เมื่อวันที่ 10 มกราคม ในการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 89
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ราชสกุล องคมนตรี คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ เป็นวันที่ 35 โดยมีหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย คณะผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการ พนักงาน จากจังหวัดต่างๆ ประกอบด้วย จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดสกลนคร จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดเชียงราย จังหวัดลำปาง จังหวัดลำพูน จังหวัดพะเยา จังหวัดน่าน จังหวัดแพร่ ฯลฯ ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
เวลา 07.00 น. นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขา เป็นประธานถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรมจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคาราม ราชวรมหาวิหาร และวัดจักรวรรดิราชาวาส วรมหาวิหาร การนี้ คณะผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการ พนักงาน จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดสกลนคร จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล ร่วมเป็นเจ้าภาพ
ต่อมาเวลา 10.30 น. นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรม จำนวน 8 รูป จากระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยมี คณะผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการ พนักงาน จากจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดลำปาง จังหวัดลำพูน จังหวัดเชียงราย จังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่ เป็นเจ้าภาพร่วมบำเพ็ญกุศลพระบรมศพ
ทั้งนี้ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 9 มกราคม หลังสำนักพระราชวังปิดเมื่อเวลา 22.40 น. จากกำหนดเดิมในเวลา 21.00 น. มีจำนวนทั้งสิ้น 42,432 คน รวม 70 วัน มี 3,037,746 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 3,496,162.25 บาท รวม 70 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 247,768,324 บาท
