รองผบช.น. เผยเส้นทางปิดการจราจรช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2-6 พ.ค.
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ศูนย์สื่อมวลชนย่อย ห้องประชุม 1 ชั้น 1 อาคารหอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ซ.อารีย์สัมพันธ์ กรมประชาสัมพันธ์ จัดงานสัมมนาสื่อมวลชนงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึง การรักษาความปลอดภัย และเส้นทางการจราจร ในช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ว่า
ในวันที่ 18-19 เมษายน ซึ่งเป็น วันอัญเชิญน้ำอภิเษก จากกระทรวงมหาดไทย ไปยังวัดสุทัศนเทพวราราม และอัญเชิญน้ำอภิเษกจากวัดสุทัศน์ฯ ไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม จะมีการปิดถนนตามสภาพ
แต่ในช่วง พระราชพิธีเบื้องกลาง ระหว่างวันที่ 2-6 พฤษภาคม จะมีการปิดถนนดังเส้นทางต่อไปนี้ วันที่ 2 พฤษภาคม เริ่มปิดการจราจร เวลา 00.00 น. เป็นต้นไปในถนน 8 เส้นทาง ได้แก่ 1.ถ.หน้าพระลานตลอดสาย 2.ถ.หน้าพระธาตุ จากหน้าสามเหลี่ยมประตูวิเศษไชยศรี ถึงแยกพระจันทร์ 3 .ถ.ราชดำเนินใน จากแยกผ่านพิภพ ถึงแยกป้อมเผด็จ 4.ถ.สนามไชยจากแยกป้อมเผด็จ ถึงแยกท้ายวัง วงเวียนรด. 5.ถ.หับเผย 6.ถ.หลักเมือง 7.ถ.กัลยาณไมตรีถึงสะพานช้างโรงสี 8.ซอยสราญรมย์ ส่วนการจัดการเดินรถทางเดียว 5 สาย คือ 1.ถ.พระจันทร์ จากแยกพระจันทร์ถึงท่าพระจันทร์ 2.ถ.มหาราช จากท่าพระจันทร์ ถึงซอยเศรษฐการ 3.ถ.ท้ายวัง จากท่าเตียน ถึงแยกท้ายวัง 4.ถ.เชตุพน จากถ.มหาราชถึงถ.สนามชัย 5.ซอยเศรษฐการ จากถ.มหาราชถึงถ.สนามชัย
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่า ด้านการจัดการจราจร บริเวณรอบพระลานพระราชวังดุสิต ปิดการจราจร ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ในถนน 5 สาย ได้แก่ 1.ถ.อู่ทองในจากแยกอู่ทองใน ถึงแยกพระลานพระราชวังดุสิต 2.ถ.ราชดำเนินนอก แยกพระลานพระราชวังดุสิต ถึงแยกมัฆวาน 3.ถ.ศรีอยุธยา จากพล.1 ถึงแยกวัดเบญจมบพิตร 4.ถ.พิษณุโลก จากแยกวังแดงถึงแยกพาณิชยการ 5.ถ.ลูกหลวง จากแยกประชาเกษม ถึงแยกเทวกรรม เปิดจุดคัดกรองเวลา 12.00 น. เพื่อให้ประชาชนเข้าร่วมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
สำหรับวันที่ 2 พฤษภาคม การจัดการด้านจราจร บริเวณปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพุทธยอดฟ้า ปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 10.00 น. ในถนนสี่เส้นทาง ได้แก่ 1.ถ.ตรีเพชร จากแยกพาหุรัด ถึงสะพานพระพุทธยอดฟ้า 2.ถ.สะพานพุทธยอดฟ้า (ถ.ใต้สะพานพุทธยอดฟ้า) 3.ถ.จักรเพชร จากปากคลองตลาด (สะพานเจริญรัช) ถึงทางร่วมหน้าการไฟฟ้านครหลวง (วัดเลียบ) 4.สะพานพุทธยอดฟ้า จากฝั่งธนบุรี ถึงฝั่งพระนคร โดยเจ้าหน้าที่จะเริ่มเปิดจุดคัดกรองประชาชน เวลา 12.00 น.
ต่อมา วันที่ 3 พฤษภาคม การจัดการจราจรบริเวณพระบรมมหาราชวัง ปิดการจราจร ตั้งแต่ 05.00 น. โดยขยายปิดการจราจร ชั้นในเพิ่มเติม เพื่อรองรับจุดคัดกรอง ในถนน 6 สาย 1.ถ.ราชินีจากแยกผ่านพิภพถึงใต้สะพานพระปิ่นเกล้า 2.ถ.สนามไชยจากแยกท้ายวัง ถึงแยกตัดถนนพระพิพิธ 3.ถ.หน้าพระธาตุตลอดสาย 4.ถ.พระจันทร์ตลอดสาย 5.ถ.มหาราชจากแยกท่าพระจันทร์ ถึงซอยเศรษฐการ 6.ถ.ท้ายวัง ทั้งนี้จะเปิดให้จุดคัดกรองให้ประชาชนเข้าพื้นที่เวลา 06.00 น.
นอกจากนี้ใน วันที่ 4 พฤษภาคม จะปิดการจราจรต่อเนื่องจากวันที่ 3 พฤษภาคม จำนวน 6 เส้นทาง คือ 1. ถ.ราชินี จากแยกผ่านพิภพ ถึงใต้สะพานพระปิ่นเกล้า 2.ถนนสนามไชย จากแยกท้ายวัง ถึงแยกตัดถนนพระพิพิธ 3.ถนนหน้าพระธาตุตลอดสาย 4.ถนนพระจันทร์ตลอดสาย 5.ถนนมหาราช จากท่าพระจันทร์ถึงปากซอยเศรษฐการ 6.ถนนท้ายวัง โดยจะปิดถนนถึงเวลา 24.00 น. โดยเปิดจุดคัดกรองในเวลา 06.00 น.
ส่วน วันที่ 5 พฤษภาคม ซึ่งมีการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค มีการปิดถนนทั้งหมด 34 เส้นทาง ได้แก่ 1.ถ.ราชดำเนินนอก จากแยกจปร. ถึงแยกผ่านฟ้า 2.ถ.นครสวรรค์ จากแยกผ่านฟ้าถึงแยกจักรพรรดิพงษ์ 3.ถ.หลานหลวง จากแยกผ่านฟ้าถึงแยกหลานหลวง 4.ถ.มหาชัย จากแยกป้อมมหากาฬ ถึงแยกสำราญราษฎร์ 5.ถ.ดินสอ จากแยกกทม. ถึงแยกวันชาติ 6.ถ.ประชาธิปไตย จากแยกวันชาติ ถึงแยกวิสุทธิกษัตริย์ 7.ถ.ตะนาว จากวงเวียนสิบสามห้าง ถึง สี่กั๊กเสาชิงช้า 8.ถ.สิบสามห้าง 9.ถ.ข้าวสาร 10.ถ.รามบุตรี 11.ถ.ตานี 12.ถ.ไกรสีห์ 13.ถ.พระสุเมรุ 14.ถ.สามเสน จากแยกบางขุนพรหม ถึงแยกบางลำพู 15.ถ.จักรพงษ์ 16.สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถึงแยกผ่านพิภพ 17.ถ.บุญศิริ จากถ.อัษฎางค์ ถึง ถ.บูรณศาสตร์ 18.ถ.ราชบพิธ 19.ถ.บำรุงเมือง จากสี่กั๊กเสาชิงช้า ถึงแยกศิริพงษ์ 20.ถ.เจริญกรุง จากสี่กั๊กพระยาศรี ถึงแยกเฉลิมกรุง 21.ถ.บ้านหม้อ จากสี่กั๊กพระยาศรี ถึงแยกบ้านหม้อ 22.ถ.อัษฎางค์ จากแยกสะพานมอญ ถึงแยกพระพิทักษ์ 23.ถ.ราชินี จากแยกผ่านพิภพ ถึงแยกพระพิทักษ์ 24.ถ.พระพิพิธ จากถ.สนามไชย ถึงแยกพระพิทักษ์ 25.ถ.พาหุรัด 26.ถ.มหาราช จากท่าพระจันทร์ ถึงแยกปากคลองตลาด 27.ถ.ท้ายวัง 28.ถ.เชตุพน 29.ซ.เศรษฐการ 30.สะพานพุทธยอดฟ้า 31.ถ.ตรีเพชร 32.ถ.ตรีทอง 33.ถ.ใต้สะพานพระพุทธยอดฟ้า 34.ถ.จักรเพชร จากปากคลองตลาด ถึงหน้าวัดเลียบ ทั้งนี้ จะปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 5 พฤษภาคม เป็นต้นไป
ส่วน วันที่ 6 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ยังพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท แล้วเสด็จ ณ ออกสีหบัญชร เพื่อให้ประชาชนเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล ซึ่งจะมีการลดระดับการปิดการจราจรลง เหลือ 33 สาย ได้แก่ 1.ถ.ราชินี จากแยกผ่านพิภพ ถึงใต้สะพานพระปิ่นเกล้า 2.ถ.ราชดำเนินใน จากแยกผ่านพิภพ ถึงแยกป้อมเผด็จ 3.ถ.สนามชัย 4.ถ.หน้าพระธาตุ 5.ถ.พระจันทร์ 6.ถ.หน้าพระลาน 7.ถ.มหาราช 8.ถ.ท้ายวัง 9.ถ.หับเผย 10.ถ.หลักเมือง 11.ถ.กัลยาณไมตรี 12.ซ.สราญรมย์ 13.สะพานสมเด้จพระปิ่นเกล้า ถึงแยกผ่านพิภพ 14.ถ.ราชดำเนินกลาง จากแยกผ่านพิภพ ถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 15.ถ.ราชบพิธ 16.ถ.บำรุงเมือง จากสี่กั๊กเสาชิงช้า ถึงแยกศิริพงษ์ 17.ถ.เจริญกรุง จากสี่กั๊กพระยาศรี ถึงแยกเฉลิมกรุง 18.ถ.บ้านหม้อ จากสี่กั๊กพระยาศรี ถึงแยกบ้านหม้อ 19.ถ.อัษฎางค์ จากแยกสะพานมอญ ถึงแยกพระพิทักษ์ 20.ถ.ตะนาว จากแยกคอกวัว ถึงสี่กั๊กเสาชิงช้า 21.ถ.เฟื่องนคร 22.ถ.ราชินี จากแยกผ่านพิภพ ถึงแยกพระพิทักษ์ 23.ถ.พระพิพิธ จากถ.สนามไชย ถึงแยกพระพิทักษ์ 24.ถ.มหาราช จากท่าพระจันทร์ ถึงแยกปากคลองตลาด 25.ถ.ท้ายวัง 26.ถ.เชตุพน 27.ซ.เศรษฐการ 28.ถ.พาหุรัด 29.สะพานพุทธยอดฟ้า 30.ถ.ตรีเพชร 31.ถ.ตรีทอง 32.ถ.ใต้สะพานพระพุทธยอดฟ้า 33.ถ.จักรเพชร จากปากคลองตลาด ถึงหน้าวัดเลียบ
ทั้งนี้ ในวันเดียวกันนี้จะมีการจัดการเดินรถทางเดียว 3 สายด้วยกัน ประกอบด้วย 1. ถ.จักรพงษ์ จากแยกบางลำพู ถึงแยกผ่านพิภพ 2.ถ.เจ้าฟ้าจากแยกผ่านพิภพ ถึงถ.พระอาทิตย์ 3.ถ.พระอาทิตย์ จากใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ถึงแยกบางลำพู โดยจะทำการปิดการจราจรในเวลา 06.00 น. และประตูคัดกรองเปิดเวลา 08.00 น.
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่า สตช.ได้ประสานภาคส่วนต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมงานทั้งทางรถ ทางราง และทางเรือ ดังนี้ ทางรถ ได้จัดจุดจอดรถไว้ 27 จุด อาทิ เมืองทองธานี, เซ็นทรัลพระราม 2, เซ็นทรัลศาลายา, ลานพุทธมณฑลสาย 4, สโมสรตำรวจ, เซ็นทรัลเวสเกต, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ฯลฯ รองรับจำนวน 35,400 คัน ซึ่งประชาชนสามารถขับรถมาจอดได้ตามจุดเหล่านี้ รวมถึงจุดจอดรถบัสและรถตู้สำหรับประชาชนที่มาเป็นหมู่คณะ 7 จุด อาทิ ถนนพุทธมณฑลสาย 1 2 3 4 ถนนกาญจนาภิเษก ฯลฯ รองรับจำนวน 3,400 คัน จากนั้นสามารถนั่งรถชัตเตอร์บัสเข้ามายัง 6 จุดรอบพื้นที่รอบนอกงานพระราชพิธี ได้แก่ บ้านมนังคศิลา, บ้านพิษณุโลก, สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า, สะพานพระราม 8, วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร และสะพานพุทธฝั่งกรุงเทพมหานคร เพื่อเดินเท้าเข้ามา โดยทั้ง 6 จุดนี้จะเป็นจุดพักของประชาชนและเป็นที่ตั้งของโรงเลี้ยงพระราชทาน ในการพระราชทานอาหารแก่ประชาชน
ทางรถไฟ จัดจุดบริการประชาชนไว้ 3 ทิศ ได้แก่ ทิศเหนือและทศตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงทิศตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือ ให้มาลงสถานียมราช และทิศใต้ ให้มาลงสถานีธนบุรี
และทางเรือ จัดจัดบริการไว้ 2 ทิศ ได้แก่ ทิศเหนือ ลงที่ท่าเรือธนบุรีหรือท่าเรือกระทรงพาณิยชน์ มาขึ้นที่ท่าเรือบางลำภูหรือท่าเรือปิ่นเกล้า, ทิศใต้ ลงที่ท่าเรือสาธรและท่าเรือวัดอรุณฯ มาขึ้นที่ท่าเรือสะพานพุทธ ท่าเรือยอดพิมาน และท่าเรือปากคลองตลาด อีกทั้งสามารถใช้คลองแสนแสบมาขึ้นที่ที่ท่าเรือผ่านฟ้าหรือคลองผดุงกรุงเกษม และจากหัวลำโพงมาขึ้นที่ท่าเรือวัดมกุฎกษัตริย์แล้วเดินเท้าเข้าสู่เขตพื้นที่จัดงานพระราชพิธี
นอกจากนี้ ได้จัดเส้นทางเดินรถฉุกเฉิน และจุดจอดรถพยาบาล 13 จุด เพื่อส่งประชาชนเจ็บป่วยที่มาร่วมงานไปยังโรงพยาบาลโดยมีจราจรโครงการพระราชดำริคอยประกบรถพยาบาลนำออกนอกพื้นที่ ฉะนั้นประชาชนที่เจ็บป่วยมั่นใจได้ว่าเราจะสามารถดูแลได้อย่างรวดเร็ว
พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าวต่ออีกว่า สำหรับแผนปิดการจราจร การเปิดจุดคัดกรอง และแผนต่างๆข้างต้นนั้น ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุดแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ อาจมีการปรับในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอีกครั้ง แต่ถือว่าแผนส่วนใหญ่หลายฝ่ายที่ร่วมจัดงานได้เห็นชอบแล้ว
ขณะเดียวกัน นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวบรรยายเรื่อง “แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์และพิธีทำน้ำอภิเษก” ว่า มท.ได้จัดเตรียมความพร้อมพิธีทำน้ำอภิเษก ในพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 107 แห่งใน 76 จังหวัดทั่วประเทศตามโบราณราชประเพณีพร้อมกันในวันที่ 6 เมษายน คืบหน้าไปร้อยละ 90 แล้ว เหลือเพียงการตกแต่งเชิงกายภาพเพื่อให้สมพระเกียรติ อาทิ การปลูกต้นปอเทืองสีเหลือง ซึ่งพร้อมจะบานสะพรั่งในวันที่ 6 พฤษภาคม นอกนั้นถือว่าพร้อมหมดแล้ว โดยเฉพาะคุณภาพน้ำของแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ และการตกแต่งเชิงกายภาพต่างๆ ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มท.ที่ได้กำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ในวันที่ 6, 8 และ 9 เมษายน ซึ่งจะมีพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ พิธีทำน้ำอภิเษก เจริญพระพุทธมนต์ และเวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษก ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศเป็นประธาน
ขอเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยพร้อมใจแต่งกายสีเหลืองเข้าร่วมพิธีต่อไป
