| ที่มา | มติชนรายวันหน้า 23 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
เป็นประจำทุกปีในวันพืชมงคล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทอดพระเนตรความก้าวหน้า โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา โดยมีนายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี, นายแก้วขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการพระราชวัง ในฐานะผู้อำนวยการโครงการส่วนพระองค์ฯ, พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ (กษ.), นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัด กษ. ตลอดจนผู้บริการ ข้าราชการ และบุคลากร กษ. กลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ ผู้แทนเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศ และผู้สนับสนุนกิจการโครงการฯ เฝ้าฯ รับเสด็จ ณ โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา
การนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราโชวาทตอนหนึ่งความว่า เพราะคนเราทุกคนย่อมมีความรู้ความเชี่ยวชาญแตกต่างกันไป ตามสาขาที่แต่ละคนได้ศึกษาเล่าเรียนมา และตามประสบการณ์ที่สร้างสมขึ้นจากการปฏิบัติงาน หากแต่ละคนจะนำความรู้ความเชี่ยวชาญที่ตนมีอยู่ไปใช้ในการปฏิบัติงานให้สนับสนุนส่งเสริมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ก็ย่อมจะทำให้กิจการของสหกรณ์นั้นมีความรุ่งเรืองก้าวหน้า จึงนับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ท่านทั้งหลายได้มาพบปะกับวิทยากรผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และเพื่อนเกษตรกรผู้มีประสบการณ์ในด้านต่างๆ ทั้งด้านการเกษตร การสหกรณ์ และการบัญชี ขอให้ทำความรู้จักคุ้นเคยกันไว้ให้มาก ต่อไปภายหน้าจะได้ประสานความร่วมมือกัน เพื่อพัฒนางานด้านการเกษตรและสหกรณ์ของบ้านเมืองเราให้เข้มแข็งมั่นคงยิ่งๆ ขึ้นไป
จากนั้นทอดพระเนตรนิทรรศการ เช่น “ปลากระเบนเจ้าพระยา สัตว์น้ำคู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา” โดยกองโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, งานศึกษาวิจัยและพัฒนาการย้อมเส้นไหมจากธรรมชาติให้ได้สีที่มีคุณภาพสูง ทอดพระเนตรและทรงพระสุหร่าย “ห้องผลิตน้ำมันรำข้าว” ที่สร้างขึ้นใหม่ภายในอาคารโรงสีข้าวตัวอย่างสวนจิตรลดา ต่อมาทรงพระสุหร่าย “อาคารเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี ซึ่งเป็นสำนักงานของศูนย์ควบคุมและประกันคุณภาพที่สร้างขึ้นใหม่เช่นกัน ก่อนเสด็จฯกลับ
สำหรับความก้าวหน้าของโครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ปีนี้ ได้มีการปรับปรุงการดำเนินงานให้มีความทันสมัยและได้มาตรฐาน อาทิ การใช้งานโปรแกรม iService ในการเลี้ยงโคนม ซึ่งเป็นโปรแกรม “ระบบฐานข้อมูลโคนม” ในการพัฒนาสุขภาพและผลผลิตน้ำนม แก้ไขและจัดการปัญหาต่างๆ โปรแกรมนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งเจ้าหน้าที่ผสมเทียม สัตวแพทย์ นำไปใช้ปฏิบัติงานในฟาร์มเกษตรกรได้
นอกจากนี้ โครงการฯยังได้ “ปรับปรุงเครื่องจักร” การผลิต “น้ำดื่มจิตรลดา” จากเครื่องบรรจุแบบแถวตรง ผลิตได้ 30 ขวด/นาที มีอายุการใช้งาน 20 ปี เปลี่ยนมาเป็นเครื่องบรรจุแบบโรตารี ผลิตได้ 60 ขวด/นาที และยังได้ปรับปรุงระบบกรองน้ำให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
และเป็นที่น่ายินดีเมื่อ “โรงผลิตน้ำผึ้งสวนจิตรลดา” ที่ได้รับ “รางวัล อย.ควอลิตี้ อวอร์ด ปี 2559” ซึ่งเป็นสถานประกอบการด้านอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และใส่ใจสังคม รวมทั้ง “นมปรุงแต่งชนิดเม็ด” ก็ได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมของประเทศไทย ประจำปี 2558 จากกระทรวงอุตสาหกรรม โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์หรือโดดเด่นกว่ามาตรฐานทั่วไป
อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการพัฒนา นั่นคือ “ไอศกรีม” โดยโรงเนยแข็งสวนจิตรลดาร่วมกับหน่วยวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์นม พัฒนาผลิตภัณฑ์ไอศกรีมนมสูตรใหม่ เป็นไอศกรีมพรีเมียม โดยใช้น้ำนมโคสดพาสเจอไรซ์ ครีมสด และนมผงจากโรงนมผง สวนดุสิต เป็นวัตถุดิบหลัก เพื่อให้รสชาติเข้มข้นขึ้น อีกทั้งยังได้เปลี่ยน “แพคเกจ” จากถ้วยพลาสติกเป็นถ้วยกระดาษ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดมีกระบวนการผลิตที่ดีและได้รับการรับรองระบบ HACCP
รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่จากโรงสีข้าวตัวอย่างสวนจิตรลดา ที่นำผลผลิตจากข้าวมาใช้ประโยชน์ โดยนำ “รำข้าว” ที่อุดมไปด้วยสารสำคัญมีประโยชน์ต่อร่างกาย โรงสีข้าวตัวอย่างฯ จึงได้จัดทำโครงการผลิต “แคปซูลเจลน้ำมันรำข้าวหอมมะลิ” ใช้สำหรับบำรุงร่างกาย รวมทั้งจัดทำ “น้ำมันรำข้าว” ใช้ในการประกอบอาหาร และผลิตเป็นเครื่องสำอาง อาทิ สบู่ โลชั่น น้ำมันนวด และการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ “ข้าวเกรียบสาหร่ายเกลียวทอง” ที่โครงการส่วนพระองค์ฯ ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ประทานผลงานศิลปนิพนธ์ มาปรับปรุงแพคเกจใหม่ที่สะท้อนถึงความเรียบง่าย ทันสมัย
