เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พบประชาชนจากทุกสารทิศทยอยเดินทางมาต่อแถวตั้งแต่ช่วงเช้ามืด บางส่วนเป็นประชาชนที่มาปักหลักค้างคืนรอที่ท้องสนามหลวงและตามจุดบริการที่พักชั่วคราวต่างๆ
นางทองคำ ลูกบัว อายุ 65 ปี ชาวอ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ มาพร้อมคณะ อบต.ทับกฤช มาต่อแถวตั้งแต่เวลา 05.00 น. ได้เข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพในเวลา 10.00 น. กล่าวด้วยสีหน้าปลาบปลื้มว่า รู้สึกดีใจเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้มากราบสักการะในหลวง ร.9 ตอนอยู่ข้างในได้อธิษฐานขอให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย ไม่ต้องห่วง เพราะตนจะเดินตามคำสอนของพระองค์ ไม่ว่าจะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง การทำไร่นาสวนผสม อย่างทุกวันนี้ที่ปลูกทั้งพืชไร่และพืชผักสวนครัว เช่น ข้าว ถั่ว แตง บวบ กระเจี๊ยบ องุ่น กระท้อน ละมุด ซึ่งให้ผลผลิตหมุนเวียนขายและบริโภคในครัวเรือนตลอดทั้งปี แม้จะปลูกในพื้นที่ 2 ไร่ ซึ่งได้แรงบันดาลใจภายหลังจากการดูงานชั่งหัวมันของพระองค์ ที่ทรงทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง ทั้งนี้ แม้จะมีรายได้ต่อเดือนประมาณหมื่นกว่าบาท แต่ก็แทบไม่มีรายจ่ายเลย นอกจากค่าน้ำค่าไฟ
“ปีใหม่ 2560 นี้อยากขอพรให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย ส่วนตนจะมุ่งมั่นทำความดี เป็นคนดีถวายพระองค์ อีกทั้งจะสอนลูกหลานและบอกต่อในเรื่องการเดินรอยตามพระยุคลบาท แล้วชีวิตจะดีขึ้นจริงๆ ตอบแทนพระองค์ที่ทรงงานเพื่อคนไทยมาตลอด 70 ปี” นางทองคำกล่าว
นายวันชัย เสียวสูงเนิน อายุ 43 ปี ปลัดเทศบาลตำบลปะโค อ.กุดจับ จ.อุดรธานี นำคณะเจ้าหน้าที่เทศบาล 40 กว่าคน มากราบถวายสักการะพระบรมศพ โดยต่อแถวตั้งแต่เวลา 04.00 น. ได้เข้ากราบ 11.30 น. กล่าวว่า ตนได้น้อมนำหลักคำสอนของพระองค์ โดยเฉพาะหลักเศรษฐกิจพอเพียง การทำไร่นาสวนผสม มาเผยแพร่และสนับสนุนให้กับชาวตำบลปะโคซึ่งสวนใหญ่มีอาชีพเกษตร ปลูกมันสำปะหลัง อ้อย ข้าวตามฤดูกาล ก็ทำมาตั้งแต่ปี 2540 กว่าๆ หลังจากที่พระองค์ได้พูดเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงครั้งแรก ซึ่งจากการทำต่อเนื่องมาตลอด 10 กว่าปี พบว่าชาวบ้านเหลือกิน เหลือเก็บ เหลือขาย จากการแบ่งพื้นที่ปลูกพืชสวนครัว เลี้ยงปลา ไก่ไว้บริโภคภายในครัวเรือน ทั้งนี้ ปัจจุบันยังมีโครงการปิดทองหลังพระฯ มาช่วยดูแลเรื่องการสร้างแหล่งน้ำให้เพียงพอ ก็สร้างฝายชะลอน้ำ ขุดแหล่งเก็บน้ำเรื่อยมา 5-6 ปี พบว่า ตอนนี้เริ่มมีน้ำเหลือใช้ในช่วงฤดูแล้ง อย่างไรก็ดี ในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2560 นี้ ตนเตรียมจัดกิจกรรมให้ชาวตำบลมาร่วมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์คือ การสวดมนต์ข้ามปี การลดเหล้าเข้าปีใหม่
นายสุรัตน์ นวลศรี ชาวจ.กระบี่ ที่ได้เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนบ้านและประชาชนที่ได้ใช้ประโยชน์จากโครงการ อ่างเก็บน้ำบางกำปรัดอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำริให้สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในจังหวัดกระบี่ให้มีน้ำใช้ในการเกษตร กว่า 50 คน กล่าวว่า ตนและเพื่อนๆ ได้ลงขันกัน เหมารถบัสกันมา 1 คันรถ ออกเดินทางจากจังหวัดกระบี่ตั้งแต่เช้าตรู่เมื่อวานนี้ มาถึงที่สนามหลวงตอน 04.00 น.ของวันนี้ และได้กราบสักการะพระบรมศพที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทตอน 11.00 น. ซึ่งหลังจากที่ได้สักการะพระบรมศพเสร็จแล้วรู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมากที่ได้มากราบสักการะในหลวงรัชกาลที่ 9 เพราะทั้งชีวิตนี้ไม่เคยมีโอกาสได้รับเสด็จในหลวงเลยก็ตาม แต่พวกตนทุกคนต่างก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาพระองค์ให้มีที่อยู่ที่กินน้ำใช้ในการเกษตรจนถึงทุกวันนี้ เพราะประชาชนทุกคนที่มาล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่9 ที่ทรงมีต่อชาวกระบี่ ในอดีตที่กระบี่ทั่วทั้งจังหวัดเต็มไปด้วยความแห้งแล้งขาดน้ำใช้ทางการเกษตรไม่สามารถปลูกพืชผลได้ แต่พอมีอ่างเก็บน้ำบางกำปรัด ชาวบ้านทุกคนล้วนมีน้ำใช้ทางการเกษตรปลูกพืชผลต่อปีพอมีรายได้มาเลี้ยงชีพและมีเงินส่งลูกหลานเรียนจนจบมหาวิทยาลัย
“พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ช่างยิ่งใหญ่ไพศาลเหลือเกิน ทุกวันนี้ที่พวกเราทุกคนลืมตาอ้าปากได้ก็เพราะในหลวงรัชกาลที่ 9 ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่มีในหลวงอีกแล้ว แต่พวกเราทุกคนจะขอน้อมนำพระราชดำริของพระองค์เรื่องความพอเพียงมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตต่อไป” สุรัตน์กล่าว
