| ที่มา | สกู๊ปหน้า 1 มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ย้อนกลับไปในปี พ.ศ.2443 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานฤดูหนาวขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อหารายได้สมทบทุนก่อสร้างวัดเบญจมบพิตร ด้วยพระบรมราชวิเทโศบายในการให้ประชาชนได้มีโอกาสใกล้ชิดกับพระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ ผ่านการจัดงานออกร้านทั้งได้ร่วมทำบุญและได้ความสุขอิ่มเอมใจทั่วกัน
ภายในงานได้จัดให้มีการออกร้านของพระบรมวงศานุวงศ์ เจ้านายฝ่ายหน้าและฝ่ายใน รวมทั้งข้าราชการ บริษัทห้างร้านต่างๆ ขึ้น จนกระทั่งปี พ.ศ.2447 ได้ทรงตั้งร้านถ่ายรูปหลวง และทรงถ่ายรูปพระราชทานแก่เจ้า
นายและชาวต่างชาติต่างๆ จนกระทั่งรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ได้ทรงสืบสานพระราชปณิธานของพระบรมชนกนาถ โปรดเกล้าฯให้จัดงานฤดูหนาวขึ้น ที่สนามสโมสรเสือป่า บางปีย้ายไปจัดที่พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน และพระราชอุทยานสราญรมย์ เพื่อหารายได้สมทบทุนการกุศลต่างๆ
จากงานฤดูหนาวในอดีตนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานความสุขให้แก่ประชาชน จึงได้พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดงานในรูปแบบของงานฤดูหนาว หวนรำลึกถึงบรรยากาศเมื่อแรกเริ่ม โดยจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2561 จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 5 และในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีต่อคนไทย ในชื่องาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า ได้รับความสนใจจากพสกนิกรจำนวนมาก ต่างแต่งกายชุดไทยสมัยรัชกาลที่ 5 มาร่วมงาน
สำหรับงานครั้งที่ 2 ในรัชสมัย จัดขึ้นภายใต้ชื่องาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า
เพื่อถ่ายทอดพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงมีต่อสายน้ำ เนื่องด้วยคนไทยมีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำ ทั้งบ้านเรือนริม 2 ฝั่งน้ำ การคมนาคม แหล่งอาหาร ไล่เรียงไปจนถึงป้อมปราการเพื่อป้องกันศัตรู นับตั้งแต่แผ่นดินรัชกาลที่ 1 เป็นต้นมา ที่ทรงย้ายเมืองหลวงมายังเกาะรัตนโกสินทร์ และทรงให้ขุดคูเมืองขึ้น ป้องกันศัตรู หรือในแผ่นดินรัชกาลที่ 5 ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ขุดคลองรังสิต ขณะที่รัชกาลที่ 7 ทรงให้สร้างสะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขึ้น จวบจนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร นับ 4,000 โครงการ
และสิ่งต่างๆ นี้ รวบรวมไว้อยู่ภายในงานอุ่นไอรัก คลายความหนาวสายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ครั้งนี้
นับแต่ก้าวเข้าสู่บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต ซึ่งได้ออกแบบให้เป็นโซนนิทรรศการ ที่มีกำแพงเมืองและพระบรมมหาราชวัง ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือฝั่งสวนอัมพร ด้านในจัดแสดงนิทรรศการพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 1-10 ก่อนจะหยิบยกสถาปัตยกรรมต่างๆ มาจัดแสดงให้ประชาชนได้เห็นของจริง และพลาดไม่ได้ที่ผู้ชมงานจะต้องบันทึกภาพเป็นที่ระลึก อาทิ
พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ ณ พระลานพระราชวังดุสิต ซึ่งจำลองมาจากพระที่นั่งองค์จริง จากพระราชวังบางปะอิน เป็นพระที่นั่งองค์เดียวที่อยู่กลางน้ำ สร้างในแบบจตุรมุข แสดงออกถึงความเป็นไทย พร้อมจุดพ่นไอหมอกบริเวณเสาอาคาร, เรือพระที่นั่งจำลอง 4 ลำ ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์, เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ, เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ทุกลำสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด
สะพานมหาดไทยอุทิศ พุทธศักราช 2457 หรือสะพานร้องไห้ เป็นสะพานข้ามคลองมหานาค บนถนนบริพัตร ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่เสด็จสวรรคตเสียก่อน สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงพระราชทานนามว่า สะพานมหาดไทยอุทิศ มีจุดเด่นที่ประติมากรรม ชายจูงมือเด็ก และหญิงอุ้มเด็กในอาการโศกเศร้า อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลในหลวงรัชกาลที่ 5
เรือสำเภา ที่สร้างขึ้นจากต้นแบบในภาพวาดโบราณ มีใบเรือจริง ระลึกถึงรัชสมัยแผ่นดินรัชกาลที่ 3 ที่พระองค์ทรงแต่งเรือใบค้าขายกับประเทศจีน จนมั่งคั่ง มีเงินถุงแดงใช้กู้วิกฤตประเทศ ในวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 อันหาชมได้ยากในยุคนี้
ประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ประตูปิด-เปิดสายน้ำ ย่านคลองรังสิต เป็นการพัฒนาพื้นที่ชลประทานขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศไทย จากพระราชดำริของรัชกาลที่ 5 และสะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 เชื่อมระหว่างฝั่งธนบุรีสู่พระนคร เป็นสะพานแห่งแรกในประเทศไทยที่เปิดได้ จึงได้จัดแสดงให้เห็นว่าครั้งหนึ่งเรือเคยข้ามผ่านได้
ทั้งนี้ บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต ยังจัดให้มีภาพจิตรกรรมทิวทัศน์และภาพสามมิติริมกำแพง อาทิ ป้อมพระสุเมรุ ภาพทิวทัศน์ท่าราชวรดิฐ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ภูเขาทอง ประเพณีลอยกระทง สะพานข้ามคลอง รถโบราณ และคลองลัดโพธิ์ ทั้งยังจัดแสดงงานช่างของช่างฝีมือในวัง และอาหารตำรับชาววังจากวิทยาลัยในวัง (หญิง) อย่างน้ำพริกลงเรือ ที่หาทานได้ยาก
ขณะที่ด้านในสนามเสือป่า พบกับร้านจิตอาสา 904 และร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์ และร้านค้ารับเชิญกว่า 36 ร้าน จัดแสดงให้ประชาชนได้เลือกซื้อสินค้าหลากหลาย ทั้งยังมีกิจกรรมการถ่ายภาพ และกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมต่างๆ ให้สัมผัส รวมไปถึงตลาดบกและตลาดน้ำ ได้แก่ ตลาดเดินชิมริมทาง ตลาดบกวิถี 4 ภาค และตลาดน้ำในฝัน ที่มีเมนูอาหารและขนมโบราณให้เลือก นอกจากนี้ ยังเปิดให้ชมมหรสพต่างๆ ได้ทุกวัน
สำหรับผู้ที่เคยติดใจกับการสอยดาว งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ได้เปลี่ยนรูปแบบเป็น “มัจฉาพาโชค” ให้ประชาชนได้ร่วมลุ้นรางวัล ใบละ 25 บาท และสลากการกุศล ราคา 129 บาท รายได้จากการจัดจำหน่าย โดยไม่หักค่าใช้จ่าย นำไปช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งยังมีโรงพักริมคลอง เป็นจุดไฮไลต์ให้ประชาชนได้เยี่ยมชมอีก 1 จุด
ประชาชนสามารถเข้าร่วมงานได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 19 มกราคม 2562 เวลา 10.00-21.00 น. โดยวันศุกร์ และเสาร์ เปิดถึงเวลา 22.00 น.
