ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
ช่วงเดียวกันนี้เมื่อปีก่อน เคยเขียนถึงภาพยนตร์ไทยเรื่อง “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” ของ “สุรศักดิ์ ป้องศร” หนังที่ฮิตตูมตามในภาคอีสาน ก่อนจะเข้ามาตีตลาดกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ (โดยมีกลุ่มผู้ชมหลักเป็นแรงงานจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่อพยพโยกย้ายเข้ามาทำงานในเมืองเหล่านั้น)
หนึ่งปีผ่านไป ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวกลายเป็นหนังที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสำคัญของสถาบันต่างๆ อย่างเป็นกอบเป็นกำ ขณะเดียวกัน หนัง “ภาค 2.1” ก็มีกำหนดลงโรงฉายพอดี
คราวนี้ “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” เข้าฉายที่ภาคอีสานและเมืองใหญ่อื่นๆ ทั่วประเทศ พร้อมกัน
ตัวเลขรายได้เฉพาะกรุงเทพฯ ปริมณฑล และเชียงใหม่ ซึ่งตรวจสอบล่าสุด ณ วันที่ 1 มีนาคม อยู่ที่ราวๆ 15 ล้านบาท
แต่รายได้ที่จัดเก็บโดยสายหนังภาคอีสานและภาคเหนืออาจมากกว่านั้นเป็นเท่าตัว
คาดการณ์กันว่ารายได้โดยประมาณ ณ ปัจจุบัน ของ “ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2.1” น่าจะอยู่ราวๆ 40 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว
หาก “ไทบ้าน เดอะซีรีส์” ภาคแรก เล่าเรื่องราวความรักผสานอารมณ์ขันของหนุ่มสาวชาวอีสานเป็นหลักใหญ่ โดยมีฉากหลัง คือ ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมรายรอบตัว
“ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2.1” ก็เดินทางไปไกลกว่านั้นมาก หนังฉายส่องให้เห็นว่าสถานภาพหรือตำแหน่งแห่งที่ของผู้คนในชุมชนอีสานแห่งหนึ่ง ล้วนขยับขับเคลื่อนไปจากจุดเดิมๆ พร้อมกับความผันแปรเรื่องค่านิยมทางสังคม สภาพเศรษฐกิจ หรือเทคโนโลยี ฯลฯ
เช่นเดียวกับแนวคิด “บ้าน-วัด-โรงเรียน” ที่รัฐชอบยึดโยง ก็ถูกหนังเรื่องนี้หยิบยืมมาใช้ โดยใส่ความหมายใหม่ๆ ลงไป
หนังแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ทางสังคม (ที่เหมือนจะ “เป็นทางการ”) เหล่านั้น ซ่อนแฝงไว้ด้วยความสัมพันธ์ในรูปแบบที่ “ไม่เป็นทางการ” กลับหัวกลับหาง ผิดฝาผิดตัว จำนวนมาก (“ดี” หรือ “ไม่ดี” แล้วแต่มุมมอง)
“ครู” ในหนังไม่ได้เป็นแค่ “ครู” ส่วน “บ้าน” กับ “วัด” ก็เป็นสถานที่บรรจุความขัดแย้ง-ไม่ลงรอย ไปไม่น้อยกว่าการทำหน้าที่เชื่อมเสริมความสัมพันธ์ระหว่างคนในชุมชน
หนังมีเส้นเรื่องว่าด้วยกระบวนการสตาร์ตอัพธุรกิจของคนหนุ่มในชุมชน ที่ความฝันกับความเป็นจริง การเข้าถึงเทคโนโลยี (ที่คล้ายจะง่ายขึ้น) กับการเข้าถึงแหล่งทุนและสภาพเศรษฐกิจจริงๆ ในพื้นที่ อาจมิใช่สิ่งเดียวกัน
หนังนำเหตุการณ์สามัญเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันของชาวบ้านธรรมดามาร้อยเรียงรวมเข้าเป็นเรื่องราวขนาดยาว
หลายเหตุการณ์มีเนื้อหาไม่ต่างกับ “คลิปบ้านๆ” ซึ่งสร้างความนิยมมหาศาลในโซเชียลมีเดีย หรือ “ข่าวแนวชาวบ้าน” ที่มียอดคนคลิกอ่านในสื่อออนไลน์มากกว่าข่าวประเภทอื่นๆ
สำหรับคนมีความรู้ในเมือง “คลิป/ข่าว” กลุ่มนี้ อาจเป็นเพียงข่าวสารเชิงปรากฏการณ์ที่ผ่านมาแล้วผ่านไป ซ้ำซาก ไร้สาระ
แต่สำหรับชาวบ้าน (ไทบ้าน) สถานการณ์เล็กๆ ดังกล่าว อาจมีความหมายและมีความสำคัญ ในมุมมอง วิถีชีวิต และวิธีคิดของพวกเขา
โดยสรุป “ไทบ้าน เดอะซีรีส์ 2.1” เล่าถึงหมู่บ้านอีสานแห่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าสนใจ ผ่านแง่มุมเล็กๆ ไม่มี “คนดี-คนเลว” สมบูรณ์แบบ ไม่มีท่าทีรุนแรงก้าวร้าว และไม่ได้สื่อสารผ่านประเด็นใหญ่โตอะไรมากมาย
นี่เป็นหนังที่คนทำยุทธศาสตร์ชาติ โครงการไทยนิยมฯ-ประชารัฐ-ไทยแลนด์ 4.0 น่าหาโอกาสไปดู
นักการเมือง/พรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นคน “รุ่น” ไหน ก็น่าตีตั๋วเข้าชมเช่นกัน
หรือคนที่หงุดหงิดหัวใจว่าทำไมสื่อไทยถึงต้องให้ความสำคัญกับข่าวประเภท “คดีหวย 30 ล้าน” ก็ยิ่งสมควรดู
เพราะหลายๆ ครั้ง สิ่งที่ผุดพรายขึ้นมาจากผู้คนบริเวณขอบนอกๆ ของสังคม (แต่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ) ก็เป็นเรื่องที่หลายคนในส่วนกลางยังไม่เข้าใจ และไม่พยายามทำความเข้าใจมากนัก
……………
ปราปต์ บุนปาน