สงกรานต์* ระหว่างเรา โดย : กล้า สมุทวณิช

ข้อสังเกตส่วนตัวของผู้เขียน ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องคิดมากเกินไป หรือเป็นข้อสังเกตที่ไหลเลยเกินจริง เมื่อสังเกตว่า มิตรสหายทั้งในชีวิตจริง หรือในเครือข่ายสังคมออนไลน์ กว่าร้อยละแปดสิบ “ไม่ชอบ” และ “ไม่เล่น” สงกรานต์*

ที่คำว่า “สงกรานต์” ต้องมีดอกจันท์ (*) กำกับเหมือนโปรโมชั่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ ก็เพราะว่า “สงกรานต์*” ในความหมายนี้ หมายความเฉพาะการเล่นสงกรานต์ในรูปแบบที่เราเห็นเป็นส่วนมากในปัจจุบันแห่งเทศกาล

เป็นสงกรานต์*ของสายแดนซ์ทั้งยกและย่อ ที่อึกทึกไปด้วยเสียงเพลงเหลือเพียงย่านเสียงเบสกระแทกอก สาวๆ เปิดเผยร่างกายไม่หวงเนื้อตัว ปิดถนนทั้งสายหรือพื้นที่ทั้งย่าน เล่นสาดน้ำและไล่ประแป้งใส่ทุกคนที่ผ่านไปมา โดยอนุมานว่าทุกคนที่อยู่ในที่สาธารณะจะต้องมีส่วนร่วมกับประเพณีนี้ ที่ผู้เล่นสามารถปลดปล่อยความคึกคะนองได้ทุกรูปแบบตามใจชอบ ไม่ว่าจะด้วยฮอร์โมนเคมี หรือด้วยฤทธิ์สุรายาเมาหรือสารเสพติดอื่นที่แย่กว่านั้น และการเล่นแบบถึงเนื้อถึงตัวจนล่วงเลยเข้าไปสู่การละเมิดทางเพศ

เทศกาลสงกรานต์* ที่หลายคนเรียกว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการยกเว้นการบังคับใช้กฎหมาย ผู้คนที่เล่นสงกรานต์*สามารถละเมิดสิทธิหรือสร้างความเสียหายให้แก่คนอื่นโดยเสรี โดยที่ไม่มีอำนาจใดจะห้ามปรามได้ แม้แต่รัฐที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จด้วยกฎหมายและกำลัง ยังต้องยอมถอย

Advertisement

นี่คือภาพของประเพณีสงกรานต์* ที่ผู้คนซึ่งแม้จะเป็นส่วนใหญ่ของมิตรสหายเราๆ ท่านๆ แต่ก็เหมือนจะเป็นคนส่วนน้อยของประเทศนี้นั้นเบือนหน้าหนี หรือบ้างก็ถึงกับเกลียดชังเทศกาลนี้ไปเลย ซึ่งแม้พวกเขาจะอ้าแขนรับประโยชน์ของ “เทศกาลสงกรานต์” ในฐานะของวันหยุดต่อเนื่องที่ยาวที่สุด แต่ก็ต้องหาทางรับมือและใช้ชีวิตอยู่กับมันให้ได้ตลอดช่วงเวลาอันน่าอึดอัดจำทนนี้

บ้างก็ใช้วิธีหลบลี้หนีไปท่องเที่ยวต่างประเทศด้วยประโยชน์แห่งวันหยุดยาว กลับมาอีกทีก็ให้เขาเลิกเล่นกันแล้ว หรือไม่ก็ไปหาสถานที่พักผ่อนไปรเวตที่การเล่นสงกรานต์*ไม่ก้าวย่างไปถึง หากไม่สามารถทำได้ก็ต้องตุนเสบียงไว้เลี้ยงตัวให้เพียงพอต่อการไม่ต้องออกไปไหนตลอดช่วงเวลาแห่งเทศกาล หรือออกแบบวางแผนชีวิตประจำวันหรือการไปทำธุระปะปัง เพื่อให้ได้รับความเดือดร้อนจากเทศกาลนี้ให้น้อยที่สุด กระนั้นบางคนก็โชคร้ายที่สงกรานต์*มาเยี่ยมเยือนกันถึงข้างบ้าน ด้วยเพื่อนบ้านหรือชุมชนรายรอบตั้งวงกันเปิดปาร์ตี้สงกรานต์* ที่ครบเครื่องด้วยสุรายาเมาและเสียงเพลงตั้งแต่เริ่มจนจบเทศกาล

แม้ไม่อยากจะแบ่งแยกว่าเป็นเรื่องเชิงชนชั้น แต่ด้วยข้อสังเกตส่วนตัวที่น่าจะตรงกันหลายคนคือ กลุ่มคนที่ไม่ชอบหรือไม่เล่นสงกรานต์*นั้นส่วนใหญ่เป็นคนชั้นกลางขึ้นไป ที่เติบโตหรือมีวิถีชีวิตแบบชาวเมืองสมัยใหม่ ที่มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องขอบเขตความเป็นส่วนตัว และเรื่องสิทธิในความยินยอมต่อพื้นที่ส่วนตัวเช่นนั้น เช่นนี้แล้วการเล่นสงกรานต์*ที่ละเมิดสิทธิดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการสาดน้ำประแป้งแบบไม่ถามความสมัครใจ การใช้เสียงรบกวน จึงถือเป็นเทศกาลแห่งการล่วงสิทธิผิดกฎหมายที่น่าอึดอัดโกรธขึ้ง

Advertisement

หากพวกเขาอยากที่จะมีส่วนร่วมในเทศกาลหรือเล่นสงกรานต์(เฉยๆ)บ้าง ก็จะเลือกจัดการเล่นสงกรานต์แบบระบบปิด อยู่ในหมู่ญาติมิตรพี่น้องที่สมัครใจเล่นกันและสามารถกำหนดขอบเขตกติกากันได้ หลังจากสรงน้ำพระและรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่กันเรียบร้อยแล้ว

คนกลุ่มที่ไม่เล่นสงกรานต์*นี้ บางคนอาจจะบอกว่า ไม่ได้รังเกียจรังชังประเพณีการเล่นสงกรานต์ แต่สงกรานต์*แบบที่เขาเล่นกันนั้น ไม่ใช่ “สงกรานต์อันแท้จริง” ตามขนบธรรมเนียมอันดีงามของไทย

แต่ที่แท้แล้ว “ประเพณี” นั้นคือรูปแบบเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ผู้คนในสังคมถือปฏิบัติสืบทอดกันมาต่อเนื่องยาวนาน จนเกิดเป็นแบบแผนค่อนข้างตายตัว การเล่นสงกรานต์*ในรูปแบบที่หลายคนเห็นว่าเป็นการเล่นสงกรานต์ที่ผิดเพี้ยนไปจากประเพณีไทยนั้น เป็นแบบนี้มาได้เกินกว่าสิบปีแล้ว ไม่ว่าจะยอมรับหรือไม่ การเล่นสงกรานต์*ได้เข้ามาปลูกทับลงในประเพณีสงกรานต์แล้ว เหมือนที่การฉีดน้ำด้วยสายยางมาแทนการสาดน้ำด้วยขันเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน หรือที่การสาดน้ำมาแทนการพรมน้ำรดกันที่เคยถือปฏิบัติมาก่อนหน้านั้น

ต่อมาเมื่อกลุ่มคนไม่เล่นสงกรานต์*นี้มีลูกหลาน ก็เป็นไปได้ว่าเขาจะไม่ยอมให้ลูกหลานของเขาเล่นสงกรานต์* เว้นแต่เป็นการเล่นสงกรานต์ระบบปิดในหมู่ญาติมิตรที่กล่าวไป หรือที่โรงเรียนของเด็กๆ จัดขึ้นแบบน่ารักๆ และเมื่อเด็กรุ่นนี้เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ ก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นคนไม่เล่นสงกรานต์*แบบพ่อแม่ ในขณะที่ลูกเล็กเด็กแดงที่เราเห็นบนท้องถนนหรือท้ายรถกระบะที่ร่วมเล่นสงกรานต์*กับพ่อแม่พี่น้องญาติผู้ใหญ่ ก็จะโตไปเป็นคนที่เล่นสงกรานต์*

เกิดเป็นสงกรานต์(และสงกรานต์*) ระหว่างเรา ที่จะก่อให้เกิดวิวาทะหรืออาจจะเกิดการวิวาทปะทะ ระหว่างผู้ที่มีความคิดในเรื่องสิทธิในความเป็นส่วนตัว พื้นที่ และความเป็นสาธารณะที่แตกต่างกัน ในช่วงเวลาแห่งเทศกาลนี้ของทุกปี

อันที่จริงแล้วก็น่าเห็นใจและเข้าใจได้ทั้งสองฝ่าย เพราะการเล่นสงกรานต์*นั้นก็เป็นการละเมิดสิทธิของที่คนไม่เล่นหรือไม่อยากมีส่วนร่วมจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการปิดถนนให้สัญจรได้ยากหรืออาจจะไม่ได้เลยแล้ว การเล่นสาดน้ำประแป้งคนโดยไม่ขอความยินยอม หรือไม่ยอมฟังเสียงว่าเขาจะเล่นหรือไม่เล่นนั้นก็ก่อความเสียหาย เพราะไม่ใช่ว่าทุกคนที่ออกจากบ้านนั้นประสงค์จะเล่นน้ำหรือสนุกด้วย ในหลายครั้งการโจมตีด้วยน้ำก็ทำให้ทรัพย์สินหรือเอกสารสำคัญของเขาเสียหาย การจัดปาร์ตี้สงกรานต์เปิดเพลงหรือร้องคาราโอเกะเสียงดังนั้นก็เป็นการรบกวนความเป็นอยู่โดยปกติสุขของคนอื่น ทั้งไม่นับผลพวงอื่นของการเล่นสงกรานต์* ที่ให้ผู้คนปลดปล่อยความคึกคะนองเต็มที่หรือประกอบกับฤทธิ์สุรา ขับขี่รถยนต์หรือจักรยานยนต์โดยประมาทและเป็นอันตรายต่อผู้อื่น ยิ่งกว่าช่วงไหนๆ

ในฝ่ายของคนที่เล่นสงกรานต์*นั้นก็มีที่เล่นโดยบริสุทธิ์ใจ โดยเชื่อว่าคนไทยทุกคนหรือใครก็ตามที่อยู่บนผืนแผ่นดินไทยในช่วงเวลาแห่งเทศกาลนี้ หรือที่ออกจากบ้านมานั้น พร้อมหรือจะต้องเข้าร่วมกับเทศกาลโดยไม่ต้องอาศัยความสมัครใจใดๆ เชื่อว่าการเอาน้ำไปสาดหรือเอาแป้งไปประผู้คนที่ไม่รู้จักนั้นเป็นรูปแบบหนึ่งของการส่งความปรารถนาดี

หรือการเปิดเพลงเสียงดังนั้น ก็มาจากความเชื่อโดยสุจริตจริงๆ ไม่ว่าจะไม่คิดว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นการรบกวนผู้อื่นเสียเลย ก็อาจจะเข้าใจว่า แม้จะรบกวนบ้าง แต่ทุกคนก็จะต้องให้อภัยหรือไม่ถือสา เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลซึ่งปีหนึ่งก็มีไม่กี่ครั้ง

อาจมีความพยายามของทางภาครัฐหรือฝ่ายที่มีอำนาจอยู่บ้างที่มุ่งจะกำกับควบคุมการเล่นสงกรานต์*อยู่บ้าง แต่นั่นก็เป็นไปด้วยเหตุผลเชิงวัฒนธรรมประเพณีที่รัฐมุ่งหมายควบคุม (เช่น ความพยายามของกระทรวงวัฒนธรรมที่พยายามจะจัด “สงกรานต์สีขาว” ที่ “ปลอดภัย ไร้โป๊ ไร้แป้ง ไร้แอลกอฮอล์” พาให้น่าสงสัยว่าการเล่นสงกรานต์นอกเหนือจากนี้ ถือเป็นสงกรานต์*สีอะไร) หรือความพยายามก่อนหน้า ที่จะห้ามนั่งท้ายกระบะเล่นสงกรานต์*ในถนนสายหลัก หรือเรื่องการรักษาความปลอดภัยสาธารณะเป็นวัตถุประสงค์หลัก มากกว่าการคุ้มครองสิทธิของผู้ไม่เล่นสงกรานต์* สังเกตจากการที่ภาครัฐจะเป็นเดือดเป็นร้อนกับการที่สาวๆ เล่นสงกรานต์* โดยแต่งกายแบบเปิดเผยร่างกาย มากกว่าใครสักคนเปิดเครื่องเสียงเต็มวอลุ่มฉลองเทศกาลกันในยามวิกาล

สําหรับผู้เขียนแล้ว เห็นว่าการเล่นสงกรานต์* หากไม่ใช่กรณีจงใจใช้เทศกาลบังหน้าเพื่อละเมิดล่วงเกินคนอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องผิด ต่อให้ดื่มเหล้าเมายาบ้างเพื่อความครึกครื้น หรือแต่งตัวแบบเปิดเผยเนื้อตัววาบหวาม ตราบใดที่ยังไม่ไปทำให้ใครเดือดร้อนนั้นก็ไม่ผิด จะมีบ้างคือถ้าเกินเลยขนาดไปใช้รถใช้ถนนแบบคะนองหรือมึนเมา ก็ต้องควบคุมกันด้วยกฎหมายจราจรที่เคร่งครัด แต่การเล่นสงกรานต์*นั้นก็ไม่ใช่เรื่องผิดในตัวเอง

แต่ในหมู่ผู้เล่นสงกรานต์*นั้น ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีคนที่จงใจหรือเจตนาจะละเมิดต่อผู้อื่นอย่างไม่ยี่หระเช่นกัน เช่นสาดน้ำใส่คนโดยเฉพาะคนที่ร้องขอว่าไม่เล่น เพื่ออยากให้เขาเปียกปอนเดือดร้อน หรือเล่นสงกรานต์*ด้วยเจตนาล่วงละเมิดหรือเอาเปรียบทางเพศ โดยคิดเอาแบบอันธพาลว่า ช่วงเวลาแห่งเทศกาลนี้คือเวลาแห่งอภิสิทธิ์ของฝ่ายเล่นสงกรานต์* ถ้าไม่อยากตัวเปียกโดนแป้งก็อย่าออกจากบ้าน ถ้าไม่พอใจกับการเล่นสงกรานต์* ก็ออกจากพื้นที่ หรือไม่ต้องอยู่เมืองไทย

ส่วนที่ก้ำกึ่งเป็นการละเมิดสิทธิที่พอเข้าใจได้บ้าง เช่น การเปิดเพลงเสียงดังหรือการปิดถนนเล่นสงกรานต์*นั้น ก็อาจจะต้องยอมรับว่า เมื่อคนส่วนมากเขาเล่นสงกรานต์*กัน คนที่ไม่เล่นซึ่งเป็นคนส่วนน้อยในสังคมก็อาจจะจำเป็นต้องอดทนแบกรับความอึดอัดหรือความยากลำบากช่วงเวลาสั้นๆ ในช่วงนี้บ้าง เป็นธรรมดาของสังคมประชาธิปไตย ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในประเทศพัฒนาแล้วหรือเป็นประชาธิปไตยเพียงใด ก็มีเรื่องที่จะต้องอดทนเช่นนี้อยู่บ้างในแต่ละรูปแบบ

เพียงแต่จะทำอย่างไรที่ให้การเล่นสงกรานต์*นั้นละเมิดสิทธิหรือก่อความเดือดร้อนให้คนที่ไม่เล่นน้อยที่สุด เช่น การจำกัดขอบเขตและเวลาการเล่นที่ชัดเจนแน่นอน การไม่อาศัยประเพณีแห่งเทศกาลแอบแฝงเจตนาล่วงละเมิดต่อคนอื่น หรือเล่นกันแต่เฉพาะคนที่สมัครใจเล่นด้วยเท่านั้น หากจะมีการปิดพื้นที่หรือถนนเพื่อเล่น ก็ให้มีกำหนดเวลาเล่นและเลิกเล่นแน่นอน เพื่อให้ผู้คนวางแผนชีวิตได้บ้าง การเปิดเพลงเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลก็อาจจะต้องมีขอบเขตว่าให้สนุกกันได้ถึงกี่โมงกี่ยาม

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่รัฐอาจจะต้องยื่นมือเข้ามาดูแล มากกว่าการไปเพ่งเล็งจะเรียกร้องเอาสงกรานต์สีขาว ชวนคนนุ่งห่มผ้าไทยเล่นน้ำ หรือฟื้นฟูสงกรานต์อันดีงามตามแบบรัฐไทยที่ล่วงพ้นไปแล้วให้กลับมา รัฐควรปล่อยให้สงกรานต์นั้นเป็นไปตามพลวัตของมัน ภายในขอบเขตที่รับรองสิทธิขั้นพื้นฐานของคนที่ไม่ประสงค์จะมีส่วนร่วม และรักษาความปลอดภัยสาธารณะในเทศกาลนี้

เพื่อให้ “สงกรานต์” เป็นของเราทั้งหมดที่อาศัยอยู่ร่วมกันในสังคมนี้ ไม่ใช่ “สงกรานต์*” ระหว่างเรา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image