พระอารมณ์ขัน “สมเด็จพระเทพฯ” ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ สวัสดีปีจอหมา มาคอยท่าปีกุนหมู
ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ – เป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนต่างเฝ้ารอคอยที่จะได้ร่วมตามรอยเสด็จ และชื่นชมพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายในงาน “นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” ซึ่งจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี
และในปีพุทธศักราช 2561 นี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ที่ทรงบันทึกไว้ในช่วงปี 2560-2561 ทั้งหมด 156 ภาพ ให้จัดแสดงนิทรรศการฯ ในหัวข้อ “สวัสดีปีจอหมา มาคอยท่าปีกุนหมู” หรือ Hello Puppy, Greetings Piggy การนี้ เสด็จฯไปทรงเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ฯ พร้อมทรงบรรยายภาพที่ปรากฏในนิทรรศการด้วยพระองค์เอง ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 5 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รับสั่งว่า เมื่อเวลาผ่านไปเร็วก็ต้องบันทึกภาพเอาไว้ ตอนนี้มีคู่แข่งเพราะเวลาไปต่างประเทศได้แลกเปลี่ยนหนังสือเป็นของขวัญกับผู้มาเฝ้าฯรับเสด็จ หนังสือคือของขวัญที่ดี เพราะมีภาษาฝรั่งนิดหน่อยและมีเรื่องให้เล่าได้ ประกอบกับมีรูปภาพ ที่หลายคนชอบมาก เช่น ลูกหลานตัวเล็กๆ ที่อ่านหนังสือยังไม่เป็น ก็เลือกชี้จะดูแต่รูปภาพ จึงพยายามจะทำให้เป็นที่ที่ทำให้คนร่าเริงได้ทุกวัย ส่วนมากจะถ่ายภาพที่วังสระปทุม และถ่ายที่ข้างนอกบ้าง ถึงแม้ว่าจะถ่ายในที่ซ้ำๆ เช่น ในบ้านที่ถ่ายทุกวัน ก็มักจะมีอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาเสมอ
“ในคราแรกก็อยากจะวาดภาพสถานที่ที่ไป แต่ก็วาดไม่สำเร็จ เพราะว่าเส้นทางที่ไปบางทีก็ขรุขระ ดินสอก็หล่นหมด เลยได้แต่แต่งกลอนสด ถ่ายภาพก็ชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ภัณฑารักษ์บอกว่า ภาพน่าสนใจนะ แต่ไม่ชัด บางรูปยิ่งไม่ชัดใหญ่ แต่ก็เอา เขาบอกเป็นศิลปะ บางทีเป็นศิลปินนี่ก็ลำบากเนอะ” รับสั่งด้วยพระอารมณ์ขัน
ทั้งนี้ ทรงบรรยายภาพ “น้องละมุนละไมสวัสดีปีใหม่ค่ะ สวัสดีปีจอหมา” ดาราหน้ากล้องคนแรกของปี 2561 ความว่า เป็นภาพแรกของปี 2561 ด้วยเป็นปีจอหมา ตอนเวลา 2 ยามทรงถ่ายภาพนี้ไว้ ชื่อว่า “น้องละมุนละไม” ที่พอโตขึ้นก็ละมุนละไมขึ้นเล็กน้อย เพราะแต่ก่อนถ้าเห็นคนจะขึ้นแทะหัวทันที เห็นอย่างนี้ตอนกลางคืนต้องกินแซนด์วิช แต่ถ้าเห็นของใหม่ที่ทำมาให้เป็นพิเศษก็จะคายของเก่าทันที
จากนั้นทรงเลือกบรรยายภาพ “มังกรโผล่” โดยพระองค์ตรัสว่า นี่คือสัตว์อีกประเภทหนึ่งใน เวลส์ สหราชอาณาจักร เป็นสัตว์ประจำเมืองของเขา นั่นคือ “มังกรแห่งปราสาทคาร์ฟิลวี” ซึ่งปั้นจากปูนปลาสเตอร์และทาสีไว้อย่างสวยงาม เป็นสถานที่ที่ผู้คนนิยมมาถ่ายรูปกัน
ภาพ “นักดนตรีพื้นเมืองเล่นในพิพิธภัณฑ์” ทรงอธิบายว่า เป็นภาพที่บันทึกไว้ระหว่างทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์ สถานที่ซึ่งบอกไว้ครบทั้งภูมิศาสตร์ สัตวศาสตร์ พฤกศาสตร์ และสุดท้ายมีคนมาเล่นดนตรีพื้นเมืองให้ฟัง โดยหยิบเครื่องดนตรีที่ใส่ไว้ในย่ามออกมาเล่นเรื่อยๆ
ขณะที่ภาพประติมากรรม “Marriage Rings“ ซึ่งเป็นภาพที่พระองค์ทรงเล่าว่า มีประวัติหลายรูปแบบที่แต่ละที่ก็เล่าไม่ตรงกัน เขาอธิบายว่าข้างบนคือทับทิม ซึ่งเป็นตัวแทนของความรัก มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง แต่พอมองที่ฐานที่ตั้งแหวนแต่งงานมีทั้งรูปงู และแมงป่อง ซึ่งพอเปิดเว็บไซต์ดูก็มีคนบอกว่าเปรียบได้ว่าในการแต่งงานจริงๆ ก็อาจจะมีงู มีแมงป่องบ้าง มีร้ายมีดี
ภาพ “เซ็นชื่อบนเปียโนที่พิพิธภัณฑ์หานเหม่ยหลิน เป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนบุคคลของจีน” ทรงอธิบายว่า ในเมืองจีนมีศิลปินชื่อเสียงโด่งดังท่านหนึ่ง ชื่อว่า “หาน เหม่ยหลิน” เป็นบุคคลมีอายุ ประมาณ 80 ปี มีผลงานส่วนตัวเป็นงานศิลปะที่ท่านทำเอง มีมูลค่าสูง เพราะท่านทำงานศิลปะได้หลายอย่างหลายรส
“บางทีบันทึกภาพไว้ก็ลงเวลาไม่ค่อยตรง แต่รูปนี้รู้วันที่แน่นอน เพราะเซ็นลงไปว่าวันที่ 4 เมษายน”
ก่อนส่งท้ายด้วย ภาพ “ป้อนหมูที่นครปฐม ที่อุทยานการอาชีพของมูลนิธิชัยพัฒนา” ซึ่งพระองค์ตรัสว่า อยู่ๆ ก็มีคนให้หมูแคระมา 2 ตัว เป็นเพศชายกับเพศหญิง ฉลาดมากมีไอคิวเท่าหมา และเราก็ยังสงสัยเหมือนกันว่าตรวจไอคิวหมากันยังไง แล้วรู้ได้ยังไงว่าไอคิวหมูเท่ากับไอคิวหมา
“อู๊ดดี้เป็นผู้ชาย ร้องดังมาก ส่วนแอ๊ดดี้เป็นผู้หญิง กินอย่างเดียว ตอนแรกให้กินนม ตอนหลังเขาแนะนำว่าให้กินผักผลไม้เยอะๆ ซึ่งเขาจะชอบกินกล้วยมากกว่าอาหารจืดๆ เขาบอกว่าถ้าไม่ระวังหมูแคระก็จะกลายเป็นหมูที่หนัก 200 กิโลได้ เราก็เกรงว่าจะเป็นแบบนั้นอยู่เหมือนกัน” ทรงรับสั่งด้วยพระอารมณ์ขัน
หลังจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงนำผู้ชมไปสัมผัสกับโลกกว้างผ่านภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ที่แต่ละภาพสอดแทรกพระอารมณ์ขันไว้ในชื่อแต่ละภาพได้อย่างดี อาทิ เงาะลิ้นจี่ แปลกมาก กินแล้วไม่เหมือนเงาะ ไม่เหมือนลิ้นจี่, น้องละมุนชอบนอนบนพุ่มไม้ใบหญ้า หากพูดว่า “Take a photo” จะอยู่นิ่ง
นอกจากเป็นภาพที่สวยงามทรงคุณค่าทางศิลปะการถ่ายภาพแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองจากสายพระเนตรผ่านเลนส์กล้องที่พระองค์สนพระราชหฤทัยถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพถ่าย ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าชม “นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2561” ได้ตั้งแต่วันนี้-10 มีนาคม 2562 (หยุดทุกวันจันทร์) ณ ห้องนิทรรศการ ชั้น 9 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
