สุจิตต์ วงษ์เทศ : หอศิลป์ กทม. ใต้อำนาจนิยม ของความเป็นไทยแบบเจ้าขุนมูลนาย 

อำนาจนิยมของรัฐราชการ เป็นปฏิปักษ์ต่อพลังสร้างสรรค์ของไทย ทำให้ความสามารถลดลงอย่างฮวบฮาบในเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (เมื่อเทียบนานาอารยประเทศ)

อำนาจนิยมเสกสรรปั้นแต่งขึ้นใหม่ให้วัฒนธรรมไทยหรือความเป็นไทยแบบเจ้าขุนมูลนาย แล้วหล่อหลอมกล่อมเกลาจนถึงครอบงำและควบคุมประชาชนพลเมือง ให้เชื่ออย่างเชื่องๆ และยอมจำนนว่าคนไม่เท่ากัน จึงต้องรู้จักและยอมรับความไม่เท่าเทียม ได้แก่ ที่ต่ำที่สูง, ผู้ใหญ่ผู้น้อย, รุ่นพี่รุ่นน้อง (โซตัส), และอื่นๆ

ใครแข็งข้อต่อกร ต้องถูกกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ถูกเช็คบิล ฯลฯ ตามที่เป็นข่าวออกสื่อบ่อยๆ

หงุดหงิด งุ่นง่าน

Advertisement

คนชั้นนำอำนาจนิยมเผด็จการกับลิ่วล้อบริวาร แสดงอาการหงุดหงิดต่อ“กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง” ที่ไม่ยอมเชื่อฟังรัฐบาลว่าจะจัดเลือกตั้งปีหน้า กุมภาพันธ์ 2562 (กลุ่มคนอยากเลือกตั้งเข็ดหลาบรัฐบาลที่หลอกเลื่อนมาหลายครั้ง ว่าจะเลือกตั้งแล้วไม่ทำตามคำพูด good but mouth ดีแต่ปาก)

คนชั้นนำอำนาจนิยมเผด็จการกับลิ่วล้อบริวาร งุ่นง่านหงุดหงิดที่เห็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอยู่ในกลุ่มเรียกร้องเลือกตั้ง แล้วตะเพิดไล่กลับไปเรียนหนังสือให้จบก่อน ถ้าไม่กลับจะมีปัญหา

ขัดแย้งกับนโยบายของผู้นำเผด็จการที่ประกาศป่าวๆ ว่าต้องการให้การศึกษามุ่งไทยแลนด์ 4.0 นักเรียนนักศึกษาต้องคิดเป็นทำเป็นด้วยตนเอง ไม่ท่องจำตามครู (เหมือนนกแก้วนกขุนทอง)

Advertisement

การเรียกร้องเสรีภาพ เรียกร้องประชาธิปไตย คือห้องทดลองการเรียนการสอนนอกระบบ หรือนอกห้องเรียนที่ดีที่สุด ให้คิดเป็นและทำเป็นด้วยตนเอง เป็นที่รับรู้และรับรองของสถาบันการศึกษาทั่วโลก

ยกเว้นไทย ยุคมีผู้นำเผด็จการดีแต่พูด good but mouth

ยึดคืนหอศิลป์

หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (หอศิลป์ กทม.) ตั้งอยู่สี่แยกปทุมวัน (ฝั่งตรงข้ามศูนย์การค้ามาบุญครอง)

บริหารจัดการจนประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร จึงมีผู้ชื่นชมยกย่องมากมายทั้งในไทยและในระดับสากล

ต่อมาผู้มีอำนาจใน กทม. มีแนวคิดยึดคืนหอศิลป์ กทม. ไปบริหารเองตามแนวเจ้าขุนมูลนายโดยข้าราชการ กทม.

แม้จะยอมถอย เพราะถูกต่อต้านหนักอย่างนึกไม่ถึง แต่เป็นพยานว่ามีแนวคิดเป็นปฏิปักษ์ต่อพลังสร้างสรรค์ของไทย ไม่ต้องการให้สังคมไทยมีเสรีทางความคิด

ไล่รื้อชุมชนป้อมมหากาฬ

ก่อนหน้านี้ชุมชนป้อมมหากาฬชานกำแพงพระนคร ไล่รื้อสำเร็จแล้ว ด้วยวิธีโสโครกปล่อยข่าวใส่ร้ายโดยอำนาจนิยมของรัฐราชการ กทม.

เป็นงานทำลายหลักฐานประวัติศาสตร์โบราณคดีเกี่ยวกับชุมชนชานกำแพงพระนคร ที่เหลือแห่งเดียวในไทย ขณะเดียวกันก็ทำลายแหล่งกำเนิดลิเกของไทย แล้วบั่นทอนพลังสร้างสรรค์มหาศาลของสังคมไทย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image