นักศึกษา มข.ขอน้อมนำความ ‘กตัญญู’ ที่ทรงมีต่อสมเด็จย่าเป็นแบบอย่างชีวิต

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศในช่วงบ่ายภายในพระบรมมหาราชวัง วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนแต่พสกนิกรทั่วทุกสารทิศยังคงไม่หวั่นทั้งศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ และอิสลาม มาเข้าแถวรอคิวอย่างใจจดใจจ่อเพื่อถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ

น.ส.ปราณชนก กลมแสง ชั้นปีที่ 4 คณะสาธารณสุขศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อม และอาชีวะอนามัยและความปลอดภัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.)มาพร้อมกับคณะอาจารย์และเพื่อนนักศึกษารวม 40 คน กล่าวว่า ได้เดินทางมาจากจังหวัดขอนแก่นตั้งแต่ 19.00 น.ของเมื่อคืน แล้วเดินทางต่อมาถึงกทม.ในเวลา 02.00 น. และต่อคิวทันที

“จริงๆ มีความตั้งใจอยากจะมากราบสักการะพระบรมศพตั้งแต่ทราบข่าว ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับทราบข่าวพระองค์ในข่าวพระราชสำนัก ได้ซึมซับมาตั้งแต่เด็ก โดยส่วนตัวได้นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันอย่างการใช้สิ่งของให้คุ้มค่าและมีประโยชน์มากที่สุด นอกจากนี้เรื่องความกตัญญูก็ยึดจากพระองค์ที่เห็นพระองค์ทรงปฏิบัติต่อสมเด็จย่า ตอนนี้เรายังอยู่ในวัยเรียนสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การตั้งใจเรียน ใช้จ่ายอย่างประหยัด จ่ายเท่าที่จำเป็น ถือเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้ครอบครัว” น.ส.ปราณชนก กล่าว

 

Advertisement
น.ส.ปราณชนก กลมแสง (คนที่ 2 จากซ้าย)
น.ส.ปราณชนก กลมแสง (คนที่ 2 จากซ้าย)

 

นางฉัตร์สรวง หทัยนิรมล อายุ 58 ปี ชาวอ.เมือง จ.สมุทรปราการ เดินทางมาพร้อมเพื่อนบ้าน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ เพราะในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ดี ขนาดพระองค์ทรงพระประชวรก็ยังทรงงานหนักจนวาระสุดท้าย รู้สึกปลื้มใจที่ได้เกิดในประเทศไทยและเป็นพสกนิกรของพระองค์ และดีใจที่ได้มีโอกาสเข้ากราบสักการะพระบรมศพ

 

Advertisement
นางฉัตร์สรวง หทัยนิรมล (ขวาสุด)
นางฉัตร์สรวง หทัยนิรมล (ขวาสุด)

 

นายสุไลหมาน บุญชู สมาชิกอบต. อ่าวลึกน้อย จ.กระบี่ พร้อมสมาชิกจากจักหวัดอื่นๆ ทางภาคใต้ จำนวน 47 คน เผยว่าออกเดินทางมาจากกระบี่ตอน 4 ทุ่มของวันที่ 16 พฤศจิกายนมาถึงเวลา 04.00 น. และรอเข้าถวายสักการะทันที เห็นบรรยากาศที่มีผู้คนมารอเข้าหาพ่อหลวงรู้สึกตื้นตันใจ เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้มาหาในหลวงรัชกาลที่ 9

“จำความได้ว่าพระองค์เสด็จฯ มาศึกษาพื้นที่พัฒนาความเป็นอยู่ของชาวกระบี่บ่อยๆ เมื่อก่อนเด็กๆ เคยได้เฝ้าฯ รับเสด็จ พระองค์ทรงงานสร้างศูนย์พัฒนาเด็กที่อ่าวลึกน้อย มีการอบรมการทำเกษตรพอเพียง ให้ชาวบ้านรู้จักเกษตรยั่งยืน ผมเป็นคนอิสลามพอเข้าไปก็ขอพรให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย แล้วน้อมจิตขอบคุณพระองค์ที่ทำให้คนไทยมากมายขนาดนี้” นายสุไลหมาน กล่าว

ด้านนายบุขอรี บุญชู อายุ 36 ปี สมาชิกอบต.กระบี่ กล่าวว่า เป็นบุญของตนเองอย่างมากที่ได้ร่วมมาถวายสักการะพระบรมศพ รู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้เกิดในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ได้เกิดใต้ร่มพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพราะพระองค์ทรงเปิดกว้างทุกศาสนาให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข

“อยากบอกคนไทยว่าให้ทุกคนรักกัน เพราะเป็นคำสอนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชที่เคยสอนปวงชนชาวไทยไว้เสมอ ทั้งนี้ไม่ว่าจะอยู่ในศาสนาใดก็ขอให้ทุกคนน้อมรับในแนวทางพระราชดำริ” นายบุขอรี กล่าว

 

นายสุไลหมาน บุญชู คนที่ 2 นับจากขวามือ และ นายบุขอรี บุญชู คนที่3 จากขวามื
นายสุไลหมาน บุญชู (คนที่ 2 นับจากขวา) และ นายบุขอรี บุญชู (คนที่3 จากขวา)
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image