เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเข้าสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 187 ว่าพสกนิกรทั่วประเทศต่างเดินทางมาเข้าคิวตั้งแต่ช่วงเช้า แม้จะมีฝกตกลงมาในช่วงเที่ยง แต่พสกนิกรก็ยังคงปักหลักเพื่อรอเข้ากราบสักการะพระบรมศพ
นายคิม เวลส์ แอทคินซัน อายุ 74 ปี ชาวสหรัฐอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาต่างประเทศ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ เปิดเผยว่า เดินทางไปมาระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกาเป็นเวลากว่า 50 ปีแล้ว ตนมีความประทับใจในประเทศไทย และพระมหากษัตริย์ไทยเป็นอย่างมาก ยิ่งได้มีโอกาสทำงานด้านภาษาโดยแปลในเรื่องของความพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นภาษาอังกฤษเพื่อส่งต่อเรื่องราวให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ ก็ทำให้ประทับใจในพระปรีชาของพระองค์
“ได้อ่านเรื่องราววิธีการทรงงานของในหลวง ร.9 ก็ได้พบว่าพระองค์ทรงสอนให้เรารู้จักคิด ให้เราเข้าใจและให้เราได้ทำ ซึ่งก็อยู่ที่ว่าเราจะเดินตามไปอย่างไร พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ดีที่สุดในโลก เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับทุกคนในทุกๆ ด้าน ได้เห็นคนไทยเดินทางมากราบพระองค์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว รู้สึกชื่นชมในความรัก เพราะเกิดจากความรักที่บริสุทธิ์ เป็นสิ่งที่ประทับใจมากๆ” นายคิมกล่าว
นางวงเดือน ศิริชาติ อายุ 70 ปี ชาว อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับเพื่อนๆ อุบาสก อุบาสิกา ที่วัดหนองกลับ ซึ่งเจ้าอาวาสได้จัดพามาตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 7 พฤษภาคม กล่าวว่า ตั้งใจอยากจะมากราบพระบรมศพนานแล้ว เพียงแต่ว่าด้วยเป็นผู้สูงอายุ จะเดินทางไปไหนค่อนข้างลำบาก จึงต้องรอคณะเพื่อให้มีคนช่วยดูแลกันและกัน แม้จะเพิ่งได้มาครั้งแรกแต่ที่ผ่านมาก็ติดตามข่าวสารงานพระบรมศพตลอดมา รวมถึงพระราชกรณียกิจต่างๆ ของในหลวง ร.9 ที่ทรงงานหนักด้วยความเสียสละ อย่างไม่ถือพระองค์ว่าเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ทุกสิ่งทุกอย่างทรงทำด้วยพระราชหฤทัยเพื่อปวงชน ในชีวิตเคยได้ไปรับเสด็จพระองค์ เมื่อครั้งเสด็จฯไปทรงเปิดโรงพยาบาลสวรรค์ประชารัฐ แม้จะได้เห็นแต่ไกลๆ แต่ยังจดจำจนวันนี้ถึงความสง่างามของพระองค์ ปัจจุบันนี้ก็ได้ยึดหลักพอเพียง ปลูกพืชผักสวนครัวต่างๆ ทั้งพริก กล้วย ต้นแค มะนาว ด้วยปุ๋ยอินทรีย์ นอกจากนี้ ได้นำคำสอนของพระองค์ที่ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ออกไปช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆ ของวัด ปลูกต้นไม้ เข็นรถเข็นใส่อาหารเวลาที่พระสงฆ์บิณฑบาต ไปจนถึงขัดห้องน้ำ จัดดอกไม้ เพื่อให้ชีวิตของเรามีคุณค่าที่สุดทุกนาทีก่อนหมดลมหายใจ ดังที่ในหลวง ร.9 ทรงเป็นแบบอย่างตลอดมา
ด้านนางประทุม กรุดเนียม อายุ 61 ปี ข้าราชการครูโรงเรียนวัดลาดน้ำขาว อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเดินทางมาพร้อมครอบครัว 5 คน กล่าวว่า มาสักการะพระบรมศพเป็นครั้งแรก เมื่อได้ขึ้นไปกราบแล้วรู้สึกอบอุ่นมาก เหมือนได้มากราบแทบพระบาท ครอบครัวทุกคนตั้งใจที่จะเดินทางมากราบพระบรมศพครั้งนี้มาก ตั้งแต่ยังเล็กมีโอกาสได้รับเสด็จในหลวง ร.9 และพระบรมวงศานุวงศ์ที่เสด็จฯมาทอดกฐินวัดแถวบ้าน หลังจากนั้นก็ได้แต่ติดตามพระราชกรณียกิจของพระองค์ ที่เสด็จฯไปตามถิ่นทุรกันดาร บางอย่างก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นโครงการอันเกิดจากพระราชดำริของพระองค์ ทั้งเขื่อน คลองส่งน้ำต่างๆ ทรงปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง จากนี้ด้วยความเป็นครูก็จะยึดหลักความซื่อสัตย์ การทุ่มเท ทำเพื่อส่วนรวม สอนเด็กๆ ต่อไป
ทั้งนี้ สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม หลังสำนักพระราชวัง ปิดเวลา 21.04 น. ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 32,425 คน รวม 186 วัน มี 6,828,681 คน
