ฤาพระพุทธศาสนา จะกำลังเสื่อมสูญไปจากเมืองไทย โดย วสิษฐ เดชกุญชร

ข่าวใหญ่ที่ชาวพุทธทั้งประเทศกำลังจับตาดูและติดตามความคืบหน้าอยู่ในขณะนี้คือข่าว พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร้องทุกข์ต่อกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ให้ดำเนินคดีกับพระสงฆ์ 5 รูปฐานทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม

ที่เป็นข่าวใหญ่ก็เพราะนอกจากพระสงฆ์ทั้ง 5 รูปจะเป็นเจ้าอาวาสและผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสำคัญในกรุงเทพมหานครแล้ว 3 รูปยังเป็นเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เจ้าคณะภาค และเป็นกรรมการมหาเถรสมาคมด้วย

หลังจากที่ปรากฏเป็นข่าวออกมา กลุ่ม “ชาวพุทธพลังแผ่นดิน” นำโดยนายจรูญ วรรณกสิณานนท์ และนาวาอากาศเอกวินัย เสวกวิ ก็ได้ไปยื่นหนังสือต่อ บก.ปปป.ขอให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.พงศ์พร ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยอ้างว่าผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาตินั้นเป็นเพียงนิติบุคคล เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งต้องดำเนินหน้าที่ตามมติของคณะรัฐมนตรีและสนองงานของพระสงฆ์ และไม่มีสิทธิตามกฎหมายที่จะตรวจสอบการทำงานของพระสงฆ์ เพราะสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินทำหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว การกระทำของผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นการทำลายศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระสงฆ์อย่างรุนแรง

หลังจากนั้นทางกลุ่ม “ชาวพุทธพลังแผ่นดิน” ได้เดินทางไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้ปลด พ.ต.ท.พงศ์พรออกจากตำแหน่ง และขู่ว่าหากภายใน 1 เดือนยังไม่มีคำสั่งปลดหรือความคืบหน้า ก็จะหารือกับกลุ่มชาวพุทธ 40 องค์กรเพื่อออกมาเคลื่อนไหวอีก
เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี และนายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์สนับสนุนการกระทำของ พ.ต.ท.พงศ์พรว่าเป็นการกระทำตามหน้าที่

Advertisement

ผมไม่รู้จักกับ พ.ต.ท.พงศ์พรเป็นการส่วนตัวแม้ว่าเมื่อคุณพงศ์พรเริ่มรับราชการตำรวจนั้นผมจะยังอยู่ในราชการก็ตาม แต่ผมเคยเป็นกรรมการกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ 2 สมัย และยังติดตามข่าวเกี่ยวกับกรมสอบสวนคดีพิเศษมาโดยตลอด จึงได้ยินกิตติศัพท์เกี่ยวกับคุณพงศ์พร และเมื่อคุณพงศ์พรไปรับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติครั้งแรกในปี 2560 ขณะที่วัดพระธรรมกายกำลังเป็นปัญหาใหญ่ และคุณพงศ์พรต้องถูกย้ายออกไปชั่วระยะหนึ่ง ผมก็รู้ว่าคุณพงศ์พรเผชิญวิบากกรรมหนักหนาสาหัสเพียงใด ผมจึงดีใจที่ในที่สุดรัฐบาลตัดสินใจให้คุณพงศ์พรกลับมารับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติอีก

แต่ผมยังไม่แน่ใจว่าในการแก้ปัญหาเกี่ยวกับพระสงฆ์ รัฐบาลจะสามารถยืนหยัดสนับสนุนคุณพงศ์พรอยู่ได้นานเท่าใด เพราะเท่าที่ทราบ นอกจากกลุ่ม “ชาวพุทธพลังแผ่นดิน” แล้ว ยังมีกลุ่มอื่นๆ อีกหลายกลุ่ม ที่สำคัญก็คือพระสงฆ์เองซึ่งหลายรูปแสดงท่าทีว่าจะขัดขืนไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่สอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิด

ผมคิดว่าในฐานะที่เป็นพุทธบริษัท ชาวพุทธทุกคนมีหน้าที่ที่จะต้องแสดงการสนับสนุนรัฐบาลและคุณพงศ์พรอย่างเปิดเผยและอย่างพร้อมเพรียงกัน ต้องไม่ยอมให้ใครล้มคดีได้ เพราะพฤติการณ์ของพระสงฆ์หลายรูปปรากฏชัดมานานแล้วว่าไม่เป็นไปตามพระธรรมวินัย และคณะสงฆ์ก็อ่อนแอไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้

หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้อยู่ต่อไปอีก ประชาชนก็จะเสื่อมศรัทธาในพระสงฆ์ และพระพุทธศาสนาก็อาจจะเสื่อมสูญไปจากเมืองไทยในที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image