เมื่อเวลา 17.14 น. วันที่ 28 กรกฎาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีศุภมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2562 ทรงตั้งสมณศักดิ์บรรพชิตจีนและญวน ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และการเฉลิมพระนามสมเด็จพระสังฆราชเจ้า และสถาปนาสมณศักดิ์ เจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา, สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร โดยเสด็จด้วย
เมื่อเสด็จฯ ถึง รถยนต์พระที่นั่งเทียบที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เสด็จฯ ไปยังมุขหน้าพระอุโบสถ ทรงตั้งสมณศักดิ์-บรรพชิตจีนและญวน บรรพชิตจีนและญวนถวายพระพร แล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร และพระพุทธรูปฉลองพระองค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการแล้ว ทรงจุดธูปเทียนบูชาเทวดานพเคราะห์ พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ โหรหลวงบูชาเทวดานพเคราะห์ เสด็จลงมุขหน้าพระอุโบสถ พระราชทานราชสังคหวัตถุแก่ข้าละอองธุลีพระบาทผู้สูงอายุฝ่ายหน้า-ฝ่ายใน จำนวน 68 คน
**เฉลิมพระนามสมเด็จพระสังฆราชเจ้า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ จากพระอุโบสถ ไปประทับรถยนต์พระที่นั่งที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ไปเทียบที่หน้าพระทวารเทเวศรรักษา เสด็จเข้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์ กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อ่านประกาศพระบรมราชโองการเฉลิมพระนามสมเด็จพระอริยวงศาสคตญาณ (วาสน์ วาสโน) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พระราชอุปัธยาจารย์ และสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร พระราชกรรมวาจาจารย์ เป็นสมเด็จพระสังฆราชเจ้า จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปถวายพระสุพรรณบัฏบนพานแว่นฟ้ากลีบบัวประดับมุก และพัดยศหน้าพระรูปสมเด็จพระสังฆราชเจ้า พระสงฆ์ 10 รูป เจริญชัยมงคลคาถา
**สถาปนาสมณศักดิ์
ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ อาลักษณ์อ่านประกาศพระบรมราชโองการสถาปนาสมณศักดิ์สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะเจ้าคณะรอง จบแล้ว ทรงประเคนสุพรรณบัฏ หิรัญบัฏ พัดยศ ผ้าไตร เครื่องประกอบสมณศักดิ์แด่สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะเจ้าคณะรองที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาแล้ว ทรงประเคนสัญญาบัตร พัดยศ ผ้าไตรแด่พระสงฆ์ซึ่งได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ใหม่อีกตามลำดับ พระสงฆ์ 10 รูป เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ พระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ ถวายอนุโมทนา สมเด็จพระราชาคณะถวายอดิเรก
**เจริญพระพุทธมนต์
เจ้าพนักงานกองศาสนูปถัมภ์ กรมการศาสนา นิมนต์พระสงฆ์ 68 รูป ซึ่งจะเจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาเข้านั่งอาสนะในพระที่นั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพระมหามงคล เทียนเท่าพระองค์และธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปเทวดานพเคราะห์ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ ทรงศีล แล้วพระสงฆ์ 68 รูปเจริญพระพุทธมนต์การพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ระหว่างพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพระที่นั่งไพศาลทักษิณทางพระทวารเทวราชมเหศวร ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระสยามเทวาธิราช แล้วเสด็จออกจากที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว สมเด็จพระราชาคณะถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสด็จฯ กลับ
**ทรงพระเจริญดังกึกก้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนสวมเสื้อสีเหลืองมาเฝ้าฯ รับเสด็จอย่างเนืองแน่นตามเส้นทางเสด็จไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต่างเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพักตร์แจ่มใส ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จ ขณะที่ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ทรงโบกพระหัตถ์ทักทายประชาชนด้วย
นางรัศมี พรตรีสัตย์ อายุ 63 ปี ชาวเขตคลองสาน กรุงเทพฯ เดินทางมากับกลุ่มเพื่อนรอเฝ้าฯรับเสด็จตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อจับจองที่นั่งบริเวณข้างข้างพระอุโบสถ ก่อนไปลงนามถวายพระพร แล้วกลับมานั่งรอท่ามกลางอากาศร้อน กล่าวทั้งรอยยิ้มว่า ทุกวันสำคัญของพระราชวงศ์ โดยเฉพาะวันเฉลิมพระชนมพรรษา จะติดตามเฝ้าฯ รับเสด็จตลอดตั้งแต่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ด้วยความรักและเทิดทูน พอมารัชกาลที่ 10 พวกเราก็รักและเทิดทูนพระองค์มิเสื่อมคลาย โอกาสนี้ ขอถวายพระพรให้พระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ ทรงเป็นมิ่งขวัญปวงชนชาวไทยตลอดไป
“รู้สึกดีใจที่ได้มาเฝ้าฯ รับเสด็จในวันนี้ ได้นั่งแถวหน้าสุด เห็นทุกพระองค์ใกล้ๆ ที่ประทับใจมากคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหันพระพักตร์มาแย่มพระสรวลให้กลุ่มของดิฉัน ที่กล่าวทรงพระเจริญสุดเสียง ทั้งได้เห็นพระราชินี ที่ทรงสง่างามและมีพระสิริโฉมงดงามมาก” นางรัศมีกล่าวด้วยน้ำเสียงปลาบปลื้ม
