เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 6 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ โดยรอบพระบรมมหาราชวัง และสนามหลวงพื้นที่จัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าประชาชนต่างพร้อมใจสวมเสื้อเหลือง ทยอยเดินทางเพื่อจับจองพื้นที่รอเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการเสด็จออกสีหบัญชร ณ พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท ในเวลา 16.30 น. ตามหมายกำหนดการ
แม้อากาศจะค่อนข้างร้อน แต่ก็ไม่ทำให้ประชาชนเกิดความย่อท้อ โดยแต่ละคนมีการเตรียมความพร้อม เตรียมพกอุปกรณ์สำหรับกันแดดและคลายร้อน อาทิ ร่ม หมวก แว่นตากันแดด พัด ฯลฯ พร้อมเครื่องดื่มดับกระหายมาอย่างครบครัน
ทั้งนี้ การประปานครหลวง (กปน.) ได้นำกระบอกน้ำ ซึ่งมีการประทับตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 จำนวน 300,000 ใบ พร้อมแผ่นพับที่ระลึกพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ไปแจกจ่ายประชาชนบริเวณจุดคัดกรอง 6 โซน ก่อนที่ประชาชนจะเข้าสู่พื้นที่จัดพระราชพิธีฯ ประกอบด้วย โซน 1 สะพานพระปิ่นเกล้า ท่าช้าง สนามหลวง (ฝั่งถนนหน้าพระธาตุ) และพระแม่ธรณี โซน 2 ถนนจักรพงษ์ (พิพิธภัณฑ์เหรียญ) ถนนข้าวสาร (ก่อนตัดถนนตะนาว) ถนนตะนาวฝั่งใต้ ถนนบูรณศาสตร์ ถนนบุญศิริ (ก่อนถนนอัษฎางค์) และสะพานช้างโรงสี
โซน 3 แยกบางลำพู โซน 4 เชิงสะพานวันชาติ แยกผ่านฟ้า (ถนนนครสวรรค์) แยกผ่านฟ้า (ถนนหลานหลวง) แยกผ่านฟ้า (ถนนดำรงรักษ์) ถนนมหาไชย (วัดราชนัดดา) และถนนดินสอฝั่งใต้ โซน 5 แยกเสาชิงช้า แยกเฉลิมกรุง และวงเวียน สน.พระราชวัง โซน 6 ท่าเตียน และโรงเรียนราชินี โดยประชาชนสามารถนำกระบอกน้ำไปเติมน้ำดื่มตามจุดบริการน้ำดื่มได้
น.ส.สุนีย์รัตน์ เตชาภิวัฒน์ สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร (กทม.) ดูแลจุดคัดกรองโซน 1 สะพานพระปิ่นเกล้าท่าช้าง สนามหลวง (ฝั่งถนนหน้าพระธาตุ) กล่าวว่า โซนที่ 1 เตรียมกระบอกน้ำไว้แจกจ่ายประชาชน กว่า 18,000 ใบ พร้อมแผ่นพับที่ระลึกพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เริ่มแจกตั้งแต่เวลา 10.30 น. พบว่าประชาชนต่างปลื้มปีติ และรู้สึกดีใจที่ได้รับของที่ระลึก ซึ่งจะมีแจกเฉพาะวันนี้วันเดียว แม้อากาศจะร้อน แต่ก็พบว่า มีประชาชนทยอยเดินทางเข้าร่วมพระราชพิธีฯ จำนวนมาก
นางมานี สิทธิกุลสวัสดิ์ อาชีพรับจ้างทั่วไป กล่าวว่า เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนบ้าน รวม 3 คน มาเฝ้าฯ รับเสด็จตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม และวันที่ 6 พฤษภาคม ตั้งใจมาเฝ้าฯ ชมพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนตัวรู้สึกตื้นตันใจ และปลื้มปีติกับพระราชพิธีฯ ครั้งนี้ รู้สึกดีใจเหมือนประชาชนมีที่พึ่ง ตั้งใจจะทำความดี สานต่อพระราชปณิธานของในหลวง รัชกาลที่ 10 ที่ทรงสืบสาน รักษาต่อยอดพระราชกรณียกิจของในหลวง รัชกาลที่ 9 ส่วนของที่ระลึก ตั้งใจจะเก็บรักษาไว้อย่างดี
นางวรรณี เชษฐษิริ ข้าราชการครูเกษียณ อายุ 68 ปี กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยเพื่อน เดินทางมาร่วมพระราชพิธีฯ เป็นวันที่ 2 รู้สึกดีใจ ภูมิใจ และปลื้มใจ เป็นอย่างมาก ถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต ที่ได้เข้าร่วมพระราชพิธีฯ ที่ยิ่งใหญ่ของชาวไทย สำหรับของที่ระลึกที่ได้รับครั้งนี้นั้น ตั้งใจจะเก็บรักษาอย่างดี รวมกับของที่ระลึกที่เคยได้ในพระราชพิธีสำคัญสมัยในหลวง รัชกาลที่ 9 โดยไม่นำออกมาใช้ เพื่อเก็บรักษาไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชมในอนาคต
นายสุวิทย์ แป้นทอง อายุ 19 ปี ชาว จ.ภูเก็ต กล่าวว่า เดินทางมารอร่วมพระราชพิธีฯ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม เพราะอยากมีส่วนร่วมในพระราชพิธีสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต โดยตั้งใจจะทำตามพระราชปณิธาน ในการเป็นจิตอาสา ช่วยเหลือสังคมในด้านต่าง ทั้งนี้ ได้มีโอกาสรับกล่องข้าวที่ระลึก จากการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งข้างในบรรจุข้าว ไก่ทอด พร้อมรับประทาน จากนี้ตั้งใจจะเก็บไว้เป็นที่ระลึก เพราะทำขึ้นมาเป็นพิเศษ
