ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
---|
“ประวัติศาสตร์ไม่ใช่เรื่องความจำ อย่างจำ พ.ศ. และเหตุการณ์สำคัญเท่านั้น”
อ. ธงทอง จันทรางศุ (ประธานอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านกฎหมายการศึกษา) กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมทางวิชาการ เรื่อง “บุพเพสันนิวาสกับความรู้ทางประวัติศาสตร์” ที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เมื่อวันอังคารที่ 15 พฤษภาคม 2561 (มติชน วันพุธที่ 16 พฤษภาคม 2561 หน้า 5) แล้วบอกอีกว่า
“การสอนประวัติศาสตร์ ครูผู้สอนต้องมีความเข้าใจ มีความสามารถที่จะเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆ ได้”
“จึงเสนอให้ฝึกสอนครูให้มีความรู้ทางประวัติศาสตร์มากพอ สิ่งเหล่านี้ถ้าสามารถสอนหรือทำได้ จะทำให้คนไทยมีใจเปิดกว้าง มองเห็นโลกความเป็นจริงมากขึ้นผ่านการศึกษาประวัติศาสตร์”
ที่ อ. ธงทอง บอกนี้ ครูผู้สอนรู้ รวมทั้งผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการก็รู้ ทุกคนรู้ไม่น้อยกว่า 30 ปีมาแล้ว แต่ไม่ได้แก้ไข ทุกคนรอ “ผู้มีบุญ” มาแก้ให้
ไม่มีสังคม มีแต่สงคราม
ประวัติศาสตร์อยุธยามีแต่สงคราม ไม่มีสังคม อ. ธงทอง จันทรางศุ บอกว่า
“การเรียนประวัติศาสตร์อยุธยา พูดถึงแต่ประเทศเพื่อนบ้าน…เป็นเรื่องของการรบศึกสงคราม และเรื่องของราชวงศ์เท่านั้น
ไม่มีใครตั้งคำถามว่า ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ มีประวัติศาสตร์อย่างไร
อีกทั้งไม่มีภาพวิถีชีวิตของผู้คนสมัยโบราณว่าเป็นอย่างไร การดำรงชีวิตและอาชีพของผู้คนสมัยอยุธยา ไม่ปรากฏอยู่ในบทเรียนเลย”
ครูผู้สอนและผู้บริหารกระทรวงศึกษารู้หมดนานแล้ว แต่ยังไม่ได้แก้ไข 30 ปีมาแล้ว ขอ อ. ธงทอง กระทุ้งอีก
โลกไม่เหมือนเดิม
โลกไม่เหมือนเดิม อ. ธงทอง จันทรางศุ แนะว่าการเรียนการสอนประวัติศาสตร์อยุธยา ต้องปรับเปลี่ยนให้รู้เท่าทันสิ่งที่เปลี่ยนไป “ในอดีตเรียนเพื่อให้รักชาติบ้านเมือง เป็นเรื่องของการรักษาเอกราช เรื่องของราชวงศ์ แต่ปัจจุบันเราอยู่ในเวลาที่ต้องตอบว่าจะใช้ประวัติศาสตร์บอกอะไรกับสังคม”
“ตราบใดที่นักเรียนไทยยังคงเรียนหลักสูตรเดิม จะไม่เกิดบูรณาการทางความรู้ ดังนั้น ควรต้องจัดเตรียมหลักสูตรให้เป็นไปตามยุคสมัย เพราะประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลง และมีพัฒนาการตลอด”
ครูผู้สอนกับผู้บริหารกระทรวงรู้หมด แต่ไม่ทำอะไร เพราะกระทรวงวัฒนธรรมก็ไม่แก้ไขให้สอดคล้องประวัติศาสตร์ในสากลโลก แต่ยังลอกของเดิมที่ขาดตกบกพร่อง
ประวัติศาสตร์ชาติไทยของรัฐราชการ
ประวัติศาสตร์ไทยของทางการมีเนื้อหาเป็น “นิยาย” ปลุกใจให้คลั่งชนชาติไทย เชื้อชาติไทย ที่ไม่เคยมีจริง เพื่อผดุงอำนาจของคนชั้นนำที่มีสำนึกคนไม่เท่ากัน
หนังสือ “ประวัติศาสตร์ชาติไทย” (พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2558) ของกระทรวงวัฒนธรรมที่มอบหมายกรมศิลปากรเรียบเรียงทั้งเล่ม เป็นงานเพื่อผดุงอำนาจการเมืองเผด็จการยุคปัจจุบัน (ไม่ต่างจากงานประวัติศาสตร์ไทยของหลวงวิจิตรวาทการ ที่นักโบราณคดีไทยมักดูถูกเหยียดหยาม) จึงไม่ควรกล่าวหาว่าร้ายป้ายสีคนอื่นที่คิดต่างทางการเมือง
ประวัติศาสตร์ชาติไทยของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เป็น “วรรณกรรมตัดปะ” (ดัดแปลงคำพูดของ อ. ชาญวิทย์ เกษตรศิริ) คัดๆ ลอกๆ ย่อๆ ย่นๆ พงศาวดารและรายงานโบราณคดีมาแปะๆ ปะๆ ต่อๆ เข้าด้วยกัน
ดูได้จากสมัยอยุธยาให้ความสำคัญต่อสงคราม โดยไม่มีวิถีสังคมว่ากินขี้ปี้นอนกันยังไง?