‘ชาวกะเหรี่ยง’เดินทางจากเชียงใหม่สักการะพระบรมศพ เผยความทรงจำวัยเด็ก ได้เข้าเฝ้าฯ ในหลวง ร.9

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน สำหรับบรรยากาศประชาชนที่มาสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวังนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนยังคงมาต่อแถวกันตั้งแต่เช้า บางคนเดินทางมาตั้งแต่ตี 2 เพื่อจะได้เข้าสักการะตั้งแต่เช้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แดดไม่ร้อนมากนัก โดยสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะในเวลา 05.00 น. ทางประตูวิเศษไชยศรี ก่อนจะเปลี่ยนเส้นทางเข้าไปใช้ประตูมณีนพรัตน์ในเวลา 08.00 น. เพื่อใช้เส้นทางระเบียงคดในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ผ่านพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เข้าสู่รั้วกำแพงแก้ว เข้าสักการะพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งขณะที่ผ่านพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทนั้น เจ้าหน้าที่จะจัดแถวเข้าใต้ร่มพระที่นั่งเพื่อป้องกันแดดให้กับประชาชนด้วย นอกจากนี้ บริเวณริมกำแพงวัง หน่วยงานต่างๆ ยังได้จัดตั้งเวทีเพื่องานกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณพร้อมกันทั่วประเทศ อาทิ บริเวณหน้าประตูสวัสดิโสภา ตรงข้ามกระทรวงกลาโหม เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมได้จัดตั้งเวทีขึ้น 2 ฝั่งถนนเพื่อจัดงานแล้ว

S__67821618

นายสุดี มิตรยอดดอย อายุ 47 ปี ชาวกะเหรี่ยงหัวหน้าหมู่บ้าน 18 บ้านแม่เตียน ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเดินทางมาพักกันน้องชายที่กรุงเทพฯ ก่อนเดินทางมาสักการะพระบรมศพพร้อมภาพถ่ายความทรงจำในวัยเด็ก ซึ่งเคยมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อตอนอายุ 13 ปี เมื่อพระองค์เสด็จฯ ไปเยี่ยมชมไร่สลัดแก้วที่ปลูกไว้ส่งโครงการหลวง ทั้งยังได้นำเหรียญที่ระลึกสำหรับชาวเขา มีรหัส ชม.175114 ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการจังหวัดเชิญไปมอบให้ชาวเขา โดยเหรียญนี้เป็นเหรียญของตกทอดจากบิดามารดาพกติดตัวไว้มาให้ชม กล่าวว่า เคยมีโอกาสรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อตอนเล็กๆ โดยมีโอกาสเฝ้าแปลงผักสลัดแก้วของครอบครัว แต่ตอนนั้นยังสื่อสารภาษาไทยไม่ได้ ทำให้ต้องมีล่ามคอยแปลภาษาให้ และจดจำไม่ได้ว่าพระองค์มีรับสั่งใดกับตนบ้าง แต่เป็นความประทับใจไม่ลืมเลือน เมื่อทราบข่าวว่าพระองค์สวรรคตก็รู้สึกเสียใจมาก ที่แผ่นดินสูญเสียพ่อหลวงไป ชาวเขาในหมู่บ้านหลายคนอยากจะเดินทางมาด้วยแต่ระยะทางไกล ทำได้แต่ลงนามแสดงความอาลัยที่อำเภอ ตนเองซื้อเสื้อผ้าใหม่ทั้งหมดเพื่อเข้าสักการะเพราะชุดชาวเขามีสีแดง เกรงว่าจะไม่สุภาพ

Advertisement
นายสุดี
นายสุดี มิตรยอดดอย

“ผมรักพ่อหลวงมาก ภูมิใจที่ได้เกิดในแผ่นดินของพระองค์ ทุกวันนี้ชีวิตของคนบนยอดดอยดีขึ้นมาก แต่ก่อนมีแต่ความยากจน แต่เมื่อใช้ความพอเพียง ปลูกดอกไม้ เลี้ยงไก่ไว้กิน และปลูกผักส่งโครงการหลวงทำให้มีรายได้เดือนหนึ่งนับหมื่นบาท พ่อหลวงเหนื่อยมามากแล้วอยากให้พระองค์ได้พัก ตลอดชีวิตได้เห็นพระองค์เสด็จฯ ไปทรงงานที่ต่างๆ ทุกวัน โดยเฉพาะบนยอดดอยที่พระองค์ทรงไม่รังเกียจชาวเขา มีความรักให้พวกเรา ชีวิตเราจึงดีขึ้นมีโครงการพัฒนาต่างๆ มาก ถนนหนทางดีขึ้น นั่นเพราะความรักของพระองค์ และนี่เป็นสิ่งที่จะนำไปสอนคนในหมู่บ้านให้ทำความดีเช่นพระองค์” นายสุดีกล่าว

S__67821616

S__67821617

Advertisement

นางเผื่อน ช่วยคง อายุ 58 ปี แม่ค้าปลาจังหวัดสตูล ที่เช่ารถกับเพื่อนๆ 100 คนในกลุ่มแม่ค้ามาสักการะพระบรมศพ กล่าวว่า รวมกลุ่มกับกลุ่มแม่ค้าซึ่งไปลงทะเบียนจับสลากกับทางจังหวัดมาลงนามสักการะไม่ได้ จึงออกเงินกันคนละ 1,000 บาท เช่ารถมา ทำบัตรประจำตัวไว้ติดต่อเรียบร้อยหากสูญหาย แต่ละคนเป็นคนเฒ่าคนแก่แต่ก็ไม่ย่อท้อนั่งรถมากัน แม้จะเดินทางนานก็ตาม เมื่อได้มาสักการะก็ดีใจที่ได้เข้าไปครั้งหนึ่ง แม้พระองค์จะไม่ได้เสด็จฯ สตูลบ่อยนัก แต่ก็เดินทางมาเฝ้าฯ รับเสด็จตามงานใหญ่ๆ อยู่เสมอ ประทับใจที่พระองค์ทรงวางงานให้พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ได้อย่างดี ตามที่แต่ละพระองค์ทรงถนัด เพื่อให้พสกนิกรไทยร่มเย็น

นางเผื่อน ช่วยคง
นางเผื่อน ช่วยคง

นายณรงค์ ด้วงทอง อายุ 73 ปี ชาว จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ออกจากปราจีนตอนเที่ยงคืน ก่อนมาถึงช่วงตี 3 แล้วมาต่อคิวตั้งแต่เช้า เพื่อให้เข้าสักการะเร็วๆ เพราะเป็นช่วงไม่ร้อนแดดไม่มาก ส่วนตัวไม่เคยมีโอกาสได้รับเสด็จฯ ในหลวง ร.9 มาก่อน เพียงแต่รับเสด็จพระบรมวงศานุวงศ์องค์อื่นๆ และจะยึดคำสอนเรื่องการประพฤติตัวเป็นคนดี ตอบแทนแผ่นดินต่อไป

ณรงค์
นายณรงค์ ด้วงทอง

S__67821620

S__67821621

S__67821622

S__67821623

S__67821624

S__67821625

S__67821626

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image