เคอ เสียวหมิง เป็นลูกสาวคนสุดท้องจากจำนวนลูก 6 คน ของนายเคอ หวา อดีตเอกอัครราชทูตของสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำอังกฤษในช่วง พ.ศ.2521-2526 โดยเคอ เสียวหมิง มีรสนิยมที่ชื่นชอบประเทศทางตะวันตกมาก เนื่องจากได้เดินทางไปกับบิดาหลายประเทศเมื่อบิดาย้ายไปเป็นทูตตามประเทศต่างๆ โดยเธอสามารถพูดได้หลายภาษาโดยเฉพาะภาษาอังกฤษนั้นคล่องแคล่วมาก
เคอ เสียวหมิง แต่งงานกับสี จิ้นผิง ลูกชายของสี จงชุน ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์คนหนึ่งเป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี แต่ถูกปลดจากตำแหน่งในช่วงการปฏิวัติทางวัฒนธรรมเพิ่งได้กลับมาเป็นรองประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีนอีกครั้งในสมัยเติ้ง เสี่ยวผิง
สี จิ้นผิง เรียนจบปริญญาตรีสาขาวิศวะเคมีจากมหาวิทยาลัยซินหวาใหม่ๆ ใน พ.ศ.2522 แต่ชีวิตการแต่งงานระหว่างเคอ เสียวหมิง กับสี จิ้นผิง จบลงสั้นๆ เพียง 3 ปีคือในช่วง พ.ศ.2522 ถึง พ.ศ.2525 โดยเพื่อนบ้านซึ่งอาศัยอยู่ห้องตรงข้ามของ 2 สามีภรรยาผู้เป็นเพื่อนนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกับสี จิ้นผิง เล่าว่าระหว่างคนทั้งคู่อยู่ด้วยกันก็มักทะเลาะกันเสมอเนื่องจากรสนิยมที่นิยมตะวันตกของเคอ เสียวหมิง ผู้ต้องการจะไปเรียนต่อและใช้ชีวิตในต่างประเทศซึ่งขัดแย้งกับความตั้งใจของสี จิ้นผิง ที่ต้องการจะไต่เต้าขึ้นมีตำแหน่งที่สูงขึ้นภายในพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งเขาต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคครั้งแล้วครั้งเล่าถึง 10 ครั้งจึงสามารถเข้าเป็นสมาชิกพรรคได้สำเร็จและเริ่มทำงานให้พรรคจากการทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ตามบ้านนอกเพื่อแสดงฝีมือในการบริหารงานของพรรคและของรัฐให้เป็นที่ยอมรับ
และอีกประการหนึ่ง เคอ เสียวหมิง มีอายุมากกว่าสี จิ้นผิง ถึง 13 ปีได้เดินทางไปเรียนต่อที่อังกฤษเมื่อ พ.ศ.2525 ตามลำพังโดยสี จิ้นผิง ยังอยู่ที่จีนคนเดียว
เมื่อเคอ เสียวหมิง ยื่นคำขาดให้สามีเดินทางไปอยู่ด้วยกันที่อังกฤษหรือต้องหย่าขาดจากกันพอดีกับ สี จิ้นผิง เพิ่งได้รับการแต่งตั้งจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนให้รองเลขาธิการสาขาพรรคคอมมิวนิสต์ไปบริหารงานที่เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในมณฑลเหอเป่ย จึงตัดสินใจหย่าขาดจากเคอ เสียวหมิง ใน พ.ศ.2525 และเขาก็ไม่ได้ติดต่อครอบครัวของเคอ เสียวหมิงอีก
หลังจากนั้นใน พ.ศ.2528 สี จิ้นผิง ก็ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นเลขาธิการสาขาพรรคคอมมิวนิสต์ที่มณฑลเหอเป่ย และใน พ.ศ.2530 สี จิ้นผิง ได้แต่งงานกับ เผิง ลี่หยวน นักร้องเพลงสาวสวยผู้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศจีนในขณะที่สี จิ้นผิง ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักนักในช่วงนั้น เมื่อมีใครถามว่าสี จิ้นผิง คือใคร? ก็จะมีคำชี้แจงว่าสี จิ้นผิง เป็นสามีของเผิง ลี่หยวน
สี จิ้นผิง มีอายุมากกว่าภรรยา 11 ปี เมื่อสี จิ้นผิง ได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทั้งสองคนต่างเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของจีน แต่ในช่วงระยะกว่า 20 ปีหลังแต่งงาน มีน้อยครั้งที่เปิดตัวพร้อมกันเป็นคู่ โดยเผิง ลี่หยวน ยินดีเป็นช้างเท้าหลังที่สนับสนุนสามีอยู่เงียบๆ
บุคคลหมายเลขหนึ่งทั้งคู่ของจีนมีลูกสาวคนเดียวชื่อสี หมิงเจ๋อ ซึ่งไปเรียนจบปริญญาตรีสาขาจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยใช้นามแฝงและใช้ชีวิตนักศึกษาแบบเงียบๆ เมื่อเรียนจบแล้วก็กลับมาทำงานที่ประเทศบ้านเกิด
ปัจจุบัน สี จิ้นผิง คือประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนผู้มีอำนาจสูงสุดไม่เคยมีผู้นำจีนก่อนหน้านี้เทียมเท่ายกเว้นเหมา เจ๋อตง และเติ้ง เสี่ยวผิงในอดีต แต่มีข่าวที่ไม่ได้รับการยืนยันที่ครึกโครมมาจากเมืองจีนเมื่อเทศกาลเชงเม้ง (พิธีการเคารพบรรพบุรุษประจำปี) ในเดือนมีนาคมนี้ว่าเคอ เสียวหมิง ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกาได้กลับไปไหว้บรรพบุรุษและได้พบกับสี จิ้นผิง โดยได้พูดคุยกับสี จิ้นผิง ด้วยใบหน้านองด้วยน้ำตาโดยบอกว่าหากเธอยังอยู่กินกับสี จิ้นผิง ก็จะเป็นอุปสรรคและตัวถ่วงความเจริญก้าวหน้าของประธานาธิบดีในขณะที่เผิง ลี่หยวน ยืนรออยู่ห่างๆ โดยมิได้เข้าไปร่วมสนทนาด้วย โดยในที่สุดทั้งอดีตสามีภรรยาทั้งคู่ก็แยกย้ายกันกลับไปอย่างเงียบๆ
นี่เป็นข่าวสดๆ ร้อนๆ จากเมืองจีนที่ไม่ได้รับการยืนยันนะครับ ผู้เขียนได้นำมาเสนอต่อท่านผู้อ่านที่เคารพเนื่องจากฟังดูแล้วโรแมนติกดีเป็นบ้าเลยครับ
