ชาวภูฎาน-พม่า ตั้งใจมาถวายสักการะพระบรมศพ เข้าแถวรอตั้งแต่ตี 2 เสียใจไม่ต่างจากคนไทย

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน สำหรับบรรยากาศการเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พสกนิกรชาวไทย รวมทั้งชาวต่างชาติ ที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ล้วนตั้งใจเดินทางมายังบริเวณท้องสนามหลวงเพื่อต่อแถวเข้าถวายสักการะพระบรมศพ โดยสำนักพระราชวังเปิดให้พสกนิกรเข้าถวายสักการะก่อนเวลาจริงตั้งแต่เวลา 05.00 น. ผ่านทางประตูวิเศษไชยศรี ผ่านประตูพิมานไชยศรี ผ่านพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เข้าสู่กำแพงแก้วของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเพื่อขึ้นไปถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ และเดินออกทางประตูสรีสุนทร และประตูเทวาภิรมย์

กระทั่งเวลา 08.05 น. สำนักพระราชวังได้เปลี่ยนเส้นทางให้พสกนิกรเข้าถวายสักการะทางประตูมณีนพรัตน์ ผ่านระเบียงคด ของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทั้งนี้ ปกติพสกนิกรจะเดินผ่านบริเวณถนนด้านหน้าสวนหย่อมของพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท แต่สำนักพระราชวังได้เปลี่ยนเส้นทางให้เดินไปหลบแสงแดดบริเวณใต้ชายคาพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ผ่านบริเวณที่พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จเข้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ก่อนเข้าสู่กำแพงแก้วของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเพื่อขึ้นไปถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ และเดินออกทางประตูสรีสุนทรและประตูเทวาภิรมย์

ก่อนที่เวลา 08.30 น. สำนักพระราชวังเปิดให้นักท่องเที่ยวซื้อบัตรเที่ยวชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยวันนี้นักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติยังเดินทางมาเที่ยวชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และรอบบริเวณพระบรมมหาราชวังอย่างต่อเนื่อง

นายวิชาญ จิตผ่องอำไพ อายุ 41 ปี อายุ 41 ปี ครูโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดลำปาง กล่าวด้วยความตื้นตันว่า เดินทางมาพร้อมกับคณะนักเรียนคนตาบอดรวม 22 คน เพื่อมาสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แม้ว่าสายตาจะมองไม่เห็นแต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค เพราะมาด้วยความตั้งใจจริงและอยากจะมาสักการะพระองค์ ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ ถือเป็นการเดินทางมายังกรุงเทพฯ ครั้งแรกของนักเรียนหลายคนด้วย ซึ่งได้เดินทางออกจากลำปางตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน และวันที่ 17 พฤศจิกายน ได้นำคณะนักเรียนไปร่วมงานศิลปะเพื่อคนตาบอด ที่พารากอน ก่อนจะเดินทางมายังพระบรมมหาราชวังในวันนี้

Advertisement

“พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อคนพิการและคนตาบอดเป็นอย่างมาก ทรงโปรดให้คนตาบอดได้เข้าเฝ้าฯ ทุกปี รวมทั้งยังมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการจัดงานวันคนพิการแห่งชาติด้วย ซึ่งผมไม่ได้ตาบอดแต่กำเนิด จึงได้เห็นพระองค์ทรงงานหนักเพื่อประชาชนมาโดยตลอด ทั้งนี้. ทางโรงเรียนยังได้น้อมนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งพระบรมราโชวาทต่าง ๆ มาถ่ายทอดให้กับนักเรียนเพื่อใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต” นายวิชาญกล่าว

นายวิชาญ ริมขวา ถัดมา ด.ช.อนุภัทร
คณะครูและนักเรียนโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดลำปาง

ด.ช.อนุภัทร ซอนต่า ชั้นม.2 โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดลำปาง กล่าวว่า ผมได้มากราบสักการะพระบรมศพ แม้ว่าจะไม่เคยเห็นพระองค์ แต่จากการที่ได้รับรู้เรื่องราวและพระราชกรณียกิจของพระองค์จากที่ครูได้สอน และการเข้าชมงานศิลปะเพื่อคนตาบอด ได้สัมผัสภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ก็รู้สึกได้ว่าพระองค์ทรงเป็นคนดี และพระองค์ทรงสวมแว่นตาด้วย สำหรับสิ่งที่ได้เรียนรู้จากพระองค์ คือ แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง หรือ การพอมี พอกิน และพอใช้ ซึ่งตนจะมาจะนำมาปฏิบัติตาม

แม่ชีปทิตตา อายุ 45 ปี พรรษาบวช 20 พรรษา จากวัดปากน้ำภาษีเจริญ เดินพร้อมกับแม่ชี 6 คนและแม่ชีพราหมณ์อีก 2 คน ได้เดินทางมาตั้งแต่เวลา 05.00 น. กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่ผ่านมาได้เห็นพระองค์ทรงงานอย่างหนักเพื่อพสกนิกรชาวไทยทุกคน ทรงดำเนินไปยังถิ่นทุรกันดารทั่วผืนแผ่นดินไทย ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในโลกที่ทรงทำแบบนี้ รู้สึกซาบซึ้งใจในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์มาก

Advertisement
แม่ชีปทิตตา
แม่ชีปทิตตา

นางเพ็ญศรี แพรชนะ อายุ 75 ปี ชาว อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ที่ได้เดินทางมาพร้อมคณะกว่า 50 คน ตั้งแต่ 08.00 น. เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ถึงพระบรมมหาราชวังเวลา 20.00 น. ได้ปักหลักอยู่ที่ท้องสนามหลวงเพื่อรอต่อแถวเข้าสักการะพระบรมศพ กล่าวว่า รู้สึกคิดถึงพระองค์จึงอยากเดินทางมาหาพระองค์ เมื่อหลายปีมาแล้วได้เคยรับเสด็จครั้งที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปยังสุราษฎร์ธานี สำหรับพระองค์นั้นทรงไม่ใช่แค่พระเจ้าแผ่นดินแต่ทรงเป็นเหมือนพ่อที่ดูแลประชาชนคนไทยที่เป็นเหมือนลูกของพระองค์ สิ่งที่พระองค์ทรงทำให้ประชาชนคนไทยมากมายจนไม่สามารถพูดได้หมด ซึ่งปัจจุบันตนทำสวนยางและยึดตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง

นางเพ็ญศรี กลาง
นางเพ็ญศรี แพรชนะ (กลาง)

นอกจากพสกนิกรชาวไทยแล้ว ยังมีชาวต่างชาติเดินทางมาสักการะพระบรมศพด้วย นายดาว่า เชอริ่ง มัคกุเทศก์ชาวภูฏาน อายุ 31 ปี ใส่ชุดประจำชาติที่เรียกว่า “โก (GHO)” กล่าวด้วยความซาบซึ้งใจว่า มีความตั้งใจจะมาถวายสักการะพระบรมศพสักครั้งหนึ่งในชีวิต ด้วยความเคารพและศรัทธาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จึงชักชวนเพื่อนชาวไทย น.ส.ปรารถนา สมชะนะ แอร์โฮสเตสสายการบินกาต้าแอร์เวย์วัย 40 ปี บินตรงจากประเทศภูฏาน มาถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เผยว่า มาต่อแถวเหมือนกับประชาชนคนไทยตั้งแต่ 03.00 น. จึงได้เห็นความจงรักภักดีของคนไทย ที่ตั้งใจมาถวายสักการะโดยไม่ย่อท้อ รู้สึกภาคภูมิใจแทนคนไทยที่มีพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งพวกเราชาวภูฏานรักและเคารพในหลวงรัชกาลที่ 9 มาก

“สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก เสด็จฯ มาถวายความอาลัยในฐานะเป็นตัวแทนชาวภูฏานครั้งหนึ่งแล้ว วันนี้ตนตั้งใจมาเป็นตัวแทนของครอบครัว ซึ่งมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อทราบถึงพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ที่ทรงทำเพื่อพัฒนาชาติ นอกจากบำบัดทุกข์บำรุงสุขคนไทยแล้ว พระประมุขของเรายังได้น้อมนำพระราชดำริด้านต่างๆ มาเป็นต้นแบบ เพื่อปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเทศของเรา” นายดาว่ากล่าว

S__46342202
น.ส.ปรารถนา สมชะนะ-นายดาว่า เชอริ่ง

นายราช กุ มาร์ อายุ 27 ปี ชาวพม่า อาชีพธุรกิจส่วนตัว เดินทางจาก อ.กระทู้ ต.ป่าตอง จ.ภูเก็ต โดยเข้าคิวตั้งแต่ตี 02.00 น. และได้เข้าสักการะพระบรมศพตอน 09.00 น. กล่าวว่า อยู่ประเทศไทยมา 9 ปีแล้ว เมื่อตอนในหลวง ร.9 เสร็จสวรรคตตนก็รับรู้ถึงความรู้สึกของคนไทยได้ทันที จึงตั้งใจเดินทางมาเข้าสักการะพระบรมศพในวันนี้ รู้สึกเศร้าและเสียใจไม่ต่างจากคนไทย

นายมด โชติชนาวดี อายุ 34 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว กล่าวด้วยสีหน้าเศร้าว่า เราตั้งใจมาสักการะพระบรมศพในหลวง ร.9 ด้วยความรักที่มีต่อพระองค์ หากถามว่าทำไมถึงรักพระองค์ คงตอบไม่ได้ เพราะมันล้นออกมาจากใจ สิ่งที่พระองค์ทรงทำนั้นกว้างมาก หากเปรียบเทียบคงเป็นเหมือนตั้งแต่ ก-ฮ ซึ่งมากมายเหลือเกิน

ราชกุมาร์ซ้าย และนายมด
นายราช กุ มาร์ – นายมด โชติชนาวดี

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันที่ 17 พฤศจิกายน มีจำนวน 34,566 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 3,730,514.50 บาท ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม-17 พฤศจิกายน รวม 20 วัน มีประชาชนเดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพรวมทั้งสิ้น 598,808 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงินทั้งสิ้น 42,627,291 บาท

S__46342161

S__46342162

S__46342163

S__46342164

S__46342169

S__46342170

S__46342171

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image