สะเทือนไปทั้งวงการสงฆ์ เมื่อตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลางนำทีมโดยกองปราบปราม ถือหมายจับเข้าตรวจค้นจับกุมพระผู้ใหญ่ 3 วัดดังใน กทม.
ประกอบด้วย วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดสัมพันธวงศาราม และวัดสามพระยา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินเชื่อมโยงกับคดีเงินทอนวัดที่ลุกลามบานปลาย มีหลายวัดทั่วประเทศมีผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการศาสนาทั้งอดีตและปัจจุบันเข้าไปเกี่ยวพัน
ก่อนจะควบคุมตัวพระ 5 รูปไปสอบปากคำที่กองปราบปราม พร้อมกับนำตัวส่งฟ้องฝากขังในวันเดียวกันเลย
โดยพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการ มส. หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
อยู่ระหว่างการติดตามตัวของเจ้าหน้าที่!?
แต่ที่ฮือฮาเห็นจะเป็นกำลังตำรวจคอมมานโดพร้อมอาวุธครบมือ “จู่โจม” วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ช่วงเช้ามืดวันเดียวกัน
ด้วยยุทธวิธีทำลายสิ่งกีดขวางเข้าไปตลบมุ้งบุกรวบ “พระพุทธะอิสระ” หรือ สุวิทย์ ทองประเสริฐ วัย 59 ปี คากุฏิ
ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาอั้งยี่ซ่องโจร และปลอมพระปรมาภิไธย
เรียกว่าปฏิบัติการครั้งนี้ “ลับสุดยอด” !?
โดยที่พระพุทธะอิสระไม่รู้ระแคะระคายมาก่อน
ทั้งที่พระพุทธะอิสระถือว่าไม่ธรรมดา ลูกศิษย์ลูกหาหูตาเป็นสับปะรด
โดยภาพที่ทำให้คนทั้งประเทศรู้จัก “พระพุทธะอิสระ” เห็นจะเป็นงานพิธีหล่อพระนาคปรก ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองขณะนี้เข้าไปร่วมงานกันคับคั่ง เมื่อประมาณปี 2554-2555
บารมีเริ่มเบ่งบาน!
ครั้นเมื่อปี 2557 มีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. พระพุทธะอิสระเป็นแกนนำ ปักหลักยึดพื้นที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะเป็นที่ตั้ง
ช่วงนั้นม็อบชาวนาออกมาเรียกร้องอยู่ที่หน้ากระทรวงพาณิชย์ จ.นนทบุรี ก่อนไปยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุดที่ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ
ระหว่างนั้นตำรวจสันติบาล 3 นายแฝงตัวไปหาข่าวอยู่ในกลุ่มม็อบชาวนาด้วย
หลังจากกลุ่มม็อบชาวนามายื่นหนังสือเสร็จก็แยกย้าย เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 นายเตรียมกลับที่ตั้ง ระหว่างนั้นเจอกลุ่มการ์ดของ “พระพุทธะอิสระ” ปัญหาจึงเกิดขึ้นมา
ยิ่งรู้ว่าทั้ง 3 นายเป็นตำรวจก็เข้ารุมล้อม โดยตำรวจหนีรอดหวุดหวิดไป 1 นาย
ส่วนทั้ง 2 นายถูกการ์ดรุมซ้อม จับมัดมือไพล่หลัง-ใช้ผ้าปิดตา
แถมปลดของมีค่าไปด้วย!
ก่อนจะพาไปพบ “พระพุทธะอิสระ” บังคับนั่งกับพื้น โดยแก้มัดมือให้ แต่ยังคงปิดตาไว้
พร้อมทั้งซักถามตำรวจต่อหน้าสื่อมวลชนจำนวนมาก
เสมือนตำรวจเป็นผู้ต้องหาที่ซ่าส์มาสอดแนม กปปส.!?
ก่อนจะมีการบันทึกภาพนิ่ง วิดีโอ ลงในยูทูบ เว็บไซต์ เผยแพร่กันไปทั่วประเทศ
เป็นภาพที่ชวนสังเวช ที่กฎหมู่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย
จนผู้บังคับบัญชาของตำรวจต้องประสานไปยัง “พระพุทธะอิสระ” ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวกลับมา
ในสภาพสะบักสะบอม เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่นาน
นี่จึงเป็นผลพวงที่ตำรวจกองปราบปรามได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนไปขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ “พุทธะอิสระ”
กระทั่งศาลอนุมัติหมายจับวันที่ 23 พฤษภาคม และปฏิบัติการลับเริ่มจู่โจมเช้ามืดวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ก่อนคุมตัวมากองปราบฯ โดยที่เจ้าตัวและบรรดาลูกศิษย์ไม่ทันตั้งตัว
พร้อมคุมตัวฝากขังและให้ลาสิกขา ส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในเย็นวันเดียวกันเลย
เป็นปฏิบัติการที่รวดเร็ว ฉับไว ปิดจ๊อบทันที
ในส่วนของพุทธะอิสระเอง ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ซึ่งคงต้องไปว่ากันตามกระบวนการยุติธรรมอีกหลายขั้นตอน
และนี่อาจเป็นบทเรียนทำให้สังคมได้รับรู้ว่า ยามมีพลัง อำนาจ บารมี มักจะหลงลืมตัว กระทำอะไรลงไปโดยไม่ยั้งคิด
ซึ่งเกิดขึ้นได้หมด ไม่ว่าจะเป็น “พระสงฆ์” หรือ “ฆราวาส” !?!