“สปิริต” ให้ไปเรียกร้องกับ “นักกีฬา”
คำตอบของ “ดอน ปรมัตวินัย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่โพล่งออกมาหลังเจอคำถามที่มีการเรียกร้องให้แสดงสปิริต
กรณีมติที่ประชุม กกต.เสียงข้างมากเห็นว่าการถือครองหุ้นของภรรยานายดอน เข้าลักษณะ “ต้องห้าม” ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 264 ประกอบมาตรา 187 ที่บัญญัติไม่ให้รัฐมนตรีถือครองหุ้นในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัท หรือในกรณีประสงค์จะได้รับประโยชน์ จากหุ้นที่ถือครองให้แจ้งประธาน ป.ป.ช.ทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งและให้โอนหุ้น
จนอาจเป็นเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170
ขณะนี้ กกต.มอบหมายให้สำนักกฎหมายของสำนักงาน กกต. ดำเนินการยกร่างคำร้องเพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไปว่าผิดไม่ผิด?
ที่สำคัญ “ดอน” ยังอ้างว่านายกฯไม่ได้สอบถามหรือพูดอะไร เพราะถือว่าเป็นเรื่องเล็ก ไม่มีอะไร ในที่ประชุม ครม.เมื่ออังคารที่ผ่านมา หรือตอนรับประทานอาหารคุยกันแต่เรื่องอื่น
ไม่มีใครซีเรียสอะไร?
และไม่รู้สึกหวั่นไหวอะไรกับแรงกดดันหรือกังวลใดๆ เรื่องแบบนี้ทำงานมา 4 ปีแล้ว
ก็ถือว่าทำงานมายาวนานไม่ทราบว่าระบบตรวจสอบติดขัดตรงไหน?
และคำว่า “สปิริต” จะใช้กับนักกีฬาเท่านั้นหรือ?
สำหรับสปิริตสำหรับนักกีฬานั่นจะหมายถึง การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย กลับไปฝึกฝน แก้ไขจุดอ่อน แล้วกลับมาแก้ตัวไหม่
สำหรับพจนานุกรมฉบับมติชนคำว่า “สปิริต” มีความหมายว่า น.น้ำใจยึดมั่นในกติกาหรือแบบแผนอันสมควรของหมู่คณะ, จิตใจ, หัวใจ
ดังนั้นสปิริตไม่เฉพาะแต่นักกีฬาเท่านั้น สามารถมีได้ทุกผู้ทุกนาม ยิ่งมีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต ยิ่งต้องมีความรับผิดชอบสูงกว่าคนปกติธรรมดาหรือไม่?
ดูอย่าง นายซาฮิโระ อิมามุระ รัฐมนตรีผู้ดูแลฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น
หลังไปกล่าวในงานเลี้ยงของบรรดา ส.ส.พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ว่า ออกจะเป็นเรื่องดีที่เหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นแทนที่จะเกิดกับกรุงโตเกียว ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจะเกิดความเสียหายคิดเป็นเงินมูลค่ามหาศาล
แค่คำพูดที่คิดไม่ถึง หลังสถานีโทรทัศน์นำคำกล่าวไปออกอากาศ ทำให้สาธารณชนวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก
ต่อมานายอิมามุระต้องขอถอนคำพูดและลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อรับผิดชอบต่อคำพูดดังกล่าว
ส่วนนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเองก็ได้กล่าวขออภัยต่อคำพูดของนายอิมามุระด้วย
นั่นแหละเป็นเรื่องสปิริตล้วนๆ
หันกลับมาที่บ้านเรามองว่า “สปิริต” เป็นเรื่องของนักกีฬา?
ไม่ทราบว่าท่านคิดได้อย่างไร?!
ในขณะที่ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก
กรณีมีภาพสมาชิก สนช.บางคน มีลักษณะคล้ายกำลังหลับ ระหว่างฟังนายกฯแถลงเหตุผลและความจำเป็น การจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท
แต่กลับมี สนช.บางคนตำหนิการนำเสนอภาพข่าวของสื่อมวลชนว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร อ้างเสนอข่าวบิดเบือน ทำให้สะท้อนว่า 4 ปีที่ผ่านมา “สื่อ” ยังไม่สามารถปฏิรูปตัวเองได้
การนำเสนอภาพข่าวที่ตรงไปตรงมา ยังถูกกล่าวหาจากผู้ทรงเกียรติว่าบิดเบือน ไม่ปฏิรูปตัวเอง?!
นี่แหละสถานะรัฐมนตรีคนดีและสภาผู้ทรงเกียรติ!?!
เทวินทร์ นาคปานเสือ
