ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 146 ประชาชนที่มีความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด ทุกสาขาอาชีพ รวมทั้งนักเรียน นักศึกษา ต่างแต่งตัวชุดดำเรียบร้อย เดินทางมาต่อแถวเพื่อเข้ากราบสักการะอย่างเป็นระเบียบตลอดทั้งวัน
โดยในเวลา 10.30 น. นายพลากร สมสุวรรณ กรรมการผู้จัดการบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด เป็นประธานบำเพ็ญกุศลและถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ 10 รูป โดยมีเหล่านักแสดงในสังกัดช่อง 7 มาร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายจำนวนมาก
นางดวงดาว จารุจินดา นักแสดง พิธีกรรายการโทรทัศน์และนักพากย์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพร่วมบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และได้กราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก รู้สึกอิ่มใจบรรยายเป็นคำพูดไม่ถูก ตนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย พระองค์ได้พระราชทานความช่วยเหลือประชาชนชาวไทยผ่านโครงการในพระราชดำริหลายพันโครงการ โดยเฉพาะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ทรงวางรากฐานไว้ให้ปวงชนชาวไทยได้เป็นหลักยึดในการดำเนินชีวิต
“ได้น้อมนำเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิตอยู่แล้ว ซึ่งการใช้ชีวิตพอเพียงในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าต้องลาออกจากงาน แล้วออกไปทำนาทำไร่แค่อย่างเดียว แต่คือการใช้เงินอย่างรู้คุณค่า ไม่ฟุ่มเฟือย และต้องรู้จักแบ่งปัน ช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาสในสังคมด้วย นอกจากนี้ในฐานะที่เป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ ก็นำคำสอนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาดำเนินรายการด้วยเพื่อเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ให้ประชาชนหันมาใช้ชีวิตอย่างพอเพียงและพอดี” นางดวงดาวกล่าว
นายรัฐพงศ์ ธนะพัฒน์ หรือเคลลี่ ดารานักแสดงช่อง 7 กล่าวว่า วันนี้เพิ่งมีโอกาสมากราบสักการะพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้ในช่วง 100 วันแรกของการเสด็จสวรรคต ได้มาเป็นจิตอาสาแจกของให้กับประชาชนที่มาสักการะพระบรมศพที่บริเวณท้องสนามหลวงอยู่หลายครั้ง วินาทีแรกที่ได้ก้มกราบพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ รู้สึกปลาบปลื้มและเป็นบุญวาสนาที่มีโอกาสได้มากราบพ่ออย่างใกล้ชิด ตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งการครองสิริราชย์สมบัติ พระองค์ทรงทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนของพระองค์อยู่ดีกินดี พระองค์มิเพียงเป็นผู้ให้อย่างเดียวเท่านั้น แต่หากทรงยังสอนให้ประชาชนเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือตัวเองและครอบครัวอีกด้วย
“ผมเกิดและโตที่สหรัฐ เมื่อกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยแรกๆ ก็รู้สึกสงสัยว่าทำไมคนไทยทุกคนรักในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่ตั้งแต่ที่ได้อาศัยอยู่ในเมืองไทยจนถึงวันนี้เข้าใจและรู้ซึ้งแก่ใจแล้วว่าทำไมคนไทยถึงรักพระองค์ เพราะพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ปวงชนชาวไทยมากมายเหลือเกิน ทรงเป็นทั้งผู้ให้ชีวิตที่ดีแก่พสกนิกร ขณะเดียวกันพระองค์ทรงสอนให้ประชาชนของพระองค์รู้จักที่จะช่วยเหลือตัวเอง ผ่านโครงการในพระราชดำริฯ มากมาย โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ที่ผมเองก็นำมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตเช่นกัน ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย ที่สำคัญเราต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ และคิดก่อนพูดทุกครั้ง” นายรัฐพงศ์กล่าว
ด้าน น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือมิน ดารานักแสดงช่อง 7 กล่าวว่า ปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเข้ามากราบพระองค์อย่างใกล้ชิด เมื่อเข้าไปกราบตนได้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงทำมาตลอดพระชนม์ชีพ พระองค์ทรงงานหนักเพื่อประชาชนชาวไทย
“พระองค์ทรงเป็นต้นแบบในทุกเรื่อง ทั้งด้านกีฬา ดนตรี ศิลปะ และภาษา ทำให้เห็นว่าเราสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต และพระองค์ทรงทำให้มินได้ระลึกว่า สุดท้ายแล้วชีวิตของเราทุกคนก็ต้องตาย เหลือไว้เพียงความดีที่ทำไว้ โดยมินน้อมนำเรื่องการทำความดี และเชื่อว่าการที่เราจะทำดีนั้น เป็นสิ่งที่เราเลือกได้” น.ส.พีชญากล่าว
