เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา เสด็จแทนพระองค์ ถวายเครื่องราชพระพุทธอังคีรส สมโภชวัดราชบพิธฯ150ปี

เมื่อเวลา 16.57 น. วันที่ 21 มกราคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จแทนพระองค์ไปทรงถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นโบราณมงคล นพรัตนราชวราภรณ์ เป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธอังคีรส และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสมโภชวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ครบ 150 ปี แห่งการสถาปนา ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยมี คณะกรรมการฝ่ายฆราวาส ไวยาวัจกร ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดราชบพิธ ผู้บริหารโรงเรียนวัดราชบพิธ เฝ้ารับเสด็จ

จากนั้น เสด็จไปยังพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงวางพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ทรงกราบ เสด็จเข้าพระอุโบสถ เสด็จไปที่หน้าพระพุทธอังคีรส ประธานพระอุโบสถ การนี้ ทรงถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นโบราณมงคล นพรัตนราชวราภรณ์ เป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธอังคีรสเป็นราชสักการะพิเศษ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร ดุริยางค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธอังคีรส ประธานพระอุโบสถ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระราชสรีรางคาร สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 ทรงกราบ

ต่อจากนั้น เสด็จไปทรงประเคนพัดรองที่ระลึกงานสมโภชวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ครบ 150 ปี แห่งการสถาปนา แด่พระสงฆ์จำนวน 10 รูป ถวายความเคารพพระราชอาสน์ ประทับพระเก้าอี้ ทรงศีล เมื่อประธานสงฆ์ถวายศีล จบแล้ว เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์สมโภชวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ครบ 150 ปีแห่งการสถาปนา เมื่อถึงบทเสกน้ำพระพุทธมนต์ เสด็จไปทรงจุดเทียนที่ครอบเฟือง หน้าประธานสงฆ์ ทรงประเคนครอบเฟืองแด่ประธานสงฆ์ ประทับพระเก้าอี้ เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบแล้ว เสด็จไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม ประทับพระเก้าอี้ ณ ที่เดิม ทรงหลั่งทักษิโณทก จากนั้น พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก

Advertisement

การนี้ เสด็จไปยังมณฑปเพลิงเบื้องหน้าพระพุทธอังคีรส ประธานพระอุโบสถ ทรงรับเทียนชนวนจากเจ้าพนักงาน จากนั้นทรงจุดไฟจากโคมไฟฟ้าที่เจ้าพนักงานพระราชพิธีชูถวาย ทรงจุดเทียนในมณฑปเพลิง พระราชทานไฟให้ประชาชนต่อเทียนสำหรับเวียนเทียนสมโภชพระอาราม เสด็จไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ต่อจากนั้น สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เจ้าอาวาสวัดราชบพิธ ถวายของที่ระลึก

Advertisement

จากนั้น เสด็จออกจากพระอุโบสถ เลี้ยวขวาไปตามลานไพที ทอดพระเนตรนิทรรศการศุภมงคลสมัย 150 ปี แห่งการสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เสด็จเข้าพระวิหารคดทางทิศตะวันออก เสด็จไปที่พระรูปสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ พระราชอุปัธยาจารย์ในรัชกาลปัจจุบัน ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง ทรงกราบ ทอดพระเนตรนิทรรศการประณีตศิลป์ที่พระบรมราชจักรีวงศ์ถวายเป็นพุทธบูชา และเครื่องไทยธรรมพิเศษ

ต่อมา เสด็จเข้าพระเจดีย์ทางประตูด้านทิศใต้ ทรงวางพวงมาลัยและทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธรูปนาคปรก ประธานพระเจดีย์ ทรงกราบ เสด็จออกจากพระเจดีย์ทางประตูด้านทิศเหนือ เสด็จไปที่พระรูปพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนนมัสการท้ายที่นั่ง ทรงกราบ เสด็จออกจากพระวิหารคดทางทิศตะวันตก เสด็จลงจากลานไพที ไปยังหน้าอาคารภุชงค์ประทานวิทยาสิทธิ์ 1 ทอดพระเนตรนิทรรศการงานศิลปกรรมวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และสุสานหลวง ต่อจากนั้น ฉายพระรูป ณ ห้องภาพฉายานิติกร แล้วเสด็จกลับ

ภายในงาน มีบุคคลสำคัญมาร่วมงานจำนวนมาก อาทิ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี , นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ , พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม, นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม., นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์

อนึ่ง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นวัดประจำรัชกาลเมื่อ พ.ศ.2412 นับเป็นพระอารามหลวงสุดท้าย ที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างตามโบราณราชประเพณีที่มีการสร้างวัดประจำรัชกาล โดยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช 3 พระองค์ คือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 11 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสนมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราชเจ้า สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 18 และ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 ทั้งยังเป็นที่ตั้งของสุสานหลวง

ในโอกาส ครบรอบ 150 ปี วันสถาปนาวัดราชบพิธฯ ได้ขอบรมราชานุญาตในหลวงรัชกาลที่ 10 จัดทำภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ทำจากกระเบื้องโมเสคภายในพระอุโบสถ ตรงช่องอุณาโลม บอกเล่าพระราชประวัติของรัชกาลที่ 5 และพระราชกรณียกิจต่างๆ ตามพระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 5 ซึ่งปรากฏในพระราชบันทึกของรัชกาลที่ 7 ว่าเป็นพระราชประสงค์ของพระราชบิดา ให้จัดทำพระราชประวัติขึ้น

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร่วมงาน “ศุภมงคลสมัย 150 ปีแห่งการสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม” ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00-21.00 น. และ 09.00-22.00 น. สำหรับวันศุกร์ – อาทิตย์ ภายในงาน มีกิจกรรมนิทรรศการแสดงเครื่องราชสักการะที่ได้รับพระราชทานถวายในโอกาสต่างๆ และสิ่งของเครื่องใช้ของอดีตเจ้าอาวาส นิทรรศการ “นำชมวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม” ให้ข้อมูลความรู้ทางศิลปสถาปัตยกรรมภายในวัด แสงเสียงและสื่อผสม ห้องภาพ “ฉายานิติกร” นิทรรศการโครงการสถานปฏิบัติธรรมสมเด็จพระสังฆราช (อมฺพรมหาเถร) คลอง 9 จังหวัดปทุมธานี ร้านขายหนังสือ และของที่ระลึกเนื่องในศุภมงคลสมัย 150 ปี แห่งการสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

สำหรับนิทรรศการแสดงเครื่องราชสักการะที่ได้รับพระราชทานถวายในโอกาสต่างๆ และสิ่งของเครื่องใช้ของอดีตเจ้าอาวาสในทุกยุค จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้สำคัญ เช่น ฝาบาตรและเชิงบาตรมุกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พุ่มเงินพุ่มทองของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพัดรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ขณะที่ นิทรรศการ “นำชมวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม” นำเสนอข้อมูลความรู้ทางสถาปัตยกรรมภายในวัด ซึ่งมีความวิจิตรงดงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมสะท้อนความเป็นไทย อาทิ พระอุโบสถซึ่งได้รับการออกแบบโดยผสมผสานรูปแบบศิลปกรรมตะวันออก-ตะวันตก และศิลปกรรมไทยรวมกันจนมีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว ภายนอกได้รับการออกแบบโดยนายช่างศิลปกรรมชั้นครูแห่งยุคคือพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ ส่วนสถาปัตยกรรมภายใน ได้รับอิทธิพลจากตะวันตก มีการตกแต่งเสาและเพดานโค้งแบบโกธิค ตกแต่งด้วยปูนปั้นลายพรรณพฤกษาผสมผสานกับลายไทย และส่วนสำคัญสุด คือการนำกระเบื้องเบญจรงค์จากประเทศจีนมาประดับอาคารส่วนต่าง ๆ โดยลายกระเบื้องเป็นฝีมือออกแบบของพระอาจารย์แดง วัดหงส์รัตนาราม ซึ่งเขียนลายต้นแบบและส่งไปผลิตที่ประเทศจีน ความงดงามเหล่านี้ได้รับการ ทำนุบำรุงดูแลรักษาอย่างดีมาตลอดระยะเวลาร่วม 150 ปี

นายนิติกร กรัยวิเชียร กล่าวว่า สำหรับ ห้องภาพฉายานิติกร ที่มาให้บริการภายในงานครั้งนี้ ได้ทำฉากขึ้นมาใหม่จากมุมสถาปัตยกรรมภายในวัดราชบพิธฯ และมีชุดไทยให้บริการในการถ่ายภาพ โดยเปิดให้ประชาชนเข้ามาถ่ายภาพได้ในราคา 99 บาท เป็นรอบๆ วันศุกร์ – อาทิตย์ ตั้งแต่ 24 มกราคม – 2 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ที่อาคารภุชงค์ประทานวิทยาสิทธิ์ 2 รายได้ทั้งหมดจะนำเข้าบำรุงพระอารม วัดราชบพิธฯ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image