น้อมรำลึก ในหลวง ร.9 พสกนิกรถวายบังคม ‘พระบรมรูป’ ณ ปราสาทพระเทพบิดร เนืองแน่น

ปราสาทพระเทพบิดร ในพระบรมมหาราชวัง

น้อมรำลึก ในหลวง ร.9 พสกนิกรถวายบังคม ‘พระบรมรูป’ ณ ปราสาทพระเทพบิดร เนืองแน่น

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พสกนิกรเข้าถวายบังคมพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ประดิษฐานอยู่ในปราสาทพระเทพบิดร ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นครั้งแรก ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.

เวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมภริยา นำคณะรัฐมนตรี เข้ากราบถวายบังคมพระบรมรูป ในหลวงรัชกาลที่ 9 ในปราสาทพระเทพบิดรด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนจากทั่วสารทิศต่างนำพวงมาลัยดอกไม้ แต่งกายในชุดสีเหลืองและสวมใส่หน้ากากอนามัยเดินทางมายังพระบรมมหาราชวัง โดยผ่านจุดคัดกรองบริเวณหน้าประตูวิเศษไชยศรี ลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่นไทยชนะ ก่อนจะเข้าคิวเพื่อถวายบังคมพระบรมรูปในหลวงรัชกาลที่ 9 ภายในปราสาทพระเทพบิดร และด้วยประชาชนเดินทางมาเป็นจำนวนมาก สำนักพระราชวังจึงจัดให้ประชาชนเข้าถวายบังคมครั้งละ 50 คนเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยต่างเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบไปตามระเบียงคตในพระบรมมหาราชวัง ยาว 200-300 เมตร ต่างน้อมใจก้มกราบถวายบังคมด้วยความจงรักภักดีไม่เสื่อมคลาย

จากนั้นประชาชนจึงเดินทางไปสักการะพระแก้วมรกต เพื่อความเป็นสิริมงคล ขณะที่บางส่วนยังอยู่รอรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ตลอดจนร่วมกิจกรรมน้อมรำลึกในมณฑลพิธีท้องสนามหลวงด้วย

Advertisement

สำหรับพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีความสูงจากพระบาทถึงพระเศียร ขนาด 172 เซนติเมตร ความสูงฐานพระบรมรูปขนาด 7 เซนติเมตร ความสูงรวมขนาด 179 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร น้ำหนักรวม 156 กิโลเมตร หล่อด้วยโลหะบรอนซ์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จฯมาทรงประกอบพิธีบวงสรวงพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต และทรงประกอบพิธีประดิษฐานสมโภชพระบรมรูป ที่ปราสาทพระเทพบิดร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2563

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ที่ปราสาทพระเทพบิดร โดยในเวลา 08.00-14.00 น. จะเปิดให้ประชาชนเดินทางเข้าทางฝั่งประตูวิเศษไชยศรี และออกทางประตูสวัสดิโสภา ตรงข้ามกระทรวงกลาโหม และตั้งแต่เวลา 14.00 -17.00 น. จะเปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูสวัสดิโสภา

Advertisement

นางจิตตกานต์ ชัยเสรี อายุ 72 ปี ข้าราชการเกษียณ เดินทางมาคนเดียวจากบ้านพักทหารโรงพยาบาลพระมงกุฏฯ กล่าวว่า ตั้งใจเดินทางมาถวายบังคมในหลวง รัชกาลที่ 9 แม้พระองค์จะเสด็จสู่สวรรคาลัย 4 ปีแล้ว แต่ทุกวันนี้ก็ยังคิดถึงพระองค์ไม่เสื่อมคลาย ดูรูปก็ยังร้องไห้ พระองค์คือพ่อพระในดวงใจ ทรงทำความดีไว้มากมาย ทรงทำเพื่อประชาชน หาไม่ได้อีกแล้วในโลกนี้ ทุกวันนี้เดินตามรอยพระบาทด้วยการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน หลังจากนี้ ตั้งใจว่าจะเดินทางไปร่วมกิจกรรมที่ รพ.ศิริราช และร่วมจุดเทียนรำลึกพระมหากรุณาธิคุณที่สนามหลวงในช่วงค่ำต่อไป

นางเพ็ญศรี รัตนกุลโรจน์ อายุ 54 ปี ชาวปากเกร็ดเดินทางมากับน้องสาว นางกฤษณา โชติศรี อายุ 49 ปี ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เผยว่า หลังทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมชานุญาตให้เข้าถวายบังคมพระบรมรูปในหลวง ร.9 ได้ก็เตรียมตัวมาอย่างดี ฝนตกก็ไม่เป็นอุปสรรค เพราะมีทั้งร่ม ผ้าปูรองนั่ง และเสื้อกันฝน ประกอบกับมาด้วยใจที่คิดถึงในหลวง ร.9 มาก เนื่องในวันสวรรคตของพระองค์ ที่ 1 ปีมีวันเดียว จึงตั้งมั่นไว้ว่าจะมาทุกปีให้ได้ โดยวันนี้ก็มาแต่เช้าไปตักบาตรถวายพระราชกุศลให้พระองค์ก่อนที่สนามหลวง แล้วก็มาถวายบังคมพระบรมรูป ตอนที่เห็นพระบรมรูปรู้สึกปลื้มปีติและอิ่มเอมใจมากๆ มีความสุขที่ได้มาเพราะทุกวันนี้ตนและน้องสาวยังน้อมนำคำสอนของพระองค์มาใช้ตลอด ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ทำเท่าที่ทำได้ ไม่สุรุ่ยสุร่าย หิ้วตะกร้าไปตลาดไม่รับถุงพลาสติก ซึ่งทำให้ชีวิตดีขึ้นจริงๆ นอกจากนี้ ยังตั้งใจจะรอรับเสด็จในหลวง ร.10 และพระราชินี ในตอนเย็นด้วย

น.ส.ภัทรพรรณ แก้วศรีราวงษ์ อายุ 37 ปี เดินทางมาจากเขตทวีวัฒนา กทม. มากับนางพรทิพย์ แก้วศรีราวงษ์ กล่าวว่า  วันนี้เป็นวันคล้ายวันสวรรคต ร.9 คุณแม่ชวนมาปราสาทพระราชบิดร เพื่อมากราบสักการะพระบรมรูปในหลวง รัชกาลที่ 9  เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่พระองค์ท่านไม่อยู่ ยังนึกถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ตลอดเวลา รวมถึงได้เคยมีโอกาสไปเยี่ยมชมโครงการในพระราชดำริ ไม่ว่าจะเป็นโครงการชั่งหัวมัน โครงการแหลมผักเบี้ย และโครงการหุบกะพง ยิ่งประทับใจในความทุ่มเทที่พระองค์ท่านทรงทำเพื่อประชาชนชาวไทย ช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น

“คุณแม่ได้ทราบข่าวว่า ปราสาทพระเทพบิดรเปิดให้ประชาชนเข้ากราบวันนี้จึงได้รีบมาแต่เช้า เมื่อมาถึงได้มีประชาชนจำนวนมากมารอเข้าคิวกราบสักการะอยู่แล้ว ฝนตกอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่มีใครย่อท้อหรือออกจากแถวเลย เป็นอีกวันในความทรงจำ เพราะชาวไทยแสดงถึงความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และความร่มเย็นใต้พระบารมีอย่างพร้อมเพรียง” น.ส.ภัทรพรรณกล่าว

นางจิตตกานต์ ชัยเสรี
นางจิตตกานต์ ชัยเสรี
เพ็ญศรี-กฤษณา (จากซ้าย)
ภัทรพรรณ -พรทิพย์

   

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image