เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ห้องกรุงธนบอลรูม ชั้น 3 โรงแรมรอยัลริเวอร์ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวในการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “มาตรการการส่งเสริมและป้องกันการเกิดความรุนแรงในครอบครัว” ในงานรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก และสตรี ภายใต้แนวคิด “ประสานรัก ประสานใจ ครอบครัวไทยไร้ความรุนแรง” จัดโดย พม.โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) ร่วมกับสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ว่า ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ร่วมองค์กร 11 เครือข่าย และสำนักงานกิจการและโครงการในพระราชดำริ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ที่จะมาสร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง เพื่อต่อสู้กับความรุนแรงในครอบครัว ซึ่งครอบครัวนี้จะเป็นพลังสำคัญให้กับสังคมและประเทศชาติต่อไป หวังว่าทุกคนจะทำให้สังคมเข้มแข็ง สังคมดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องช่วยกันสร้าง ทั้งนี้ หลักสำคัญที่จะทำให้ครอบครัวเข้มแข็ง จะต้องเริ่มต้นที่การเปลี่ยนตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดและหันมาให้ความรักความสนใจ เอาใจใส่กับคนรอบข้าง เช่น ลูก ภรรยา สามี พ่อแม่ปู่ย่าตายาย รวมถึงคนในครอบครัว ในการให้ความรัก ความเมตตา ให้อภัยซึ่งกันและกัน จะส่งผลให้สังคมครอบครัวสงบสุข มีสมาธิก็จะสามารถสร้างรายได้ และมีความสุขกันถ้วนหน้า
นายจุติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนได้หารือกับ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) ที่จะร่วมมือกันโดยนำพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) จับมือกับครูทุกจังหวัด ร่วมลงพื้นที่สำรวจเด็กนักเรียนในครอบครัวให้รู้และสังเกตถึงความผิดปกติตั้งแต่เริ่มต้น จะได้แก้ไขให้ทัน ขณะเดียวกันเราจะให้ความรู้หรือติดอาวุธทางปัญหาให้กับสตรีทั่วประเทศ โดยจะทำให้ได้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563 จากนั้นจะร่วมกันสร้างศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน 7,319 แห่ง ให้เข้มแข็งต่อไปเป็นขั้นที่สอง ซึ่งคาดว่าหากเราทำทั้งระยะต้นและระยะกลาง จะเป็นการวางรากฐานที่ดี อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการให้ความรู้สร้างความตระหนัก สร้างความร่วมมือให้กับสังคมไทย จะทำให้เสาเข็มหลักของประเทศ 21.5 ล้านครอบครัว เข้มแข็งได้ และจะเป็นเกราะในการต่อสู้สิ่งไม่ดีทั้งหลาย ทั้งความรุนแรงในครอบครัว ยาเสพติด สิ่งที่ไม่พึงปรารถนาทั้งหลาย
“สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงมีพระดำริว่า คนไทยขับรถปาดหน้ากันก็ยิงกันตายแล้ว คนไทยรถชนท้ายกันก็จะลงไปทะเลาะวิวาทกัน ฉะนั้นวันนี้ต้องมาตั้งสติกันใหม่ ซึ่งดีใจว่า ทรงมีพระกรุณาธิคุณ และทรงให้ความสำคัญกับปัญหานี้ด้วย ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญให้พวกเราได้เดินหน้าอย่างมั่นคงและมั่นใจ” นายจุติกล่าว
