เมื่อวันอังคารที่ 13 มีนาคมนี้ ในบทความชื่อ “สำนักงานตำมั่วแห่งชาติ” ซึ่งพิมพ์ในหนังสือพิมพ์มติชนฉบับประจำวันนั้น ผมได้เขียนเกี่ยวกับการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.กันตพงษ์ นิลขำ ผู้กำกับการตำรวจภูธรอำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปดำรงตำแหน่งผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ และหลังจากนั้นคุณกันตพงษ์ได้ระบายความรู้สึกออกมาเป็นเชิงน้อยเนื้อต่ำใจทางเฟซบุ๊ก
ปรากฏว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกคำสั่งใหม่ ถอนชื่อคุณกันตพงษ์ออกจากคำสั่งแต่งตั้งให้ไปเป็นผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ซึ่งหมายความว่าคุณกันตพงษ์ยังเป็นผู้กำกับการตำรวจภูธรอำเภอบางบาลต่อไปอย่างเดิม
ที่น่าสังเกตก็คือ คำสั่งแต่งตั้งคุณกันตพงษ์เป็นผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาตินั้นคือคำสั่งที่ 79/2561 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 ส่วนคำสั่งให้ถอนคำสั่งนั้นคือคำสั่งที่ 85/2561 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 วันเดียวกันกับคำสั่งที่ 79/2561!
การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจซึ่งน่าจะพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งคุณกันตพงษ์นั้นทำในวันที่ 12 มีนาคม 2561 โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่ประธานแทน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ถ้าจะดูตามวันเดือนปีที่ออกคำสั่ง ก็ต้องแปลว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจในวันที่ 12 มีนาคม 2561 ซึ่งคงจะพิจารณาและรับทราบความผิดพลาดคลาดเคลื่อนในการแต่งตั้ง พ.ต.อ.กันตพงษ์แล้ว พล.ต.อ.จักรทิพย์จึงแสดงปาฏิหาริย์เดินทางย้อนกาลเวลาไปยังวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 แล้วสามารถลงชื่อในคำสั่งที่ 85/2561
ในวันนั้นการถอนคำสั่งแต่งตั้งคุณกันตพงษ์ย่อมกระทบถึงนายตำรวจอื่นด้วย โดยเฉพาะ พ.ต.อ.สุรวุฒิ เจริญจิตร ผู้กำกับการกลุ่มงานป้องกันอาชญากรรมพิเศษที่ได้รับแต่งตั้งให้ไปเป็นผู้กำกับการตำรวจภูธรอำเภอบางบาลแทนคุณกันตพงษ์ในคำสั่งฉบับเดียวกันกับที่ถอนชื่อคุณกันตพงษ์และคุณสุรวุฒินั้น ปรากฏว่ายังมีการถอนชื่อนายตำรวจอื่นๆ อีก 5 รายด้วย ไม่ปรากฏว่าคณะกรรมการข้าราชการตำรวจหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ชี้แจงแสดงเหตุผลของการถอนคำสั่งแต่งตั้งนายตำรวจเหล่านั้นแต่อย่างใด แม้ว่าโดยหลักการ คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติจะเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่พิจารณากลั่นกรองคุณสมบัติของข้าราชการตำรวจในการโยกย้ายและเลื่อนตำแหน่งก็ตาม
ในขณะเดียวกันข่าวการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่ไม่เป็นธรรมก็ยังแพร่สะพัดอยู่ โดยเฉพาะในสื่อสังคม บางข่าวถึงกับระบุชื่อนายตำรวจยศพลตำรวจเอกผู้หนึ่งว่าเกี่ยวข้องกับการโยกย้ายข้าราชการตำรวจในกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนอย่างไม่เป็นธรรมด้วย
ตำรวจเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม ถ้าการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจยังเป็นไปอย่างคลุมเครือ ไม่โปร่งใส และไม่เป็นธรรมเช่นนี้ นอกจากจะทำให้ข้าราชการตำรวจเองเสียขวัญและปฏิบัติหน้าที่ไปแบบซังกะตายแล้ว ยังจะทำให้ประชาชนผู้หวังพึ่งความคุ้มครองจากตำรวจไม่มั่นใจ และขาดศรัทธาในสถาบันตำรวจด้วย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นส่วนราชการที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทำหน้าที่แทน ถ้า งานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังเป็นไปแบบไม่โปร่งใสและลุ่มๆ ดอนๆ เช่นนี้ ก็ย่อมจะสะท้อนความละเลยหรือไม่เอาใจใส่ของนายกรัฐมนตรีเองเป็นธรรมดา
