‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ ทรงซื้อหนังสือ ‘ชีวิตนี้ชะตาลิขิต ดร.สุเมธ‘ ในสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ

‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ ทรงซื้อหนังสือ ‘ชีวิตนี้ชะตาลิขิต ดร.สุเมธ‘ ในสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5-7 เนื่องด้วย สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) พร้อมด้วยพันธมิตรสำนักพิมพ์ ร่วมจัดงาน ‘สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 52 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 22’ ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม – 8 เมษายนนี้

เวลา 10.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงาน และพระราชทานพระราชดำรัสในงาน “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 52 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติครั้งที่ 22” (52nd National Book Fair & 22nd Bangkok International Book Fair 2024)

Advertisement

จากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมชมบูธนิทรรศการ และซื้อหนังสือ ‘ชีวิตนี้ชะตาลิขิต ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล’ เป็นเล่มแรกในงานสัปดาห์หนังสือ โดยมี นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และคณะ เฝ้าฯ รับเสด็จ ด้วยความซาบซึ้งต่อพระมหากรุณาธิคุณ

Advertisement

เนื่องด้วย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นายกกิตติมศักดิ์และประธานกรรมการมูลนิธิชัยพัฒนา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา จัดพิมพ์หนังสือ “ชีวิตนี้ชะตาลิขิต” ซึ่ง ดร.สุเมธ ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระราชานุญาตในการจัดพิมพ์ ด้วยมีเจตจำนงที่จะมอบให้เป็นลิขสิทธิ์ของมูลนิธิชัยพัฒนาและรายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายหนังสือมอบสมทบมูลนิธิชัยพัฒนา

ทั้งนี้ การจัดทำหนังสือดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนการจัดพิมพ์โดย บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และมูลนิธิสิริวัฒนภักดี โดยมี บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับผิดชอบการจัดวางเนื้อหารวบรวมข้อมูลและวางรูปแบบหนังสือรวมทั้งจัดพิมพ์ โดยเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 52 และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 22 ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 8 เมษายนนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

โดย ดร.สุเมธ เป็นประธานงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “ชีวิตนี้ชะตาลิขิต ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล” ไปเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมหนุมาน 1 ชั้น 1 สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา ถนนอรุณอมรินทร์กรุงเทพฯ

สำหรับหนังสือ “ชีวิตนี้ชะตาลิขิต ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล” เป็นหนังสือบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ตั้งแต่วัยเยาว์ถึงปัจจุบัน ซึ่งความพิเศษของหนังสือเล่มนี้คือ การบันทึกช่วงชีวิตตลอด 7 รอบนักษัตร หรือ 84 ปี ตั้งแต่เกิด ได้รับการศึกษา ออกเดินทางสู่โลกกว้าง และกลับมารับใช้แผ่นดินด้วยการพัฒนา

ซึ่งในแต่ละช่วงวัยได้ผ่านประสบการณ์หลากหลายทั้งด้านดีและไม่ดี รวมถึงเหตุการณ์ในช่วงประวัติศาสตร์ที่สำคัญของประเทศ และการได้รับโอกาสในการถวายงานพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จวบจนถึงปัจจุบัน หนังสือเล่มนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้ชีวิตและมุมมองต่อเรื่องราวและเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล โดยถ่ายทอดให้เห็นถึงความเป็นจริงของชีวิตปุถุชนที่มีทั้งด้านดีและไม่ดีควบคู่กันไป มิใช่จะมีแต่ด้านดีด้านเดียวอย่างที่คนอื่นเข้าใจ

โดยจุดเริ่มต้นของการจัดทำหนังสือ “ชีวิตนี้ชะตาลิขิต ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล” เกิดขึ้นจากความตั้งใจของนายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานรุ่น ผู้เข้าอบรมหลักสูตรผู้นำการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ นพย. ซึ่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชกระแสให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดทำหลักสูตรการอบรมนี้ขึ้นเมื่อปี 2559 เพื่อสร้างผู้นำคลื่นลูกใหม่ที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง อันจะนำสังคมไปสู่การพัฒนาอย่างสมดุลเพื่อประโยชน์สุขที่ยั่งยืนต่อไป

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กล่าวว่า ตนเห็นว่าในแต่ละช่วงชีวิตทุกวัยของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล นั้นมีประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น โดยเฉพาะในช่วงวัยที่ต้องจากประเทศไทยไปศึกษาต่อ ณ ประเทศเวียดนาม ลาว และฝรั่งเศส รวมถึงการดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กระทั่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เป็นเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา อีกทั้งยังเป็นการเผยแพร่พระราชกรณียกิจที่อาจจะไม่มีใครเคยทราบมาก่อน โดยเฉพาะการทรงงานเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศเพื่อเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลังต่อไป

โดยได้กล่าวในบทมุทิตาคารวะซึ่งมีเนื้อหาส่วนหนึ่งใจความว่า “…เห็นท่านอาจารย์มีบุคลิกอารมณ์ดีเช่นนี้ ใครจะนึกฝันว่าท่านเคยเผชิญกับทางแยกและจุดหักเหของโชคชะตาชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่า มีประสบการณ์เฉียดตายนับไม่ถ้วน ด้วยความแข็งแกร่งเพียงพอและการตั้งสติที่ดีพอ จึงทำให้ท่านสามารถฝ่าฟันอุปสรรคได้ในสถานการณ์ที่มืดมนและชะตาแปรผันเช่นนั้นได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ยังเป็นบันทึกสำคัญ เป็นเกร็ดประวัติศาสตร์ของการพัฒนาประเทศไทย ในยุคที่โลกมีความวุ่นวายและสับสน ว่าประเทศไทยของเราได้ประคับประคองตัวเองให้ผ่านวิกฤตหลายๆ ครั้งมาได้อย่างไร โดยยังสามารถสร้างประโยชน์และความสุขให้แก่สังคมไทยมาจนตราบทุกวันนี้…”

สำหรับการจัดทำหนังสือชีวิตนี้ชะตาลิขิต ได้แบ่งเนื้อหาภายในออกเป็น 7 บท ตาม 7 รอบนักษัตร ดังนี้

รอบนักษัตรที่ 1 (พุทธศักราช 2482 – 2494) วัยเยาว์รสหวานปนขม : ช่วงชีวิตวัยเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึงก่อนวัยเรียน ต้องเผชิญกับความเจ็บป่วยด้วยร่างกายที่ไม่ค่อยจะแข็งแรงนักและครอบครัวแตกแยก

รอบนักษัตรที่ 2 (พุทธศักราช 2494 – 2506) เปิดประตูสู่โลกกว้าง : ช่วงชีวิตวัยเรียนที่ต้องเดินทางเพื่อศึกษาต่อในหลายประเทศเนื่องจากเกิดภัยสงคราม

รอบนักษัตรที่ 3 (พุทธศักราช 2506 – 2518) กลับสู่มาตุภูมิ : ช่วงชีวิตของการทำงานในประเทศไทย เริ่มรับราชการที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และงานเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาเพื่อความมั่นคงในระดับพื้นที่กองทัพทั้ง 4 ภาค และจุดเริ่มต้นชีวิตกลางสนามรบ

รอบนักษัตรที่ 4 (พุทธศักราช 2518 – 2530) รอนแรมในสมรภูมิ : ดำรงตำแหน่งเลขานุการสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงานเลขานุการ กปร.) และดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองวางแผนเตรียมพร้อมด้านเศรษฐกิจในสภาพัฒน์ไปพร้อมกัน ชีวิตการทำงานที่ต้องวางแผนรับมือสงครามและปฏิบัติงานในสนามรบจริงถึง 11 ปี และเริ่มต้นการเป็นนักเรียนของในหลวงรัชกาลที่ 9 ยาวนานถึง 35 ปี

รอบนักษัตรที่ 5 (พุทธศักราช 2530 – 2542) ถวายงานด้านการพัฒนา : พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริก่อตั้งมูลนิธิชัยพัฒนา และโปรดเกล้าฯ ให้ ดร.สุเมธ เป็นเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งเป็นช่วงของการดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมกับเลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ชีวิตการทำงานแบบซี 22

รอบนักษัตรที่ 6 (พุทธศักราช 2542 – 2554) รางวัลแห่งชีวิต : ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษและทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ และการทำงานอย่างไม่มีวันเกษียณ

รอบนักษัตรที่ 7 (พุทธศักราช 2554 – 2566) ฝากไว้ให้สานต่อ : ดร.สุเมธ เข้าเฝ้าฯ ถวายรายงานสถานการณ์ต่างๆ แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ โรงพยาบาลศิริราชครั้งสุดท้ายและรับสั่งว่า “สุเมธ งานยังไม่เสร็จนะ”

นอกจากนี้ หนังสือยังวางจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ ได้แก่ ร้านนายอินทร์ ศูนย์หนังสือแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซีเอ็ดบุ๊ค เซ็นเตอร์ (SE-ED Book Center) บีทูเอส (B2S) คิโนะคูนิยะ (Kinokuniya) และเอเซียบุ๊คส (Asia Books)

ร้านภัทรพัฒน์ สำนักงานใหญ่ สนามเสือป่า, สาขาพระราม 8, สาขาโครงการชัยพัฒนาประชาเกษม, สาขาเดอะพาซิโอ ทาวน, สาขาพระราม 9, สาขาไอคอนสยาม, สาขา ปตท. ทางด่วนบางนาขาออก, สาขาบองมาร์เช่, สาขา ปตท. วิภาวดี 62 และร้านมูลนิธิชัยพัฒนา สาขาโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โดยรายได้จากการจำหน่ายหนังสือทั้งหมดสมทบมูลนิธิชัยพัฒนา ในราคาเล่มละ 999 บาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image