โจทย์ใหม่ การเมือง ของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระหว่าง ‘เลือกตั้ง’

หากฟังจาก 1 ความสนใจของสังคม 1 ความสนใจของสื่อ และ 1 คำตอบจากแต่ละพรรคการเมืองที่จะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง

มีลักษณะ “ร่วม” อันเริ่มเห็น เด่นชัด

ความสนใจต่อ “นโยบาย” ของแต่ละพรรคการเมืองมีน้อยมาก เนื่องจากความจำกัดอันมาแต่รัฐธรรมนูญ และความล่าช้าของ คสช.ที่ไม่ยอม “ปลดล็อก”

สถานการณ์เช่นนี้จึงเท่ากับบีบบังคับโดยปริยาย

Advertisement

ทำให้แต่ละพรรคการเมืองถูกกวาดต้อนให้ไปกองรวมกันอยู่ 2 กองใหญ่ นั่นก็คือ กองว่าด้วยสนับสนุน คสช. และ กองว่าด้วยไม่สนับสนุน คสช.

เห็นได้จาก “คำถาม” ในที่เสวนาทาง “การเมือง”

เห็นได้จาก “คำถาม” อันมาจากผู้สื่อข่าว ซึ่งย่อมจะต้องกรองมาแล้วจากความสนใจที่เกิดขึ้นแลดำรงอยู่ในสังคมว่าเป็นอย่างไร

Advertisement

ไม่ว่า คสช.จะเจตนา ไม่ว่า คสช.จะไม่มีเจตนา

ลองจับเอาแต่ละพรรคการเมืองซึ่งไปจดแจ้งชื่อนับแต่วันที่ 2 มีนาคมเป็นต้นมาก็จะมองเห็นการดำรงอยู่อย่างเด่นชัด

1 พรรคที่ชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เริ่มจากพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยพรรคประชาชนปฏิรูป ตามมาด้วยพรรคพลังชาติไทย ตามมาด้วยพรรคพลังธรรมใหม่

ทั้งนี้ แทบไม่ต้องเอ่ยนาม “พรรคมวลมหาประชาชน”

1 พรรคที่ชูหัวหน้าพรรค หรือบุคคลที่ภายในพรรคกำหนดเอาไว้แล้วให้เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหากได้รับเลือกตั้งเข้ามาจำนวนมาก

อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันชื่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

อย่างที่พรรคเพื่อไทยประกาศผ่านแถลงการณ์มาอย่างต่อเนื่องว่าจะยืนยันบุคคลที่พรรคเลือกสรรมาแล้วจากที่ประชุม

นี่คือทิศทางการเลือกตั้ง นี่คือทิศทางการเมือง

แนวโน้มและความเป็นไปได้ทางการเมืองเช่นนี้เท่ากับเป็นการดึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นมายืนอยู่บนเวทีแห่งการต่อสู้

ไม่ว่าจะต้องการ ไม่ว่าจะไม่ต้องการ

เมื่อกระแสเลื่อนไหลไปบนเส้นทางเช่นนี้จึงเท่ากับทำให้กระบวนการหาเสียงจำเป็นต้องย้อนกลับไปต้นต้นก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

อย่างน้อยก็ต้องมีการประเมินบทบาทและความหมาย

อย่างน้อยผลงาน ความสำเร็จ ความล้มเหลวของ คสช.และของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นแหละคือโจทย์ใหญ่

ฝ่ายที่สนับสนุนก็ต้องส่งเสียง “เชียร์”

ฝ่ายที่ไม่สนับสนุนก็ต้องจำแนก แจกแจง ให้เห็นว่าเป็นความล้มเหลวอย่างไร ความสำเร็จที่เอ่ยอ้างไม่เป็นความจริง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะกลายเป็นทั้งพระเอกและผู้ร้าย

การดำรงอยู่ของ 1 คสช.และ 1 รัฐบาล จึงทรงความหมายเป็นอย่างสูงในบรรยากาศแห่งการเลือกตั้งอันทวีความเข้มข้น ร้อนแรง

สถานการณ์เรียกร้องบทบาทของ “กรรมการ”

แต่ในการปะทะทางการเมืองไม่มีใครแน่ใจได้ว่า 1 คสช.และ 1 รัฐบาลจะดำรงความเป็นกลางในทางการเมืองได้มากน้อยเพียงใด

ตรงนี้แหละจะกลายเป็น “โจทย์” ใหม่ในทางการเมือง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image