“บรรยง พงษ์พานิช”ลังเล หนุนนโยบายรัฐสู้โควิด ข้องใจ”เราจะเอาแชมป์โลกไปทำอะไร?”

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2563 นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Banyong Pongpanich “เราจะเอาแชมป์โลกไปทำอะไร?”

โดยเนื้อหาระบุว่า …ขอแสดงความเห็นหน่อยครับ (4 พค.2563)ถึงจะไม่ได้รับหนังสือเชิญแสดงความเห็นในฐานะมหาเศรษฐี ไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาคณะไหนๆ แต่ในฐานะประชาชนคนเสียภาษีคนหนึ่ง ขอออกความเห็นสั้นๆเกี่ยวกับมาตรการรัฐในการต่อสู้โควิดหน่อยนะครับ

ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่า ผมเป็นคนเห็นแก่ตัวธรรมดาๆคนหนึ่งในระบบทุนนิยมปกติ ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นเรื่องเดียวกับประชาธิปไตย ที่คนทุกคนทำเพื่อประโยชน์ตนภายใต้กรอบกติกาที่ดี ที่เป็นธรรม แล้วเป้าหมายรวมของคนก็กลายเป็นเป้าหมายชาติ ที่เป็นของประชาชน เพื่อประชาชน และโดยประชาชน

ผมประกาศตัวให้รัฐมีมาตรการเด็ดขาดเต็มที่ที่จะสกัดการระบาดให้มากที่สุด แม้จะต้องทุ่มเททรัพยากรหรือมีความสูญเสียทางเศรษฐกิจ เกิดการถดถอยสัก “10%ของGDP ต้องเพิ่มหนี้สาธารณะให้เต็มเพดาน60% แล้วค่อยเพิ่มภาษี ขายรัฐวิสาหกิจใช้หนี้เอาเมื่อโรคระบาดผ่านพ้น เรียกว่าเป็นครั้งแรกในรอบหกปีเลยก็ได้ ที่ผมสนับสนุนนโยบายของรัฐ

Advertisement

ยอมรับครับว่า ที่สนับสนุนนั้น เป็นเพราะประโยชน์ตัวที่รักตัวกลัวตายเป็นห่วงเพื่อนฝูงญาติพี่น้องสนิท ไม่ต้องการให้เป็นภัยไปกับโรค …เพราะสำหรับผม เงินทองไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้ว มีเก็บออมไว้พอเพียง แถมกระจายไว้ทั่วโลก ถึงตัวเลขจะหดหายมากมาย แต่ก็ยังเหลือพอที่จะฟุ่มเฟือยไปได้อีกนาน

แต่พอมาวันนี้ ชักไม่แน่ใจแล้วว่ายังสนับสนุนนโยบายปัจจุบันที่ดูจะเลยเถิด ตั้งเป้าหมายจะให้ดีที่สุดในโลก จะให้โรคเหลือศูนย์ ปิดประเทศ ปิดเศรษฐกิจไปหมด จะเอาให้ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลกให้ได้ ไม่ว่าต้นทุนจะสูงสักเท่าใด

Advertisement

อย่างอัตราการค้นพบโรคนั้น ต่ำสิบมาหลายวันติดต่อ ถึงวันนี้จะกระโดดมา18 แต่ทั้งหมดก็เกิดในค่ายกักโรค เรียกว่าเหลือศูนย์แล้วในสังคมทั่วไปก็ยังได้

“Flatten the Curve” คือ กลยุทธสำคัญที่ประกาศไว้ …ลืมแล้วเหรอครับ เราต้องการชะลอการติดโรค ไม่ให้คนป่วยล้นfacilityที่มี เราต้องการชะลอโรครอวัคซีน …วันนี้curve มัน flat เสียจนแบนแต๋แล้ว จะเอาไปถึงไหนครับ อย่าลืมว่าต้นทุนมันสูงมากนะครับ โดยเฉพาะกับระบบเศรษฐกิจ กับคนด้อยโอกาสที่ยังสร้างตัว ไม่สามารถเก็บออมได้พอ

ผ่อนคลายให้มากๆเถอะครับ ถ้ามันกลับมาก็ค่อยว่าไปตามสถานการณ์ มันไม่เหมือนสู้ศึกสงครามโบราณที่มีเดิมพันเดียว อยู่หรือตาย ชนะหรือสิ้นชาติ เลยต้องสะสมกำลังสะสมอาวุธไว้ให้ล้นเหลือ ให้เกินไว้ก่อน เพราะมันเพลี่ยงพล้ำไม่ได้เลย แพ้ไม่ได้

ก็ขอออกความเห็นดังๆไว้ ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ที่ถึงจะเห็นแก่ตัวยังไงก็ทนดูคนเดือดร้อนไม่ไหวครับ นี่ก็นั่ง…โรงทานเกือบทุกวัน จนใบเสร็จใช้ได้สิบเท่าของที่เขาให้หักภาษีแล้วครับ(และจะไม่ใช้ด้วยครับ …จะช่วยจ่ายหนี้สาธารณะ)”

https://www.facebook.com/banyong.pongpanich

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image