พสกนิกรต่างยิ้มสู้ ต่อแถวสักการะพระบรมศพ แม้จะมีฝน – แดด ตลอดเช้า

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น.ทุกวัน เป็นวันที่ 9 สำนักพระราชวังเปิดให้พสกนิกรเข้าถวายสักการะก่อนเวลาจริงตั้งแต่เวลา 04.30 น. ผ่านทางประตูวิเศษไชยศรี สู่ประตูพิมานไชยศรี เข้าสู่กำแพงแก้วของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเพื่อขึ้นไปถวายสักการะพระบรมศพฯ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ซึ่งเมื่อเวลา 08.00 น. มีฝนลงเม็ดเล็กน้อย

ต่อมาเวลา 08.30 น. สำนักพระราชวังเปิดให้นักท่องเที่ยวซื้อบัตรเที่ยวชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และได้เปลี่ยนมาให้พสกนิกรเข้าถวายสักการะทางประตูมณีนพรัตน์ ผ่านระเบียงคด และพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เข้าสู่กำแพงแก้วของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเพื่อขึ้นไปถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ และเดินออกทางประตูสรีสุนทรและเทวาภิรมย์ แต่พสกนิกรที่นั่งบนรถวีลแชร์เข้าทางประตูวิเศษไชยศรีตามเดิม

S__44605485

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศยังเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศอย่างล้นหลามด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ตลอดทั้งวัน เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ความยาวของแถวยาวตลอดบริเวณรอบสนามหลวงจากทิศใต้ไปยังทิศเหนือและวกเข้าสู่ช่วงกลางสนามหลวง สำหรับสภาพอากาศบริเวณพระบรมมหาราชวังและท้องสนามหลวงค่อนข้างร้อนอบอ้าวแต่ประชาชนทุกคนต่างเข้าแถวรอโดยไม่ปริปากบ่น ทั้งเด็กและเยาวชน ตลอดจนผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ที่ต่างยิ้มสู้ เพราะทุกคนต่างมีจุดหมายเดียวกันเพื่อเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ สักครั้งหนึ่งในชีวิต

Advertisement

นางบุญชิด รางสุดชาติ อายุ 68 ปี และนางสำริด ดีขำ อายุ 63 ปี สองพี่น้องเดินทางจากจังหวัดราชบุรี โดยนางสำริด กล่าวว่า เดินทางออกจากราชบุรี ตั้งแต่เวลา 03.00 น. เดินทางมาถึงท้องหนามหลวงราว 05.00 น. โดยมีผู้เดินทางมาพร้อมกันกว่า 50 คน ด้วยรถบัสฟรี จากบริษัท โมเดิร์นบัส จำกัด หลังจากนั้นก็ได้ต่อแถวเพื่อเข้าสักการะพระบรมศพฯ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ซึ่งตนทั้งรู้สึกเสียใจและปลาบปลื้มใจที่ได้มาถวายสักการะพระศพ ส่วนนางบุญชิด บอกว่า ตนเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านเมื่อ 30-40 ปีก่อน เงินเดือนเพียงไม่กี่ร้อยบาท ตนรู้สึกปลาบปลื้มใจที่ได้มาถวายสักการะพระองค์ เหมือนหายใจไม่ออก พูดไม่ออก แม้ว่าตนจะไม่เคยมีโอกาสได้รับเสด็จหรือใกล้ชิดพระองค์แต่รับรู้ตลอดว่าพระองค์ทรงทำทุกอย่างเพื่อคนไทย ได้ติดตามพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านผ่านทางโทรทัศน์ และเมื่อมีกิจการหรืองานที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ก็จะเข้าร่วมทุกครั้งเท่าที่จะทำได้

นางสำริดและบุญชิด
นางสำริดและบุญชิด

นางสาววราพร โสภี อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ ปัจจุบันอาศัยอยู่จังหวัดชลบุรี เดินทางพร้อมลูกสาว ด.ญ. บัณฑิตา ฉลองภูมิ อายุ 6 ปี และหลาน ด.ช.ชนะชล ศรปัญญา อายุ 10 ปีและด.ญ.ธีราภรณ์ กงทอง อายุ 14 ปี กล่าวว่า เดินทางออกจากที่พักในจ.ชลบุรีตั้งแต่ 2 ทุ่ม หลังจากนั้นได้ไปพักบ้านญาติแถว มหาชัย สมุทรสาคร ก่อนจะเดินทางมาถึงบริเวณท้องสนามหลวงเพื่อต่อแถวเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ โดยได้เข้าถวายสักการะประมาณ 8.10 น. รู้สึกตื้นตันใจมากที่ได้เข้าถวายสักการะพระองค์ท่าน ที่ผ่านมาพระองค์ท่านทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรชาวไทยทุกคน ถ้ามีโอกาสก็จะเดินทางมาอีกครั้งแน่นอน

S__44605475_0
นางสาววราพร โสภี และลูกๆ

นางสาวรัตนา คะเชนร์มัย อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดชัยภูมิ เดินทางพร้อมแฟนหนุ่มชาวสก็อตแลนด์ กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าพร้อมทั้งสะอื้นไประหว่างให้สัมภาษณ์ ว่า เมื่อทราบข่าวการสวรรคตก็เสียใจเป็นอย่างมาก โดยตนมีความประทับใจที่แม้ในหลวงร.9จะเป็นพระมหากษัตริย์ สามารถอยู่อย่างสุขสบาย แต่พระองค์ก็ยังทรงงานหนักเพื่อพสกนิกรทุกคน เดินทางไปในถิ่นทุรกันดารต่าง ๆ เพื่อพัฒนาประเทศไทยและสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ได้รับรู้เกี่ยวกับในหลวงมาตั้งแต่เกิด ซึ่งตนเดินทางออกจากชัยภูมิมาถึงตอน 04.00 น. เพื่อมาเข้าแถวรอถวายสักการะ

Advertisement

นาย Alaster Hughes อายุ 51 ปี ชาวสก็อตแลนด์ กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่เมืองไทยมา 10 กว่าปี รับรู้เรื่องเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 อยู่บ้าง จึงรู้สึกเสียใจไปกับประชาชนชาวไทยที่ได้สูญเสียพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ และเข้าใจคนไทยที่อยู่ในช่วงที่ยากลำบาก

S__44605477
นางสาวรัตนา คะเชนร์มัย และนาย Alaster Hughes

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พสกนิกรถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศแล้วเสร็จ ได้เดินออกทางประตูสรีสุนทร ก่อนผ่านประตูเทวาภิรมย์ สำนักพระราชวังได้แจกภาพพระบรมโกศพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ให้แก่พสกนิกรที่เข้าถวายสักการะ รวมทั้ง สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี ได้นำเมล็ดพันธุ์ข้าว จากกรมการข้าวกว่า 30,000 ถุง มาแจกให้กับพสกนิกรที่เข้าถวายสักการะพระบรมศพด้วย

โดย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงได้รับการเทิดพระเกียรติให้ทรงเป็นพระบิดาแห่งข้าวไทย และทรงเป็นนักพัฒนาพันธุ์ข้าว จึงได้คัดเลือกพันธุ์ข้าวพระราชทานจาก กรมการข้าวมาแจกจ่ายให้กับประชาชน โดยก่อนหน้านี้แจกจ่ายวันละ 12,000 ถุงต่อวัน ซึ่งไม่เพียงพอกับประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะมีจำนวนมาก จึงได้เพิ่มจำนวนเป็น 30,000 ถุงต่อวัน ก็แจกจ่ายจนหมด อย่างไรก็ตาม สำนักปลัดนายกฯ จะมีการแจกจ่ายข้าวตลอดงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ตลอด 100 วัน

S__44605483

S__44605489

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image