•…การเมืองเข้าสู่โหมด “ดูด” ที่ “อึกทึกครึกโครม” มากขึ้นเรื่อยๆ ลีลาของ เนวิน ชิดชอบ ซึ่ง “จัดเต็ม” ต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเรื่องกล่าวขวัญกันทั้งวงการ คำถามคือระหว่าง “บิ๊กตู่” กับ “พี่เน” ใครได้มากกว่าใคร ในความรู้สึกนึกคิดของแวดวงนักวิเคราะห์ “เครดิตเนวิน” พุ่งระเบิดเถิดเทิง ขณะที่ “คสช.” ดู “ศรัทธา” หดหายเสียมากกว่าได้เพิ่ม
•…ย้อนไปสู่ความเคลื่อนไหวของ “กปปส.” ที่ “ล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้ง” ด้วยวิธีสร้างสถานการณ์เปิดทางให้เกิด “รัฐประหาร” แม้ส่วนหนึ่งจะรับรู้กันว่าเป็น “เกมชิงอำนาจ” ระหว่าง “นักการเมืองจากการเลือกตั้ง” กับ “นักการเมืองจากการแต่งตั้ง” โดย “ประชาธิปัตย์” ซึ่งแม้จะเป็น “นักการเมืองจากการเลือกตั้ง” แต่เล่นบทหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ “ล้มล้างการเมืองจากการเลือกตั้ง” ในสถานการณ์นั้น “ส่วนหนึ่งที่เข้าร่วมแสดงพลัง” เพราะฝันหวานว่าเป็นเรื่อง “ปฏิรูปการเมือง”
•…ความชอบธรรมที่อ่อนแอของ “นักการเมืองจากการเลือกตั้ง” เกิดจากภาพในความรู้สึกนึกคิดของประชาชนว่า “นักการเมืองไร้อุดมการณ์ที่แท้จริง” เข้ามาแสวงหา “อำนาจ” เพื่อโอกาส “กอบโกยผลประโยชน์ส่วนตัว” จำเป็นต้องสะสางให้เกิด “คุณภาพใหม่ทางการเมือง” เปิดทางให้ “คนดีมีความสามารถ” มีโอกาสเข้าไปแสดงบทบาทมากขึ้น ไม่ใช่ผูกขาดอยู่กับ “นักการเมืองกลุ่มเก่า” ที่แม้จะเปลี่ยนหน้ามาเล่น แต่ยังเป็นจาก “ตระกูลเดิมๆ” ที่ “มากบารมีควบคุมแต่ละท้องถิ่น” หนีไม่พ้นภาพการโกงกิน ทุจริตคอร์รัปชั่นมหาศาล โดยเชื่อว่าเปิดทางให้ “กองทัพ” เข้ามาทำความสะอาด แล้วเริ่มต้นใหม่จะเป็นความหวังมากกว่า
•…แต่ “ปฏิบัติการ” จาก “คณะรัฐประหาร” ที่ใช้อำนาจได้เต็มที่ ที่จะยาวนานจาก 4 ปี ไป 5 ปี หรือมากกว่านั้น จากที่เริ่มด้วย “ความหวัง” กลับวกเข้าสู่ “สภาพเดิมๆ” คือ “ตั้งพรรคการเมือง” แล้ว “ดูดผู้มีบารมีในท้องถิ่น” อันเป็น “ผู้ครองเสียงประชาชน” เข้ามาเป็นฐาน เป็นการเมืองที่ตอบโจทย์เพียงแค่ “โอกาส” ที่จะ “รับประกันความสำเร็จของการสืบทอดอำนาจ” ได้มากขึ้น ไม่ใช่ “การแก้โจทย์ตามความหวังว่าจะทำให้คุณภาพของนักการเมืองดีขึ้น” ตามที่มา “ร่วมเป่านกหวีดกันแก้มตุ่ย” เพื่อ “ขับไล่นักการเมืองจำพวกนี้” ขณะที่ “ผู้นำ” การเคลื่อนไหว ส่วนหนึ่งกลับเป็น “โอกาสในอำนาจของตัวเอง สำคัญกว่าความหวังเมื่อครั้งร่วมเคลื่อนไหว”
•…การตอบโจทย์เรื่อง “ไม่เสียของ” กลายเป็น “การได้สืบทอดอำนาจ” หาใช่ “ไม่เสียของ” ในความหมายของ “การพัฒนาคุณภาพการเมือง” และตรงนี้เองที่ทำให้ “นักวิเคราะห์” ประเมินกันว่า ที่ได้เต็มๆ คือ “นักการเมืองมากประสบการณ์” ที่เป็น “ผู้มีบารมีในท้องถิ่น” โดยเฉพาะลีลาการต้อนรับ “บิ๊กตู่” อย่างอลังการสร้างเที่ยวนี้ เนวิน ชิดชอบ ได้โอกาสในการแสดงพลังให้เห็นความยิ่งใหญ่ให้ปรากฏแก่สายตาประชาชนทั้งประเทศ หรือจะว่าไปคือ “ทั้งโลก” ย่อม “เพิ่มบารมี” แบบเต็มๆ โดยท่าทียอม
ซูฮกกับความยิ่งใหญ่ของ “คณะผู้ได้รับการต้อนรับ” เป็นภาพที่เสริมส่ง “บารมี” นั้นให้ “ขจรขจาย”
•…สำหรับ “ทีมผู้มีอำนาจ” ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้มีชื่อเข้าชิง “เก้าอี้นายกรัฐมนตรี” หลังการเลือกตั้ง หรือ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ผู้ได้ชื่อว่าเป็น “ผู้อำนวยการก่อสร้างพรรคสนองการสืบทอดอำนาจ” กลับถูกต้อนเข้าสู่ “วงล้อมของการวิพากษ์วิจารณ์หนักหน่วง” แน่นอน! ย่อมเป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับ “ปฏิรูป” และ “คุณภาพการเมือง” กับเวลา 5 ปีที่สูญเสียไปกับ “ความหวัง”
•…ไม่แปลกที่ “เพื่อไทย” จะถามหาความเป็นธรรมของ “โอกาสการหาเสียง” แต่ที่ผู้คนพากันเหลียวมองคือ บทบาทของ “พรรคประชาธิปัตย์” ที่ถูกตีความว่าเป็น “ผู้ถากถางหนทางให้รัฐประหาร” แล้วที่สุดที่ได้ดิบได้ดีเป็นทางเลือกแรกๆ ของผู้มีอำนาจกลับเป็น “พรรคท้องถิ่น” ที่ส่วนใหญ่ตั้งขึ้นมาเพื่อ “เข้าร่วมกับอำนาจ” อยู่แล้ว เป็น “นักการเมือง” ที่ไม่เคยปิดบังอำพรางเป้าหมาย
•…ที่น่าสนใจคือมุมมองที่ว่า “นักการเมือง” ที่พร้อมเข้าสู่อำนาจ โดยไม่เลือกวิธีการทั้งหลายเหล่านี้ ความเป็นจริงไม่มีความจำเป็นต้อง “ดูด” ด้วยพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอยู่แล้วไม่ว่าใครที่มีอำนาจ ขณะเดียวกันพร้อมที่จะ “ถีบหัวส่ง” ไม่ว่าใครที่ “ตกกระป๋อง” จึงมีคำถามว่าเป็น เพราะ “ความไม่มั่นใจ” หรือ “ความอ่อนหัด” จึงต้องลงทุนเพื่อ “ดูด” สิ่งที่ “ไม่จำเป็นต้องดูด”
ชโลทร