คุณภาพคือความอยู่รอด : คนดังออนไลน์ : โดยวิฑูรย์ สิมะโชคดี

หมดยุคของเซเลบ ดารา และคนดังในสังคม จับสินค้าโพสต์โซเชียลแล้ว
เรื่องนี้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียก ดารา นักร้อง นักแสดงชื่อดังเข้ามาให้ปากคำเพิ่มขึ้น กรณีรีวิวผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนัก หลังพบว่ามีส่วนผสมของสารที่กดประสาท ทำให้ไม่รู้สึกหิวข้าว
“เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า ดารากลุ่มดังกล่าวร่วมเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ด้วยหรือไม่ หากพบว่าเป็นเจ้าของด้วย ก็จะเข้าข่ายความผิดอื่นร่วมด้วย ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังคงจับตาและขยายผลไปยังผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้ออื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน ที่มีดาราเป็นเจ้าของสินค้า ซึ่งขายตามท้องตลาดในตอนนี้ด้วยเช่นกัน”
พล.ต.อ.วิระชัยยังกล่าวอีกว่า เนื่องจากทราบมาว่าการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว มียอดจำหน่ายที่สูงมาก บางยี่ห้อราคาต้นทุนเพียงไม่กี่บาท แต่จำหน่ายสูงกว่าต้นทุนมาก โดยจะมีนายทุนให้เงินกลุ่มคนดัง โดยใช้ชื่อเจ้าของเป็นของตัวเอง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ หรือพูดง่ายๆ คือ ใช้คนดังเป็นนอมินี รายได้ก็แบ่งกัน 70-30 ยิ่งมีชื่อเสียงมากยิ่งเป็นเป้าหมายของกลุ่มนายทุน
หลายๆ คดีของสินค้าประเภทอาหารลดน้ำหนัก ยาชูกำลัง และเครื่องสำอางในวันนี้ เป็นการสร้างแรงสั่นสะเทือนไม่แต่เซเลบ ดาราและคนดังที่มารีวิวแต่ไม่ได้ทดลองใช้สินค้าจริง เพราะถูกเชิญตัวให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกันเป็นแถว
กรณีต่างๆ ที่เป็นข่าว ทำให้สังคมได้รับรู้ว่า เซเลบ ดารานักแสดงหรือคนดังที่ร่วมรีวิวอาจเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.อาหาร และยา
ในประเด็นโฆษณาคุณประโยชน์คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ หรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร ตามมาตรา 70 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท โฆษณาคุณประโยชน์หรือสรรพคุณเพื่อประโยชน์ทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 71 ปรับไม่เกิน 5,000 บาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอม โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
ข่าวดังกล่าวในช่วงนี้ ทำให้เซเลบ ดารา นักร้อง และคนดังในสังคมอีกมากมายที่ไม่ถูกเชิญตัวไปให้ปากคำเกี่ยวข้องกับคดีที่โพสต์รีวิวสินค้า หรือเป็นพรีเซ็นเตอร์ รวมถึงการโปรโมตสินค้าอีกหลากหลายช่องทางบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ล้วนแต่ได้รับผลกระทบจากความหวาดระแวง และความไม่เชื่อใจจากผู้บริโภคไปด้วยเช่นกัน
ทุกวันนี้ ผมเชื่อใน “เสียงของผู้บริโภค” (Voice of Customers) และเชื่อมั่นในเรื่องของ “คุณภาพคือความอยู่รอด” จริงๆ ไม่ว่าจะเป็น คนธรรมดาหรือเซเลบ ดารา ก็ล้วนแต่เป็นผู้บริโภคด้วยกันทั้งนั้น หากพวกเขาเป็นผู้บริโภคที่ใช้แบรนด์นั้นๆ จริง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้บริโภคคนอื่นๆ จะเชื่อในการโปรโมตสินค้าตัวนั้นๆ ได้
เรื่องที่สำคัญ จึงหมายถึง ผู้ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์จะต้องจริงใจกับผู้บริโภค ไม่ใช่แค่จับสินค้า ไม่ใช่แค่โพสต์โชว์ แต่ต้องใช้ต้องอินกับสินค้าที่โพสต์โชว์ด้วย คือ ต้องรู้ว่าสินค้าที่โพสต์โชว์นั้น คือ คุณภาพตามจริงๆ ที่ว่า เพราะจะต้องรับผิดชอบต่อผู้บริโภคด้วย
วันนี้ จึงเป็นเรื่องของ “การจัดระเบียบ” หรือ “การกระชับพื้นที่” เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค ครับผม !

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image