ปชช.ลงนามถวายพระพร ‘ในหลวง’ จิตอาสารุ่นแรก ซาบซึ้งกิจกรรมสร้างประโยชน์สังคม
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2563 โดยมีหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ลงนามถวายพระพรชัยมงคลภายในศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ขณะเดียวกันสำนักพระราชวังได้จัดเต็นท์และโต๊ะสำหรับประชาชนลงนามถวายพระพรชัยมงคล บริเวณสนามหญ้าด้านข้างกองแพทย์หลวง ในพระบรมมหาราชวัง
เวลา 08.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา คณะรัฐมนตรี ผู้นำเหล่าทัพ และคณะทูตานุทูต อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา นายอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ลงนามถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรมมหาราชวัง
นอกจากนี้ยังมีบุคคลสำคัญเดินทางมาร่วมลงนามถวายพระพรอย่างต่อเนื่อง อาทิ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา นายกลินทร์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าไทย นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า ประชาชนจากทั่วสารทิศต่างพร้อมใจใส่เสื้อสีเหลือง ใส่แมสก์ เดินทางมาร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างไม่ขาดสาย ทั้งเดินทางมาคนเดียว ครอบครัว และหมู่คณะ ตลอดจนนำกระเช้าดอกไม้และแจกันดอกไม้มาทูลเกล้าฯ ถวาย จากนั้นจึงเดินทางไปสักการะพระแก้วมรกตที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามเพื่อความเป็นสิริมงคล
ทั้งนี้ สำนักพระราชวังได้จัดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีทางเดียว เพื่อผ่านจุดคัดกรอง วัดอุณหภูมิด้วยเทอร์โมสแกน และลงทะเบียนไทยชนะ ส่วนรถยนต์ที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่จะต้องขับผ่านน้ำยาฆ่าเชื้อ ก่อนเข้าภายในพื้นที่ และเดินออกทางประตูมณีนพรัตน์ หรือประตูสวัสดิโสภา
นางกาญจนา แสงสาด ข้าราชการบำนาญ อายุ 71 ปี ชาวบางบัวทอง กล่าวว่า เดินทางจากบ้านมาลงนามถวายพระพรตั้งแต่ 06.00 น. ด้วยความตั้งมั่นและตั้งใจ มาลงนามถวายพระพรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกปีไม่เคยขาด
“ปีนี้ได้สวดมนต์และกินเจ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ด้วย นอกจากนี้ในชีวิตประจำวันตนยังได้น้อมนำเอาศาสตร์พระราชา เช่น ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปณิธานสืบสาน รักษา ต่อยอด มาปรับใช้ในช่วงโควิด-19 ระบาด ทำให้ครอบครัวผ่านพ้นวิกฤตมาได้ ด้วยมีผักที่ปลูกหลังบ้านใช้ทำกับข้าวกินเอง ลดค่าใช้จ่ายไปได้มาก ตนจึงขอถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง ทรงพระเกษมสำราญ เป็นมิ่งขวัญของคนไทยสืบไป” นางกาญจนากล่าว
ด้าน นางขวัญเชิมรอณ สังข์ศรีขรร อายุ 66 ปี มาพร้อมกับเพื่อนจิตอาสา นางอนิตา ราศรี อายุ 63 ปี และนางขวัญใจ จันทร์อารักษ์ อายุ 63 ปี เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรี ตั้งแต่เวลา 05.00 น. กล่าวร่วมกันว่า ได้นัดหมายกันมาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงช่วยเหลือราษฎรที่เดือดร้อน ดังเช่น ในห้วงวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พระองค์พระราชทานอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ
“พวกตนจึงอยากตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณด้วยการทำความดีถวายพระองค์ ซึ่งก็ได้ร่วมสมัครเป็นจิตอาสาพระราชทาน ตั้งแต่รุ่นแรก และเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาตลอด มองว่าเป็นโครงการที่ดีมากๆ เพราะทำให้ประชาชนได้มีโอกาสทำประโยชน์ให้สังคม ทั้งยังได้พบเพื่อนใหม่ จึงเป็นกิจกรรมที่สร้างความสามัคคีและเข้มแข็งให้กับประชาชนด้วย เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ขอให้พระองค์มีพระพลานามัยแข็งแรง เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับประชาชนสืบไป” ทั้งสามกล่าว
ทั้งนี้ สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลถึงเวลา 17.00 น. ณ สนามหญ้าด้านข้างกองแพทย์หลวง ในพระบรมมหาราชวัง ขณะที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ยังมีกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติตลอดทั้งวัน และในช่วงค่ำของวันนี้จะมีกิจกรรมจุดเทียนชัยถวายพระพร และการแสดงโดรนแปรอักษร ประกอบบทเพลง เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาด้วย
