ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
ครบ 4 ปี คสช.ไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา
มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นัดหมายที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จะเดินไปทำเนียบรัฐบาล
ปฏิกิริยาจากรัฐในปีนี้แปลกๆ ไม่นิ่งเท่าที่ควร
เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลบังคับใช้กฎระเบียบอย่างเข้มข้น จัดการกับฝ่ายต่อต้านอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
ยังเหลือเฉพาะกลุ่มปัญญาชน ประชาชนในส่วนกลาง และเมืองใหญ่ไม่กี่เมือง
แต่กระดิกกระเดี้ยอะไร ก็อยู่ในสายตาหน่วยงาน พร้อมมาถึงตัวทันที
ด้วยเวลา 4 ปี ด้วยการทำงานของตำรวจ ทหารและหน่วยงานความมั่นคง
ฝ่ายต่อต้านไม่ใช่คนแปลกหน้า ไม่ได้โผล่มาจากใต้ดินหรือสะดือทะเล
แต่เป็นประชาชนคนไทยธรรมดา ที่เปิดหน้าเปิดตัวประกาศจุดยืนมาตลอด
เจ้าหน้าที่ประกบติด บุกถึงบ้านกันมาแล้วทั้งนั้น
มีประวัติ ภาพถ่ายอยู่ที่หน่วยงานข่าวกันหมด
ดังนั้น ใครเป็นใคร ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับเจ้าหน้าที่
เมื่อเกาะติดขนาดนี้ อยู่ในสายตาตลอด ถ้ามีนอกใน มีท่อน้ำเลี้ยง ก็คงไม่เหลือ ยังจะต้องหวาดหวั่นอะไรกันอีก
ยิ่งไปกว่านั้น จุดประสงค์ที่ต้องการเลือกตั้ง ก็สอดคล้องและไม่ได้ขัดแย้งใดๆ กับโรดแมปของรัฐบาล ที่กำหนดให้เลือกตั้งต้นปี’62
แต่เรียกร้องให้เร็วให้ชัดเจนขึ้น
แล้วก็เป็นเรื่องเป็นราวกันขึ้นมา เพราะก่อนหน้าจะถึงวันครบรอบ 4 ปีที่ว่า
มีข่าวโครมครามว่า จะมีกลุ่มฉวยโอกาส มือที่สาม แดงฮาร์ดคอร์ ขนอาวุธหนักเข้ามาแทรกแซงกลุ่มอยากเลือกตั้ง
เพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรงเพื่อขับไล่รัฐบาล
รัฐบาลเลยไม่อยากให้มีการเคลื่อนไหวที่จะเป็นเงื่อนไขให้ลงมือก่อการ
อาการไม่นิ่งของรัฐที่แสดงออกผ่านการระดมกำลังมาตรึงม็อบอย่างขึงขัง
ทำให้บรรยากาศครบ 4 ปี ที่ควรสะท้อนความจริงว่าเรากำลังจะเลือกตั้ง หรืออาจเปิดเวทีให้ผู้คนได้ส่งเสียงทดสอบเสรีภาพของตนเองบ้าง กลับอึมครึมขึ้นมา
และน่าคิดในเรื่องอาวุธหนักอาวุธเบาที่จะเข้ามาป่วน ถ้ามีจริง ใครจะได้ประโยชน์
หรือเป็นการอ้างการข่าว เพื่อเบรกการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่รัฐบาลหวั่นไหว
ม็อบในสถานที่จริง จำนวนที่ปรากฏเป็นข่าวอาจควบคุมได้ด้วยการข่าว กำลังเจ้าหน้าที่ การใช้กฎหมาย
แต่ม็อบในโลกออนไลน์เป็นอีกเรื่อง
ประเด็นจากการเคลื่อนไหว 22 พ.ค.2561 ยังร้อนแรงอยู่ในพื้นที่ออนไลน์ ที่มีคนจำนวนมากติดตามและมีส่วนร่วม
เป็นการเมืองภาคสนามรูปแบบล่าสุดที่จะ “จัดการ” แบบเดิมๆ ไม่ได้อีกต่อไป