เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 18 ธันวาคม ในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินเป็นวันที่ 66 นาย สุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เป็นประธานบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ จากนั้นถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร
ทั้งนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและถวายเป็นพระราชกุศล เป็นวันที่ 12 โดยมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ได้แก่ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์, สถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง และสถาบันคุ้มครองเงินฝาก เป็นเจ้าภาพ
สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม มีจำนวนทั้งสิ้น 49,464คน รวม 48 วัน มี 1,873,981 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 3,514,262.25 บาท รวม 48 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 147,114,287.25 บาท
จากนั้นเวลา 10.30 น. สมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรม จำนวน 8 รูป จากวัดอนงคาราม ราชวรมหาวิหารและวัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร ซึ่งมีคณะในสังกัดกระทรวงการคลัง ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ, ธนาคารออมสิน, กองทุนการออมแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นเจ้าภาพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเข้าสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ในพระบรมมหาราชวัง ด้วยเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ประชาชนจากทั่วทั้งประเทศต่างพากันมาสักการะเป็นหมู่คณะ เป็นครอบครัว โดยเฉพาะชาวต่างจังหวัดที่มากันตั้งแต่เช้าตรู่ โดยสำนักพระราชวังเปิดให้เข้าสักการะตั้งแต่ 04.45 น.
“ไม่เคยได้รับเสด็จพระองค์มาก่อน อยู่บ้านก็ไม่ค่อยได้ไปไหน มีแต่ได้ติดตามพระราชกรณียกิจในโทรทัศน์ เห็นพระองค์ทรงงานหนัก ไม่ได้ทรงหยุดหย่อน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง และคำสอนเรื่องประหยัด มัธยัสถ์ ที่ยึดใช้ตลอดเวลา ดิฉันเป็นเกษตรกรปลูกมันขาย ดำรงชีวิตก็ได้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงนี้ใช้ เรามีน้อยก็กินน้อย ตอบแทนพระองค์ที่ทำให้ประเทศเราร่มเย็นมาจนทุกวันนี้” นางสว่างกล่าว
ด.ญ.บุณฑริก เกตุแก้ว อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นม. 1 โรงเรียนศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวว่า ดีใจที่มีบุญได้มาสักการะพระบรมศพ โดยมากับครอบครัว หลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต ที่บ้านทุกคนก็เสียใจร้องไห้ตลอดเวลา ส่วนเรามีโอกาสได้ร่วมแปรอักษรเทิดพระเกียรติพระองค์ และไปเก็บขยะในสวนสาธารณะถวายเป็นพระราชกุศล ซึ่งต่อจากนี้ก็จะขอยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงอย่างที่ครูสอน ปลูกผัก ประหยัดต่อไป