หลังจากวันที่ 13 ตุลาคม 2559 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สวรรคต ตั้งแต่วันนั้นมา แผ่นดินไทยทั้งแผ่นดินเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย
ตลอดระยะเวลา 1 ปีแห่งการจากไปของพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง พสกนิกรชาวไทยจากทั่วสารทิศต่างหลั่งไหลเดินทางมาสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต บางคนมาเพียงครั้งเดียว บางคนมา 9 ครั้ง บางคนมาหลายสิบครั้ง และบางคนมากราบเป็นร้อยๆ ครั้ง เพื่อให้ได้ใกล้ชิดพระองค์
ทว่าไม่ใช่เพียง 13 ตุลาคม 2559 เท่านั้น ที่คนไทยจะจดจำชั่วกาล
วันที่ 25-29 ตุลาคม 2560 ซึ่งเป็น “พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่คนไทยจะจดจำตลอดไป
ภาพของพระเมรุมาศที่ยืนเด่นตระหง่าน ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่เป็นไปตามโบราณราชประเพณี ห้วงเวลาที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนช่อไม้จันทน์บนพระเมรุมาศ ใบหน้าเศร้าสลดของประชาชนที่สวมชุดดำกรำแดดกรำฝนเนืองแน่น ทั้งรอบๆ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และที่เข้าวางดอกไม้จันทน์ถวายทั่วประเทศ กลายเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ และถือเป็นความทรงจำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุคสมัย
จากการเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ของ “กรุงเทพโพลล์” โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้เผยผลสำรวจเรื่อง “ที่สุดแห่งปี 2560” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 1,154 คน พบว่า ที่สุดของข่าวในประเทศที่ประชาชนสนใจ ติดตาม และเกาะติดสถานการณ์แห่งปี ได้แก่ ข่าวพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
นับเป็นที่สุดของข่าวแห่งปี 2560 ที่คนไทยทุกคนมิอาจลืมและจะจดจำชั่วนิจนิรันดร์