พสกนิกรสักการะพระบรมศพ 9.59 ล้านคน

นางสาวธัญดา โล่ห์มงคล

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ราชสกุล องคมนตรี คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและถวายเป็นพระราชกุศล เป็นวันที่ 258

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 31,475 คน รวม 292 วัน มี 9,595,206 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 2,668,734 บาท รวม 292 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 722,399,039.01 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเข้าสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พสกนิกรจากทั่วทั้งประเทศต่างเดินทางมาเข้าคิวสักการะด้วยความภักดีตั้งแต่ช่วงเช้าท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวตลอดทั้งวัน

Advertisement

นางสาวธัญดา โล่ห์มงคล อายุ 39 ปี เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพคนเดียว จากจังหวัดนนทบุรี เป็นครั้งที่ 9 กล่าวว่า รู้สึกปลื้มใจที่ประชาชนยังคงหลั่งไหลมาสักการะพระบรมศพอย่างเนืองแน่น ตนก็มาเพราะรู้สึกคิดถึงพระองค์เช่นกัน และเคยรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชอย่างใกล้ชิด เมื่อครั้งพระองค์เสด็จฯ พร้อมสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมายังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตนรับเสด็จฯ อยู่แถวหน้า และมีโอกาสได้ทูลเกล้าฯ ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลกับพระหัตถ์ของพระองค์

“ปัจจุบันยังคงยึดคำสอนของพระองค์มาใช้ในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ และได้รับโอกาสทำละครเทิดพระเกียรติเรื่อง “คลื่นแห่งศรัทธา” ถวาย โดยมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการแล่นเรือใบ ซึ่งในขณะถ่ายทำประสบปัญหาลมไม่มี ทำให้เรือไม่แล่น จึงรำลึกถึงคำสอนของพระองค์ที่ว่าอย่าฝืนธรรมชาติ อย่าฝืนแรงลม ให้รออย่างอดทน และจากการรออย่างอดทนในครั้งนั้น สักพักก็มีลมพัดมาทำให้สามารถถ่ายทำต่อได้” นางสาวธัญดากล่าว

นายไพจิตร ตระกูลพัว

นายไพจิตร ตระกูลพัว อายุ 69 ปี ข้าราชการบำนาญกระทรวงศึกษาธิการ เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพพร้อมครอบครัวจาก อ.เมือง จังหวัดสิงห์บุรี เผยว่า มากราบพระบรมศพเป็นครั้งแรก ตนมีโอกาสเคยได้รับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชอย่างใกล้ชิดหลายครั้ง และภูมิใจที่ได้เป็นข้าราชการในสมัยรัชกาลที่ 9 โดยครั้งที่ประทับใจที่สุดคือมีโอกาสได้จัดพระกระยาหารถวายพระองค์ในนามจังหวัดสิงห์บุรี ในพิธีวางศิลาฤกษ์ที่อนุเสาวรีย์วีระชนค่ายบางระจัน ทั้งนี้ ตนยังได้น้อมนำเอาคำสอนของพระองค์เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงจัดเป็นโครงการให้โรงเรียนในเขตพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบส่งต่อให้นักเรียนนำไปปฎิบัติต่อไป

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image