดๆ “เป็นพิเศษ” ขึ้นมาอีก
การเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไป จะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
อย่างแน่นอน
…
แต่สำหรับประชาชนทั่วไป
นี่ก็เป็นขาไก่อีกประเภทหนึ่ง
เมื่อประกาศการเลือกตั้งเลื่อนมาแล้ว 4 ครั้ง
จะมีการเลื่อนอีกหรือไม่