ศบค.เสียใจหละหลวมคุม “โควิด-19” ยกเลิกทหารอียิปต์เข้าไทย-กักตัวสถานทูต ชะลอต่างชาติเข้า ปท.

ศบค.เสียใจหละหลวมคุม “โควิด-19” ยกเลิกทหารอียิปต์เข้าไทย-กักตัวสถานทูต ชะลอต่างชาติเข้า ปท.

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)(ศบค.) กล่าวระหว่างแถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่า กรณีการรายงานทหารอียิปต์ติดโควิด-19 ออกไปเที่ยวห้าง และกรณีลูกอุปทูตซูดานวัย 9 ขวบ ติดโควิด-19 และครอบครัวพักในคอนโด One X ว่า ศบค.จะเป็นผู้รับผิดชอบในกรณีที่เกิดขึ้น และจะพยายามทำให้ดีที่สุด โดยการเข้ามาในลักษณะของผู้ควบคุมยานพาหนะที่เป็นข้อกำหนดประกาศ 7/2563 ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องมีผู้ควบคุม โดยระบุว่า 1.มีหนังสือแสดงตัว 2.มีกรรมธรรม์ประกันสุขภาพ 3.มีการคัดกรองระบบทางเดินหายใจ โดยไม่มีข้อระบุว่าจะต้องตรวจด้วยการหาเสมหะในโพรงจมูกและลำคอ 4.จะต้องใช้แอพพลิเคชั่นติดตามตัว แต่จะต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าทางผู้เดินทางเข้ามามีการใช้หรือไม่ และ 5.ให้เข้าพักในสถานที่ที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคกำหนด ตลอดเวลาที่พำนักในราชอาณาจักร ทั้งนี้จะต้องเป็นตามหลักเกณฑ์ที่ราชการกำหนด โดยพบข้อหละหลวมคือ ทางสถานทูตได้ไปติดต่อโรงแรมโดยตรงและนำไปสู่การเข้าพัก ทำให้ทีมดูแลรับทราบข้อมูลภายหลังแต่ไม่ได้ลดละความพยายามและทำการเข้าไปตรวจทันที จึงได้ผลการตรวจอออกมา

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.มีมติ 3 ข้อ ว่า 1.เกี่ยวกับการทูต การให้ทูตไปพำนักในสถานทูตนั้นมีความเสี่ยง ทำให้เกิดกรณีของคณะทูตจากซูดาน ดังนั้นกระทรวงการต่างประเทศจะมีการทบทวนและขอให้นักการทูตที่เดินทางเข้าประเทศไทย เข้าสู่สถานกักกันโรคของรัฐ(State Quarantine) หรือ ASQ เป็นเวลา 14 วัน 2.ให้กระทรวงการต่างประเทศ ยกเลิกการบินเข้าชองเที่ยวบินกองทัพอากาศอียิปต์ ทั้งที่อนุญาตไปแล้วและกำลังจะอนุญาต ทั้งหมด 8 เที่ยวบิน ในช่วงวันที่ 17-20 และ วันที่ 25-29 กรกฎาคม และ 3.ให้ชะลอการอนุญาตการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรแบบผ่อนคลายมาตรการ State Quarantine ตามข้อกำหนดฉบับที่ 12 (2)กลุ่มที่มีเหตุยกเว้นหรือได้รับอนุญาต (3) บุคคลในคณะทูต และ (11) กลุ่มนักธุรกิจที่เข้ามาในระยะสั้นไปก่อน และมีการทบทวนมาตรการควบคุมให้มีความรัดกุมรอบคอบจึงให้มีการดำเนินการต่อไป เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนอีกครั้งก่อนที่จะรับคนต่างชาติเข้ามา

“ต้องขออภัยประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ระยอง และ กรุงเทพมหานคร ใน จ.ระยอง ที่มีคนเป็นเรือนพัน เด็กต้องปิดโรงเรียนไปกว่า 10 แห่ง เป็นข้อที่เราไม่สบายใจและขออภัยเป็นอย่างสูง แล้วเราจะทำให้ดีและละเอียดกว่านี้ ในทุกข้อที่ออกไป เพราะว่าเพิ่งออกเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม และเกิดเหตุวันที่ 9 กรกฎาคม เราเสียใจเป็นอย่างยิ่งและจะทำให้ดีที่สุด” โฆษก ศบค.กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในนาม ศบค.ไม่สามารถปฏิเสธการรับผิดชอบไม่ได้ หลายเรื่องเป็นเรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง ข้อกำหนดที่เกิดขึ้นมาจะต้องมีการปรับปรุงเรื่อยๆ ครั้งนี้จึงเป็นบทเรียนสำคัญ ทุกฝ่ายทำงานเต็มที่ จึงขออภัยและขอขอบคุณของประชาชนที่ร่วมมือกัน ครั้งนี้ได้เห็นความเข้มแข็งของสื่อมวลชนและหน่วยงานในพื้นที่ ถึงแม้จะมีประเด็นดังกล่าว แต่เป็นการค้นพบผู้ติดเชื้อ 1 คนจากหน่วยงานพื้นที่ซึ่งไม่ลดละการเข้าตรวจสอบ แม้ผู้ที่เดินทางเข้ามาจะไม่ให้ความร่วมมือ

Advertisement

“ศบค.มองในภาพใหญ่และทุกคนเป็นจิ๊กซอว์ เพื่อปกป้องประเทศของเรา ขอขอบพระคุณประชาชนที่ทำความเข้าใจและให้โอกาสพวกเราทำงานให้ดีที่สุด หากมีความห่วงใยใดก็ยินดีรับไว้เพื่อการปิดรูรั่วต่างๆ” นพงทวีศิลป์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าการเรียกร้องให้ ศบค.ทบทวนสิทธิ์ VIP เหตุ รัฐบาลการ์ดตกเสียเอง นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตนเองเสียใจกับคำพูดว่าเจ้าหน้าที่รัฐการ์ดตกเสียเอง ซึ่งมีการพูดคุยกันว่าเรามีอะไรบ้างหรือไม่ที่จะต้องปรับปรุง พัฒนาให้มากที่สุด สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เรื่องที่จะต้องขออภัยและจะรับมาเป็นปฏิบัติในจุดข้อต่อเล็กๆ จุดที่หละหลวมทุกจุดซึ่งเป็นความรับผิดชอบของเรา แต่อาจจะไม่ได้ละเอียด เนื่องจากเคยคิดว่าลูกเรือจะเดินทางมาลงเพียงที่สุวรรณภูมิ แต่ครั้งนี้ไปลงที่สนามบินอู่ตะเภาซึ่งเราไม่ได้คิดในจุดนี้มาก่อน ในขณะนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะต้องดำเนินการจัดการ

เมื่อถามว่าคณะของลูกเรือชาวอียิปต์ได้ไปเที่ยวสถานบันเทิง เช่น อาบอบนวด มีข้อเท็จจริงอย่างไร นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มีการทวนสอบแล้วว่า จากการเดินทางมาประมาณ 3 คืน ได้ยืนยันแล้วว่าไม่ได้ออกไปจากโรงแรม เนื่องจากบางคืนมาถึงโรงแรมช่วงเวลา 02.00 น. และมีภารกิจที่จะต้องบินแต่เช้า จึงมีการยืนยันจากที่ประชุมว่า ไม่ได้ไป

Advertisement

เมื่อถามอีกว่าจะมีการล็อกดาวน์ หรือประกาศเคอร์ฟิวอีกครั้งหรือไม่ จะมีการเยียวยาสถานที่ที่เกี่ยวข้องอย่างไร นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การจะล็อกดาวน์หรือไม่ขึ้นอยู่กับว่า การติดเชื้อยืนยัน 1 คนจากอียิปต์มีการติดเชื้อไปยังผู้อื่นหรือไม่ หากใน 14 วันนี้มีการติดเชื้อของคนในพื้นที่ แต่มีการควบคุมได้ ก็ไม่จำเป็นต้องล็อกดาวน์ แต่หากไม่ได้รับความร่วมมือและมีการแพร่กระจายออกไปก็จะมีการจัดการตามมาตรการต่อไป ส่วนเรื่องการเยียวยาที่จะเกิดขึ้น ยังไม่มีการพูดคุยในประเด็นนี้ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น สนามมวย สถานบันเทิงย่านทองหล่อ ก็ไม่มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ว่าจะต้องมีการเยียวยา แต่หากมีการพูดคุยกันเรื่องนี้ก็จะต้องโยงไปในทุกที่ ซึ่งจะเป็นการพิจารณาเรื่องใหญ่ แต่จะพยายามจัดการให้ดีที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image