บทความ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ : โดย วสิษฐ เดชกุญชร

ผมเป็นสมาชิกของสื่อสังคมที่ชื่อเฟซบุ๊ก (Facebook) ของคุณมาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก (Mark Zukkerberg) มาเป็นเวลา 10 ปีแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาได้ประโยชน์จากสื่อสังคมนี้ในด้านต่างๆ มากมาย นอกจากจะใช้ติดต่อกับญาติมิตรแล้ว ผมยังใช้เป็นแหล่งข่าวและข้อมูลต่างๆ ข่าวที่ส่งมาทางเฟซบุ๊กนั้นรวดเร็วยิ่งกว่าข่าวทางวิทยุโทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง และหนังสือพิมพ์ เพราะเป็นข่าวที่สมาชิกเฟซบุ๊กด้วยกันส่งจากที่เกิดเหตุในทันทีที่เกิดเหตุ แต่ก็ต้องระมัดระวังในการเสพข่าว เพราะหลายครั้งปรากฏว่าเป็นข่าวเท็จที่ผู้แพร่ข่าวมีเจตนาร้ายหรือคึกคะนอง

ท่านที่เป็นเพื่อนกับผมทางเฟซบุ๊กจะเห็นว่าข่าวเกี่ยวกับหมาแมวที่ป่วยหรือหลงทางพลัดกับเจ้าของหรือถูกเจ้าของปล่อยทิ้งโดยเจตนามีมากเป็นประจำ ทั้งนี้ก็เพราะผมไม่ได้ปิดกั้น (block) หรือลบ ผมตั้งใจแพร่ข่าวนั้นเพื่อให้ท่านผู้มีใจบุญทราบ เผื่อจะได้ช่วยเหลือสัตว์เหล่านั้นได้ในวิธีที่ท่านเห็นสมควรและทำได้ ส่วนตัวผมเองนั้น เมื่อเห็นว่ารายใดพอจะช่วยได้ผมก็ส่งเงินไปสมทบกับท่านผู้ใจบุญเพื่อช่วยสัตว์รายนั้นเป็นครั้งคราว

นอกจากสัตว์แล้ว ยังมีผู้เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับคนที่ได้รับความลำบากยากจน ไม่มีใครช่วยเหลือ หรือไร้ผู้อุปการะด้วย และผมก็ร่วมบริจาคทุนทรัพย์ช่วยเหลือตามกำลัง

เมื่อเดือนมกราคมปีนี้ ผมเห็นข่าวหญิงชราไร้ที่อยู่อาศัยคนหนึ่ง ซึ่งมีผู้พบนอนอยู่หน้าโรงเก็บของใกล้ๆ กับโรงพยาบาลกรุงเทพ เวลาฝนตกก็เปียก และในฤดูหนาวก็ต้องนอนโดยไม่มีผ้าห่ม ผมเห็นข่าวแล้วจึงนึกขึ้นได้ว่า เมืองไทยเรามีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่น่าจะดูแลเรื่องนี้อยู่ จึงลองค้นในเฟซบุ๊กและพบว่ากระทรวงเป็นสมาชิก
ของเฟซบุ๊กด้วย ผมจึงส่งข่าวหญิงชรารายนี้ไปให้กระทรวง ได้รับคำตอบขอบคุณและบอกว่าจะตรวจสอบข้อมูลเพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือ

Advertisement

ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ มีผู้ส่งข่าวชายคนหนึ่งเข็นรถเก็บของเก่าอยู่ “แถวลำลูกกา คลองสี่ (ลาดสวาย)” แต่งตัวมอมแมมและมีกลิ่นปัสสาวะ ถามไม่ตอบคล้ายเป็นใบ้ ผู้ที่พบเอาเงินใส่กระเป๋าให้และช่วยเข็นรถให้ หลังจากที่ได้ข่าวนี้ผมก็ส่งข่าวผ่านไปให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์อีก และก็ได้รับคำตอบขอบคุณอีก

ในเดือนเดียวกัน มีผู้ส่งข่าวเกี่ยวกับชายผู้หนึ่งซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็ง และอาศัยนอนในโรงแรมร้าง ผมก็ส่งข่าวไปให้กระทรวงและได้รับคำตอบขอบคุณอีก

ต่อมาในเดือนเมษายนปีนี้ มีผู้ส่งข่าวพบเด็กหญิง 2 คนนั่งขอทานอยู่ริมถนนอโศกในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึงตีห้า ผมส่งข่าวไปให้กระทรวงและได้รับคำตอบขอบคุณ และบอกว่าเบื้องต้นอยู่ระหว่างตรวจสอบการดำเนินการ

Advertisement

รายสุดท้ายในเดือนเดียวกัน ผมส่งข่าวเกี่ยวกับชายชราผู้หนึ่งเข็นรถให้หญิงชรานั่ง บนรถเข็นมีข้าวของใส่ถุงห้อยรุงรัง และมีถังใส่ของห้อยอยู่ใบหนึ่งด้วย ผมก็ส่งข่าวนี้ไปให้กระทรวง และได้รับคำตอบขอบคุณ และบอกว่าเบื้องต้นอยู่ระหว่างตรวจสอบดำเนินการตามเคย

ผมตอบกลับไปว่ารายที่แล้วๆ มาถ้าจะกรุณาให้ผมทราบผลได้ก็ดี ผมจะได้ช่วยเผยแพร่ผลงานของกระทรวง คราวนี้ได้รับตอบว่า สำหรับรายเด็กหญิง 2 คนขอทานอยู่ที่ถนนอโศก กระทรวงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี และวางแผนขอความร่วมมือจากสถานีตำรวจนครบาลลุมพินีตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกัน และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ทราบภารกิจและบริการของศูนย์ช่วยเหลือสังคม

ส่วนในกรณีชายและหญิงชรา 2 คนนั้นตอบว่า ได้ประสานไปยังศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการขอทานและไร้ที่พึ่งเพื่อขอความอนุเคราะห์ดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาให้ความช่วยเหลือแล้ว

ผมขอเชิญชวนท่านผู้อ่านที่พบปัญหาคนยากจนไร้ที่อยู่และปราศจากที่พักพิง ให้ถือเป็นธุระช่วยกันแจ้งให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ทราบ เป็นการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้เพื่อนมนุษย์ด้วยกันด้วยวิธีที่ลงทุนน้อยที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image