พสกนิกรจิตใจเกินร้อยยืนรอ 15 ชม. สักการะพระบรมศพ เผยขอเป็นครูที่ดี-พอเพียงเพื่อชาติ

นางสาวรจรีย์ กมลเดช (ขวา)

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน บรรยากาศช่วงเย็นและหัวค่ำของการเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เนื่องด้วยเป็นวัดหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้วันนี้เนืองแน่นไปด้วยประชาชนจากทั่วสารทิศ ยืนต่อแถวหลายสิบชั่วโมงท่ามกลางอากาศร้อนจัดตลอดทั้งวัน กว่าจะได้เข้ากราบถวายสักการะทว่ากลับยังพบรอยยิ้มเมื่อได้สมที่ตั้งใจ

นางสาวรจรีย์ กมลเดช อายุ 32 ปี ชาวกรุงเทพฯ มาต่อแถวพร้อมครอบครัวตั้งแต่เวลา 05.00 น. ได้เข้ากราบถวายสักการะเวลา 18.00 น. หรือรอกว่า 13 ชั่วโมง กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า คิดไว้แล้วว่าวันนี้ต้องต่อแถวนานหลายชั่วโมงเนื่องจากเป็นวันหยุด แต่ก็ตั้งใจมาเพราะวันธรรมดามาไม่ได้ ทั้งนี้ แม้ยืนรออาจร้อน เหนื่อย แต่เราก็อดทนได้เพราะรักพระองค์ พระองค์ทรงทำเพื่อคนไทย ทั้งผ่านโครงการพระราชดำริ ผ่านพระบรมราโชวาท หากใครน้อมนำมาปฏิบัติใช้ ก็จะพบกับความสุขความเจริญ อย่างตนที่น้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง การอดออม จากแต่ก่อนใช้จ่ายไม่คิดอะไรจนไม่มีเงิน วันนี้เปลี่ยนมามีเงินเก็บ และตนยังสอนลูกชายให้เก็บออมวันละ 10 บาท เพื่อใช้ในอนาคต และจะสอนเขาให้รู้จักพระองค์ รู้จักงานของพระองค์ น้อมนำคำสอนมาใช้ เพื่ออนาคตที่ดีของเขา

ขณะที่นางประมวล โกศะ อายุ 53 ปี ชาว อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก มาพร้อมครอบครัวรอต่อแถวตั้งแต่เวลา 03.00 น. ได้เข้ากราบถวายสักการะเวลา 18.00 น. รวมใช้เวลา 15 ชั่วโมง กล่าวขณะดมยาดมว่า เพราะเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่อาจไม่มีโอกาสอีก ในเมื่อตั้งใจมาแล้วก็ต้องอดทนให้ได้ ซึ่งพอได้เห็นทุกคนก็มาด้วยจิตใจเดียวกัน ยืนรอกันเป็นระเบียบ และมีไมตรีจิตรต่อกัน ได้เห็นก็หายเหนื่อยเลย ทั้งนี้ ได้ตั้งอธิษฐานจิตเบื่องหน้าพระบรมโกศว่าตนจะขอเป็นครูที่ดีของชาติ จะสอนเด็กชั้นอนุบาลให้เป็นคนดี คนเก่ง ซึ่งน่าดีใจที่เด็กชั้นอนุบาล 1-2 ที่สอนรู้จักพระองค์ว่าเป็นพ่อของแผ่นดิน จากนี้ตั้งใจว่าจะสอนทุกเรื่องเกี่ยวกับพระองค์ ตั้งแต่พระราชประวัติ การทรงงาน และคำสอนของพระองค์ สอดแทรกในเนื้อหาที่เรียน ส่วนตัวยังดำเนินชีวิตด้วยความพอเพียง ดั่งที่พระองค์ทรงเคยตรัสถึงการเป็นครูที่ดี และอยู่อย่างพอเพียง เพื่อประเทศชาติ เพราะทุกวันนี้ครูเป็นหนี้สินมาก

ประมวล (ขวา)
ประมวล (ขวา)

นายปลอด ปลั่งกลาง อายุ 62 ปี ชาว อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา เหมารถเดินทางมาร่วมกับเพื่อนๆ กล่าวว่า แม้ไม่เคยได้รับเสด็จพระองค์เลย แต่ก็ดีใจที่ได้มากราบถวายสักการะพระบรมศพ ส่วนตัวประทับใจพระองค์ที่ทรงเป็นพ่อหลวงที่ดูแลปวงชนทุกหย่อมหญ้า ทรงมีคำแนะนำและทำพระองค์เป็นตัวอย่าง อย่างตนที่เป็นชาวนาได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของพระองค์ทุกอย่าง รวมถึงการทำไร่สวนผสมเพิ่มเติมด้วย ทำให้ตนและเพื่อนชาวนาที่น้อมนำคำสอนและคำแนะนำมาปฏิบัติได้กินดีอยู่ดีขึ้น ยิ่งเมื่อดำรงชีวิตอยู่บนหลักพอเพียง ก็ทำให้ตนและครอบครัวมีชีวิตที่มั่นคงอย่างยั่งยืนขึ้น

Advertisement
ปลอด
ปลอด
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image