หญิงวัย 81 ปี “ขอสักการะพระบรมศพ” สักครั้งในชีวิต แม้ขาอ่อนแรง เดินทางลำบาก

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ที่ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประชาชนยังคงเดินทางเข้าสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และลงนามสมุดหลวงเพื่อแสดงความอาลัย แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนได้เข้าก่อนเวลาทำการในเวลา 07.20 น. ซึ่งแม้บรรยากาศจะร้อนอบอ้าวและมีสายฝนโปรยในช่วงบ่าย แต่ประชาชนยังคงเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง

น.ส.จำปี ผ่องใส อายุ 81 ปี ชาวอ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ กล่าวด้วยความตื้นตันว่า ตนเป็นคนที่ไม่รู้หนังสือ เป็นคนจนและก็ชรามากแล้ว จึงไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มีโอกาสมาถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งเมื่อมีเพื่อนบ้านชวนมา จึงตัดสินใจมา โดยนั่งรถเมล์กันมาด้วยเงินติดตัวเพียง 50 บาทเท่านั้น แม้ว่าตนจะขาอ่อนแรง ทำให้เดินทางลำบาก แถมยังต้องขึ้นรถ ลงเรือ อีก 2 -3 ต่อ แต่ตนก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ไม่หิวข้าว และกระหายน้ำสักนิด เมื่อมาถึงที่พระบรมมหาราชวังและได้ถวายสักการะแล้ว ก็รู้สึกตื้นตันใจอย่างมากที่ได้ทำตามความฝันสำเร็จ อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสมาถวายสักการะและส่งเสด็จพระองค์ท่านสู่สวรรคาลัย

“ยายเป็นคนจน และคนบ้านนอก ทั้งชีวิตไม่เคยคิดว่าจะได้รับเสด็จพระองค์ แต่มีครั้งหนึ่งเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ยายมีโอกาสได้รับเสด็จพระองค์ท่านที่อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เมื่อท่านเสด็จฯมาใกล้ๆยายได้มีโอกาสก้มกราบแทบเท้าพระองค์ แค่นี้ก็เป็นปลื้มหัวใจทั้งชีวิต เมื่อรู้ว่าท่านสวรรคต ยายก็ไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสมาหรือไม่ เพราะยายไม่รู้ทาง และไม่รู้หนังสือ จนมีเพื่อนชวนมาจึงได้โอกาสมา แค่ได้กราบพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ยายก็คงนอนหลับฝันดีไปอีกหลายคืนแล้ว” น.ส.จำปี กล่าว

นางเพลินพิศ เกิดศิริ อายุ 67 ปี ชาวอ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อนบ้านที่เดินทางมาพร้อมกับ น.ส.จำปี กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เปรียบเสมือนกับพ่อของตน เพราะพ่อของตนเกิดวันเดียวกับพระองค์ จึงมีความผูกผันกันพระองค์เป็นพิเศษ เมื่อพ่อของตนได้เสียชีวิตลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตนจึงเหมือนเหลือพ่อเพียงคนเดียว ซึ่งก็คือพระองค์ เมื่อพระองค์สวรรคต ตนจึงมีความรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เปรียบเสมือนขาดเสาหลักในชีวิต จึงตั้งปณิธานว่า อย่างน้อยครั้งหนึ่งจะต้องมากราบพระบรมศพของพระองค์ให้ได้ โดยได้ออกเดินทางมาด้วยรถเมล์ ตั้งแต่ 8.00 น. หลังจากนั้นต่อด้วยท่าเรือพระประแดง และนั่งรถเมล์อีกต่อใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงจนมาถึงพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเมื่อได้กราบพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์แล้ว ตนรู้สึกเป็นปีติชุ่มชื่นหัวใจอย่างมาก

Advertisement

S__3743948

S__3743950

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image