ในหลวง พระราชทานปฏิทินหลวง2563 ครั้งแรกในรัชกาล แก่ปชช.ลงนามถวายพรวันปีใหม่

ในหลวง พระราชทานปฏิทินหลวง 2563 ครั้งแรกในรัชกาล แก่ ปชช.ลงนามถวายพร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 มกราคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สำนักพระราชวังจัดที่ลงพระนาม และลงนามถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2563 ในส่วนเชื้อพระวงศ์ และราชสกุล องมนตรี ลงพระนามและลงนามถวายพระพรในอาคารหน่วยงานในพระองค์ 904 ฝั่งตะวันตก ส่วนนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตนายกรัฐมนตรี คณะทูตานุทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย ลงนามถวายพระพรในห้องแดงอาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ฝั่งตะวันออก ข้าราชการและภาคเอกชนลงนามถวายพระพรในศาลาสหทัยสมาคม และประชาชน ลงนามถวายพระพรบริเวณสนามหญ้าหน้าศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ระหว่างเวลา 09.00 – 17.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนจากทุกสารทิศพร้อมครอบครัว ใช้โอกาสวันหยุดเทศกาลขึ้นปีใหม่ มาลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน ‘ปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2563 พระราชทานสำหรับความสุขปีใหม่’ พระราชทานแก่ประชาชนภายหลังลงนามถวายพระพร จำนวน 60,000 ชุด ถือเป็นครั้งแรกในรัชกาลที่ 10

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรูปเล่มเป็นหน้าปกสีเหลือง ด้านบนมีพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. และมีข้อความว่า “ปฏิทินหลวง พุทธศักราช ๒๕๖๓ พระราชทานสำหรับความสุขปีใหม่” เปิดเข้ามาข้างในหน้าที่ 2 มีข้อความว่า ปฏิทินหลวง พุทธศักราช ๒๕๖๓ อธิกวาร อธิกสุรทิน เป็นปีที่ ๕ ในรัชกาล พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัตนโกสินทรศก ๒๓๘ ภายในมีเนื้อหา 21 เรื่อง อาทิ พระปฐมบรมราชโองการ ปีและศักราชทางจันทรคตินิยมอย่างไทย กาลโยค ประกาศสงกรานต์ ตารางปฏิทินย่อ ตารางวันเดือนปี อุปราคา วันหยุดราชการประจำปี การชักและประดับธงชาติในวันสำคัญ วันพระราชสมภพพระมหากษัตริย์ และสมเด็จพระราชินีนาถ และวันสำคัญของประเทศที่มีความสัมพันธไมตรีกับประเทศไทย วันประสูติสมเด็จพระสังฆราช วันพระบรมราชสมภพและวันพระราชสมภพพระบรมวงศ์ วันประสูติพระบรมวงศ์ พระอนุวงศ์ วันสำคัญทางศาสนาคริสต์ วันสำคัญทางศาสนาอิสลาม วันสำคัญทางวัฒนธรรมและประเพณีจีน ตารางเทียบปีต่างๆ เป็นต้น โดยประชาชนต่างรับปฏิทินหลวงพระราชทานด้วยสีหน้าแช่มชื่น

Advertisement

นางสาวกัณจนา มาลัยทอง อายุ 64 ปี มาพร้อมเพื่อนที่เดินทางมาจากแคนาดา ถือพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉายคู่กับ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มาด้วย กล่าวด้วยสีหน้าซาบซึ้งว่า เดินทางมาจากจังหวัดลำปางก่อนปีใหม่ เพื่อตั้งใจมาลงนามถวายพระพรพระองค์ ส่วนที่นำพระบรมฉายาลักษณ์มาด้วย เป็นสิ่งที่ตนพกไปตลอดเวลาลงนามถวายพระพร เพราะอยากให้รู้ว่าเรารักในหลวงมาก โอกาสนี้ขอให้พระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นมิ่งขวัญปวงชนชาวไทยตลอดไป

“ดีใจมากที่มาลงนามถวายพระพร แล้วได้รับพระราชทานปฏิทินหลวงเป็นครั้งแรก ดิฉันจะเก็บไว้บูชาและนำกลับไปให้แม่ดูที่ลำปาง อย่างไรก็ตาม ดิฉันจะยึดมั่นในการทำจิตอาสา เพื่อจะทำความดีทุกอย่าง เพื่อเป็นราษฎรที่ดีเป็นแบบอย่างแก่ชาติบ้านเมืองต่อไป” นางสาวกัณจนากล่าวทั้งยกพระบรมฉายาลักษณ์ขึ้นเหนือหัว

Advertisement
ครอบครัวนางสาวกัณจนา มาลัยทอง

นายเด่นทนุ เถาธรรมพิทักษ์ อายุ 49 ปี สวมใส่เสื้อสีเหลืองมาพร้อมครอบครัว จากย่านรามอินทรา กรุงเทพฯ เล่าด้วยสีหน้าประทับใจพลางยกมือขึ้นเหนือหัวว่า ปกติมีลงนามถวายพระพรที่ไหน ก็จะพาครอบครัวไปลงนามตลอด เช่นเดียวกับวันขึ้นปีใหม่นี้ หลังกลับจากท่องเที่ยวต่างจังหวัด ก็พาครอบครัวมาลงนามถวายพระพร ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสถาบันพระมหากษัตริย์ จากนั้นตั้งใจอยากพาครอบครัวมาไหว้สักการะขอพรพระแก้วมรกต ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เนื่องในวันขึ้นปีใหม่

“ปกติมาลงนามถวายพระพรช่วงปีใหม่ที่พระบรมมหาราชวังตลอด แต่ปีนี้ได้รับพระราชทานปฏิทินหลวงเป็นครั้งแรก รู้สึกดีใจอย่างมาก จะเก็บไว้บูชา และขอน้อมนำพรพระราชทานเนื่องในวันปีใหม่ 2563 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะประโยคที่ว่าทุกคนล้วนมีสิ่งผิดพลาด หากจะนำมาปรับปรุงพัฒนาแก้ไขให้ดีขึ้นได้ มาปฏิบัติ” นายเด่นทนุกล่าว

ครอบครัวนายเด่นทนุ เถาธรรมพิทักษ์

นางสาวสุจิตรา ศรีเงินยวง อายุ 34 ปี จูงลูกน้อยวัย 1 ขวบ มาพร้อมครอบครัว จากจังหวัดนครปฐม ตั้งใจมาลงนามถวายพระพร เล่าทั้งรอยยิ้มว่า ตนมาลงนามถวายพระพรเป็นประจำ แต่ครั้งนี้พาลูกชายมาด้วย อยากให้เขาได้สัมผัสบรรยากาศ และซึมซับในความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ทำอย่างนี้มาตลอด จนรู้สึกได้ว่าเขาชื่นชอบและติดตามมากกับพระราชกรณียกิจของสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อข่าวในพระราชสำนักมา เขาก็จะนิ่งดูตลอด หรือไปตามวัดหลวง และตามโครงการพระราชดำริ เขาก็จะตื่นตาตื่นใจตลอด

“ดิฉันและครอบครัว น้อมนำคำสอนของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์มาปฏิบัติ โดยเฉพาะทรงสอนให้รู้จักหน้าที่ของตัวเอง การมีวินัย ก็จะเป็นผลดีแก่ตัวเองรวมถึงการเป็นลูกที่ดีแก่พระองค์ และลูกที่ดีแก่พระในบ้าน ก็จะเป็นผลดีต่อตัวเอง ครอบครัว และชาติบ้านเมือง” นางสาวสุจิตรากล่าว

ครอบครัวนางสาวสุจิตรา ศรีเงินยวง

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image